Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร.ธีร์รัฐ ไชยอัคราวัชร์
•
ติดตาม
25 ก.ค. 2020 เวลา 20:25 • การศึกษา
"เกิดมาเพิ่งเคยเจอ" (revised)
สมัยเด็กเคยอ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับอิทธิปาฏิหารของพระสงฆ์ หรือพระเกจิบางองค์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนมาพบ และนั่งรอญาติโยมอยู่..
ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงอะไร.. แต่พอมาเจอเหตุการณ์กับตัวเอง.. เลยคิดค่อนมาทางน่าจะจริงครับ..
ก่อนย้ายจากจ. สกลนคร มายังกรุงเทพ .. ได้ขับรถไปทำธุระที่จังหวัดขอนแก่น..
โดยขับผ่านเทือกเขาภูพานในช่วงเช้า.. ขากลับมาจังหวัดสกลนคร เป็นเวลาใกล้ค่ำ..
ไม่อยากขับรถขึ้นเขาภูพาน ..เลยกดหาเส้นทางใหม่ เครื่อง GPS เครื่องให้วิ่งอ้อมเทือกเขาภูพาน..
ก็คิดว่าดี จะได้เรียนรู้เส้นทางใหม่..
ขับรถไปเรื่อยๆ อีกราว 40-50 กิโลเมตรจะถึงตัวเมืองสกลนคร ..
ตอนนั้นเวลา 6 โมงครึ่ง พระอาทิตย์ลับตา ฟ้าเริ่มมืด.. ต้องเปิดไฟหน้ารถแล้ว..
ขณะเลี้ยวโค้ง พลันแสงไฟรถสาดส่องเห็นป้ายทางเข้าวัด..
“วัดถ้ำโพรง..”
.. เออ.. ชื่อวัดคุ้นๆนะ ..
ในใจคิดว่า นี่ก็มืดแล้ว เราน่าจะรีบขับกลับบ้านพัก..
แต่อีกใจก็คิดว่า ..อีกไม่กี่วันเราจะย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯแล้ว.. โอกาสมากราบพระปฎิบัติ.. มาวัดป่าสายธรรมยุติคงมีน้อยมาก..
น่าจะแวะเข้าไปดูสักหน่อย ..
แม้จะไม่ได้เจอพระสงฆ์.. เพราะเวลานี้ท่านคงสรงน้ำ จำวัด เข้ากุฎิ ปฎิบัติกิจสงฆ์กันหมดแล้ว ..
แต่ถ้าได้กราบพระพุทธรูป หรือแค่เข้าไปชมวัดเอาอารมณ์ปิติ ก็ยังดี..
ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปตามป้ายบอกทาง .. ลึกเข้าไปอีก ราว 4-5 กิโลเมตร..
เป็นถนนลาดยางอย่างดี เงียบสงัด .. ร่มไม้ครึ้ม ดูทมึน.. แต่สะอาดสอ้าน..
ตามพื้นและสองข้างทางเข้าวัดไม่มีใบไม้หล่นสักใบ.. พระกวาดซะเกลี้ยง.. นี่แหละคือ สไตล์ของวัดปฎิบัติ..
ขับไปจนสุดทาง..ถึงวัด.. มีลานจอดรถในบริเวณวัด... ติดกัน เห็นเงาตะคุ่มของสิ่งก่อสร้างเล็กๆอยู่ใกล้เคียง..
รีบดับเครื่องยนต์ด้วยเกรงว่า เสียงเครื่องยนต์ดีเซลจะดังรบกวนพระ ที่อาจจะกำลังเดินจงกลมหรือปฎิบัติธรรมอยู่.. ไม่อยากให้เป็นบาป..
ค่อยๆปิดประตูรถเบาๆ.. มองไปรอบๆตัว.. หาเจดีย์ วิหาร ที่จะมีพระประธาน.. ก็ไม่มี..
