รีวิว Train To Busan : Peninsula
กล่าวย้อนไปถึง Train to Busan ภาคก่อน เป็นหนังซอมบี้สัญชาติเกาหลีที่สร้างความประทับให้กับผมเป็นอย่างมาก เนื้อเรื่องทำให้เราสามารถทำให้เราซึมซับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี มีกลิ่นอายของความดราม่าที่ลงตัว พร้อมกับตีแผ่ความธรรมชาติของมนุษย์ที่มีทั้ด้านดี-ไม่ดีให้เราเห็นอย่างเด่นชัด
เนื่อเรื่องของภาคแรกค่อยๆ ทวีความตื่นเต้น ทำให้คนดูเข้าถึงได้ไม่ยาก แม้แต่ซีนเรียกน้ำตาก็เช่นกันผู้กำกับสามารถดึงอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างมีอรรถรสทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทั้งในเกาหลี และในประเทศอื่นที่เข้าฉาย
เอาล่ะ เรากลับมาที่ Train To Busan : Peninsula กันดีกว่า ถึงแม้ว่าจะจั่วห้วด้วยชื่อเรื่องเดียวกัน แต่กลับไม่มีตัวละครที่เกี่ยวกับภาคแรกมาเลยสักนิด เพียงแค่อยู่ในไทม์ไลน์เดียวกันเท่านั้น เนื้อเรื่องทำสเกลใหญ่มาก เรียกได้ว่าเกือบจะทั้งโลกเลย แต่ดูไปดูมากลายเป็นที่เกาหลีใต้ประเทศเดียวที่มีผู้ติดเชื้อส่วนประเทศอื่นปกติสุขดี
เนื้อเรื่องพอคร่าวๆ มีประมาณว่าพวกตัวเอกที่หนีออกมาเป็นผู้ลี้ภัยในฮ่องกง และมีชีวิตความเป็นอยู่เฉกเช่นพลเมืองชั่นต่ำที่นั่น ต่อมาพวกมาเฟียฮ่องกงเล็งตัวเอกมีศักยภาพในการใช้อาวุธและต่อสู้อย่างมากเพราะด้วยเป็นอดีตทหารมาก่อนจึงได้ฟอร์มทีมเพื่อส่งกลับไปเกาหลีเพื่อไปนำเงินกลับมา โดยยื่นข้อเสนอว่าหากนำเงินกลับมาได้จะให้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้ไปแบ่งกันพวกตัวเอกจะได้นำเงินจำนวนนี้ไปตั้งตัว เรื่องก็เริ่มจากตรงนี้แหละผมไม่สปอยมากแล้วกัน
พูดถึงคุณภาพของเนื้อเรื่องและบริบทต่างๆ ตามความรู้สึกของผมนั้น เทียบกับภาคแรกไม่ติด เนื่องด้วยผู้กำกับอาจแบกรับความคาดหวังมามากไป เนื้องเรื่องจึงไปไม่สุดสักทางจะดึงดราม่าก็ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์สักเท่าไหร่ ภาคนี้ความน่ากลัวของซอมบี้เปลี่ยนไปเป็นการตีแผ่ถึงสันดานมนุษย์เมื่อมนุษย์อยากเอาตัวรอดจากสถานการณ์อะไรสักอย่างก็สามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่ทรยศพวกเดียวกันเอง
สำหรับภาคนี้ดูไปแล้วจะเน้นขายซีนบู๊มากกว่าซึ่งต้องขอบอกว่าก็สนุกดี เหมือนดู Mad Max + Tokyo Drift ฉากขับรถมันส์มาก แต่ CG งั้นๆ ในส่วนของตัวละครนั้นการแสดงไม่ได้ดึงดูดให้คนดูมีส่วนรับรู้ความรู้สึกไปด้วย ไม่รู้สึกว่าตัวละครมีการเติบโตทางอารมณ์เหมือนภาคก่อนจะดึงเข้าดราม่าก็เข้าได้ไม่สุดทำให้ตัวหนังขาดอรรถรสไปมากทีเดียว
โดยสรุปแล้วค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้มาก เพราะด้วยหวังว่าจะมีบรรยากาศแบบภาคแรกที่เราสามารถมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครได้ เนื้อเรื่องที่ครบรสมาภาคนี้หายเกลี้่ยง ผมจึงขอบอกว่าถ้าใครจะไปดูหนังเรื่องนี้อย่าคาดหวังอะไรกับมันมาก เพราะคุณอาจผิดหวังได้
ขอให้คะแนกันเลยดีกว่า เอาไปเลยครับ 4.5/10
บทวิจารณ์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว บางท่านอาจให้มากกว่านี้ต่างคนต่างใจครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
