เมื่อสาหร่าย อยากกลายร่าง
ขอบคุณ ภาพจาก marketeer และข้อมูล จากเถ้าแก่น้อย
ตลาดสาหร่ายในเมืองไทยมีมูลค่ากว่า 3,032 ล้านบาท ปฏิเสธไม่ได้ว่าแข่งขันอย่างรุนแรงโดยมีผู้ประกอบการล้วนขาใหญ่นำโดย เถ้าแก่น้อย ของเถ้าแก่พันล้านอย่าง ต๊อบ-อิทธิพัทธ์ ที่ยืนชนกับขาใหญ่วงการเบียร์อย่างมาชิตะ ของค่ายสิงห์อย่างเผ็ดร้อน โดยผู้ครองบัลลังก์ “เถ้าแก่น้อย” มีส่วนแบ่งกว่า 69% ขณะที่ “มาชิตะ” ครองส่วนแบ่ง 16.7%
(ข้อมูลจาก Biznews)
ในไตรมาสแรกของปี 2563 เถ้าแก่น้อยมีรายได้ 1,110.0 ล้านบาท ลดลง 13.3% จาก Q1/62 1,280.3 ล้านบาท รายได้ที่กล่าวมานี้แบ่งเป็นรายได้จากในประเทศ 403.3 ล้านบาท ลดลง 24.2% รายได้จากต่างประเทศ 706.7 ล้านบาท ลดลง 5.5%
(ข้อมูลจาก markerteer)
ส่งผลให้ ล่าสุด ผู้นำอย่าง “เถ้าแก่น้อย” ต้องแสวงหาช่องทางหรือโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเติม จึงหันมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว ภายใต้ “Super Snacks”
ขอบคุณ ภาพจาก Biznews
เปิดตัวมาด้วย โฆษณาแรก ผ่าน musics marketing ภายใต้ สโลแกน “กรอบได้รส สนุกได้เรื่อง”
ภาพจากโฆษณา เถ้าแก่น้อย
โฆษณา เปิดตัวมาด้วยรูปแบบ ในห้องถ่ายทำโฆษณา ด้วยกลุ่มนายแบบที่กำลังแสดงท่าทีสนุกสนาน แต่เหมือนไม่ถูกใจผู้กำกับ จริงต้องมีการสั่ง คัต ไปหลายครั้ง สร้างความเบื่อหน่ายให้กับทีมงานเป็นอย่างมาก
ภาพจาก โฆษณา เถ้าแก่น้อย
ระหว่างพักถ่ายนักแสดงคนหนึ่งจึงหยิบขนมขึ้นมาทานจริง ความสนุกและเปลี่ยนแปลงจึงบังเกิด
ภาพจาก โฆษณา เถ้าแก่น้อย
หลังจากที่เพื่อนๆ เห็นความเปลี่ยนแปลง จึงได้ลองทานบ้าง
ภาพจาก โฆษณา เถ้าแก่น้อย
ทันที ที่ทุกคนทานหมด ภาพลักษณ์ จึงเปลี่ยนไปสนุกสนานมีสีสันขึ้นมาทันตา
ภาพจาก โฆษณา เถ้าแก่น้อย
สิ่งที่ แบรนด์ กำลังสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายเห็นคือความสนุกสนาน หลังจากได้ทานขนมแล้ว นัยว่าจะบอกผู้บริโภคว่า เมื่อได้ลองทานแล้วจะรู้ถึงความแตกต่าง โดยความสนุกสนานนั้นผ่านรสชาติ ที่อร่อย เผ็ด จี๊ดจ๊าด ที่อยู่ในขนมนั่นเอง
จริงๆ แล้วสิ่งที่แบรนด์ กำลังสื่อสาร ไม่ได้สร้างความแตกต่างจาก โฆษณาขนมทั่วไปเลย แม้แต่น้อย ที่ใช้รูปแบบโฆษณาแทบจะเหมือนกันคือแสดงอาการก่อนทาน และหลังทานว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรเท่านั้น
แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดถึง คงไม่ใช่เรื่องโฆษณา แต่เป็นเรื่องของ แนวทางในการทำธุรกิจ ต่อจากนี้ของ “เถ้าแก่น้อย” ต่างหาก เพราะว่า การกระโดดเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยว แบบเต็มตัว จากเดิมผลิตภัณฑ์หลักๆ จะเป็นสาหร่าย เพราะการเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยวที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 30,000 ล้าน บาท หมายความว่า เถ้าแก่น้อย จะได้ยอดขายเพิ่มขึ้น อย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย เพราะเป็นการขยายตลาดใหม่ ตามหลักธุรกิจ หมายความว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงวิธีหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ เถ้าแก่น้อยสามารถสร้างยอดขาย หรือ เพิ่ม market share ให้กับตัวเองได้มากกว่า 3,000 ล้านต่อปี ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จอาจจะม่ยอดขายระดับ หมื่นล้านก็เป็นได้ ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ ที่ภาพรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายกำลังยอดตก การกระโดดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
ขอบคุณภาพจาก marketeer
ฉันใดฉันนั้น เมื่อเราก้าวไปสู่ตลาดอื่นๆ ที่ไม่มีความชำนาญ และ การไปรุกล้ำพื้นที่ ของคู่แข่งหมายความว่าคุณกำลังท้ารบกับผู้นำหรือเจ้าตลาดเหล่านั้นอยู่ ไม่มีทางที่คุณจะได้อยู่อย่างสงบ อีกต่อไป ผมเชื่อเหลือเกินว่าเจ้าตลาดแบรนด์ต่างๆ ต้องตอบโต้อย่างแน่นอน และอาจจะหนักหน่วงถึงขั้น เข้าไปแข่งขันในตลาดสาหร่าย ที่เป็นยอดขายหลักของ เถ้าแก่น้อย ก็เป็นได้ และนั่นคงต้องดูว่า เถ้าแก่น้อย พร้อมแค่ไหนถึงหาญกล้าที่ไปปลุกเสือ เจ้าถิ่น เราคงต้องจับตาดูกันต่อไป
🙏🙏ขอบคุณข้อมูลจาก marketeer , Biznews
โฆษณาและข้อมูลจาก เถ้าแก่น้อย และอื่นๆ ที่ผมอาจตกหล่น
ขอบคุณที่ติดตาม ฝากกด like กด share และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ 😁😁
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