ใกล้จะมืดสนิทแล้ว.. เห็นเพียงเงาลางๆของอาคาร สิ่งก่อสร้างบางส่วน ..
ใกล้กันเป็นเนินเขาสูงขึ้นไปเป็นเชิงเขาทางขึ้นเทือกเขาภูพาน..
วัดนี้ดีจัง.. ไม่มีไฟฟ้าใช้ .. หรือมีแต่คงไม่เปิด..
นี่ก็เป็นสไตล์ของวัดปฎิบัติอีกเช่นกัน..
พอมองตรงไปข้างหน้าประมาณ ห่างเกือบ 20 เมตร.. เห็นเงาศาลาเล็กๆตั้งอยู่.. มีแต่หลังคา.. ผนังรอบด้านเปิดโล่ง..
ในศาลานั้น.. มองเห็นเงาคนตะคุ่มๆ นั่งนิ่งอยู่ ..
สายตาเพ่งมองเข้าไปในความมืด.. นั่นคนนี่นาที่นั่งอยู่.. พลางคิดในใจ..
ใครเขาจะมานั่งในที่มืดๆแบบนี้..
พร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไป.. เอ.. จะเป็นคนหรือเป็นรูปปั้นหนอ. เพราะเห็นนั่งนิ่งๆไม่เคลื่อนไหว.. แต่เขาหันหน้ามาทางเรานะ..
พอเดินเข้าไปใกล้อีก.. ได้เห็นเค้าหน้าและรูปร่างก็จำท่านได้..
อ้าว.. นี่พระอาจารย์ถาวรนี่นา...
พระอาจารย์ถาวรเป็นพระสายปฏิบัติ.. รู้จักท่านครั้งแรกเมื่อราว 10 ปีก่อน..
ตอนที่ผมบวชที่วัดป่านาคนิมิตต์.. แล้วไปปฏิบัติที่วัดถ้ำผาผึ้ง จ. มุกดาหาร..เจอท่านที่วัดนั้น.. ท่านไปอยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่อ้ม..
ต่อมา ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้..
หลังจากที่ผมกลับมารับราขการที่ จ. สกลนคร ก็นิมนต์ท่านมางานทำบุญที่ศาลเป็นประจำ..แต่ไม่เคยมากราบท่านที่วัดของท่าน..
แล้วนี่ท่านมานั่งทำอะไรมืดๆตรงนี้..
รีบสาวเท้าเข้าไป นั่งกราบนมัสการต่อหน้าท่าน..
ท่านก็ยิ้มแบบขรึมๆ ..ทักทายตามปกติ..
แต่ท่านก็ไม่ถามผมว่า.. มาทำไม มีธุระอะไร หรือทำไมมาเวลานี้..
คุยกันสักพัก.. ผมสังเกตว่า ท่านนั่งอยู่องค์เดียว ไม่มีพระคอยดูแล ไม่มีญาติโยมมาพบ..
และท่านนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย..
เหมือนคอยใครอยู่ ..
คุยต่อได้สักครู่.. ท่านก็ชวนไปร่วมงานบุญสร้างพระองค์ใหญ่ ที่บ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ที่จ. อุบลราชธานี..
ผมค่อยๆเลียบเคียง ถามท่านว่า..
"มืดค่ำแล้ว ยุงก็เยอะ..
ปกติ เวลาแบบนี้.. พระอาจารย์ทำอะไร.. อยู่ที่ไหนขอรับ"
"โน่น.. บนเขาโน้น.. กุฎิอยู่ข้างบน"
ท่านตอบยิ้มๆ แล้วมองขึ้นไปบนเขาด้านหลัง ท่ามกลางความมืดสนิท..
ท่านตอบแบบนี้ ผมก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ..
คิดว่า เรารบกวนเวลาท่านมากแล้ว .. ได้เวลาสมควร.. เลยเอ่ยขึ้น เพราะคิดว่าท่านเองก็คงไม่กล้าไล่ผมกลับ..
"ผมกำลังจะย้ายกลับเข้าไปรับราชการในกรุงเทพ อีกไม่กี่วันนี้แล้ว..
เป็นโชคดีที่ผมขับรถหลงเข้ามาในวัดของพระอาจารย์ ..
ถือโอกาสกราบลาท่านด้วยนะขอรับ..
ถ้ามีโอกาสคงได้มากราบท่านอีก และได้อยู่ปฎิบัติธรรมที่นี่ ตามที่เคยขออนุญาติพระอาจารย์ไว้แล้ว.. "
"ได้สิ ได้"
ท่านยิ้ม ตอบสั้นๆ คงเบื่อผมเต็มทน.. 555
ผมเลยกราบเรียนถามท่านต่อ.. เจตนาเพื่อเป็นบทจบการสนทนา
"อืมม.. ปกติพระอาจารย์สรงน้ำตอนไหนครับ"..
"ก็ตอนนี้ นี่แหละ.. ร้อนแล้วเนี่ย เหนอะหนะ เหนียวตัว"
ท่านพูดยิ้มๆ..
"งั้น ผมขออนุญาตกราบลานะครับ"
"เออ..เจริญพรนะ"
ท่านคงคิดในใจ ..
“แหม ปล่อยให้อาตมานั่งรออยู่ตั้งนานแล้ว ..
ยังมาพูดจาร่ำไร ..ไม่กลับสักที...
อย่าเยอะให้มากนะ..
อย่าเยอะ.. อย่าเยอะ..” 555
ผมเปิดเผยชื่อท่าน ชื่อวัด และนำรูปท่านมาลงได้เพื่อยืนยันความจริง..
ไม่กระทบกับพระอาจารย์ท่าน.. ไม่รบกวนสังขารท่าน.. เพราะหลังจากผมกลับมากทม. ได้ไม่นานนัก.. ก็ทราบว่าท่านมรณภาพ..
กลับไป จ. สกลนคร ครั้งนั้น.. ก็ไปเพื่อกราบสังขารท่านในโลง..
ยังจำคำตอบของพระอาจารย์ได้เสมอ.. เมื่อครั้งที่ผมกราบเรียนถาม วิธีปฎิบัติของท่าน..
“อาตมากำลังนั่งกรรมฐาน.. จิตรวมอยู่.. ใจมันก็แยกธาตุออกมาเลย..”
“มันเอาเลือดอาตมามากองไว้ตรงหน้า.. ถัดไปเป็น มันเอากระดูกออกมากอง..
มีลมหายใจอีกกองหนึ่ง.. และมีความร้อนไออุ่นในกายกองไว้อีกกองหนึ่ง..
อาตมาดูอยู่.. สักพักหนึ่ง.. ผู้รู้มันก็ถามอาตมาว่า.. กองไหนล่ะคือ ตัวอาตมา..
วินาทีที่จบคำถามนั้น คำตอบมันก็โพล่งออกมาเลยว่า..
ไม่มี... อาตมานั้น ไม่มี..
หากในวันนั้น.. หรือวันนี้.. กระผมได้จาบจ้วงล่วงเกินในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยกาย วาจา หรือใจคิด..
ด้วยเจตนา หรือไม่เจตนาก็ดี.. กระผมกราบขอขมาไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย..
แต่หาก ผู้อ่าน ผู้ฟังท่านใด.. รู้ตามได้.. มีปิติในใจ.. เข้าใจในธรรมได้บางส่วนหรือทั้งหมด...
กระผมขอกราบถวายกุศลและสิ่งที่ดีงามเหล่านั้น น้อมนำสู่จิตของพระคุณเจ้าพระอาจารย์ถาวร..
และขอให้กุศลเหล่านั้น จงบังเกิดแก่ดวงจิตของผู้อ่านทุกท่าน.. รวมทั้ง ดวงจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลายที่กำลังเดือดร้อนอยู่ด้วยเถิด..
สาธุ..
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย