28 ก.ค. 2020 เวลา 09:06 • ความคิดเห็น
ตีแผ่คำสั่งไม่ฟ้อง “กระทิงแดงน้อย” โดย รถชนกัน
สรุปให้ฟังตามหนังสือคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการก่อน
1. พฤติการณ์ในคดีคือ วันที่ 3 กันยายน 2555 เวลาประมาณ 5.20 นาฬิกา คุณกระทิงแดงน้อยขับรถยนต์เฟอร์รารี่อยู่เลน 3 (ติดเกาะกลางถนน) ไปตามถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก เมื่อถึงบริเวณปากซอยถนนสุขุมวิท 47-49 ขับชนท้ายรถจักรยานยนต์ตราโล่ของตำรวจ ร่างตำรวจกระแทกกระจกหน้ารถเฟอร์รารี่ หลังจากนั้นจึงตกลงไปที่ถนนถึงแก่ความตาย แล้วคุณกระทิงแดงน้อยขับรถหลบหนีไปที่บ้านในซอยสุขุมวิท 53 หลังจากนั้นมีการออกหมายค้นพบรถ พบคุณกระทิงแดงน้อย ยึดรถไว้ตรวจ ตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายในวันเดียวกัน (รายละเอียดเรื่องนี้เคยเขียนไว้แล้วหาอ่านได้ที่โพสต์ก่อนหน้านี้ https://www.facebook.com/rodchonkan/posts/316404716610820?__tn__=K-R)
2. ตำรวจสอบสวนแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องคุณกระทิงแดงน้อย 4 ข้อหา ขับรถเร็ว ชนแล้วหนี ขับรถประมาทชนรถคนอื่น ขับรถประมาทชนคนตาย แต่สั่งไม่ฟ้องเรื่องเมาแล้วขับรถชนคนตาย
3. อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตามที่ตำรวจเสนอ 4 ข้อหา และสั่งไม่ฟ้องเรื่องเมาแล้วขับรถชนคนตาย
4. อัยการส่งคำสั่งไม่ฟ้องข้อหาเมาแล้วขับรถชนคนตายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พิจารณา ผบ.ตร.เห็นด้วย ข้อหานี้เป็นอันยุติไป
5. ระหว่างนั้นคุณกระทิงแดงน้อย ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหลายครั้ง อัยการสูงสุดก็มีคำสั่งให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม
6. 3 กันยายน 2556 เป็นวันที่ข้อหาขับรถเร็ว และขับรถประมาทชนรถคนอื่น จะขาดอายุความ ก่อนหน้านั้นอัยการเลยสั่งให้ตำรวจส่งตัวให้อัยการฟ้อง แต่ตำรวจไม่ส่ง คุณกระทิงแดงน้อยไม่ไปพบอัยการ อัยการบอกให้ตำรวจออกหมายจับทันที สุดท้ายคดี 2 ข้อหานี้ก็ขาดอายุความ โดยตำรวจไม่ออกหมายจับและไม่ส่งตัวคุณกระทิงแดงน้อยให้อัยการ
7. 27 พฤศจิกายน 2556 อัยการสูงสุดมีคำสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมของคุณกระทิงแดงน้อย
8. อัยการส่งหนังสือแจ้งเตือนตำรวจให้ส่งหมายจับคุณกระทิงแดงน้อยให้อัยการ แต่ตำรวจไม่ทำ และคุณกระทิงแดงน้อยก็เลื่อนพบอัยการมาโดยตลอด
9. 1 พฤษภาคม 2560 ตำรวจส่งสำเนาหมายจับให้อัยการ อัยการแจ้งผบ.ตร.ให้จับคุณกระทิงแดงน้อยมาส่งอัยการ จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2560 ยังจับตัวไม่ได้ คดีชนแล้วหนีจึงขาดอายุความ จบไปอีก 1 ข้อหา
10. ปี 2557 คุณกระทิงแดงน้อยยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดอีกหลายครั้ง รวมถึงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ด้วย อัยการสูงสุดสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม
11. รองอัยการสูงสุด หยิบคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยเห็นว่า
11.1.เดิมที่อัยการสั่งฟ้องคุณกระทิงแดงน้อย เนื่องจากได้ความว่าขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยพตต.ธนสิทธิ ผู้ตรวจสอบความเร็วรถของคุณกระทิงแดงน้อยขณะเกิดเหตุ พบว่าขับด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. อาจคลาดเคลื่อนได้ 17 กม./ชม.
11.2.เมื่อมีการสอบสวนเพิ่มเติม พตท.สมยศ และพตท.สุรพล ตรวจดูสภาพความเสียหายรถทั้งสองคันแล้วพบว่าไม่ได้ขับเร็วถึงขนาด 170 กม./ชม. และดร.สายประสิทธิ์ พยานผู้เชี่ยวชาญ(ให้การวันที่ 23 มกราคม 2560) ให้ความเห็นว่าขณะเกิดเหตุรถมีความเร็วประมาณ 76 กม./ชม.
11.3. 2 มีค. 2559 พตท.ธนสิทธิ ให้การเพิ่มเติม(เปลี่ยนคำให้การเดิม)ว่า มีการคำนวณโดยวิธีใหม่แล้ว ความเร็วรถอยู่ที่ 79 กม./ชม. เท่านั้น
11.4. 4 ธค. 2562(ผ่านไป 7 ปี) มีพยานบุคคลเพิ่มมา 2 ปาก คือพลอากาศโทจักรกฤช และนายจารุชาติ ให้การว่า วันเกิดเหตุตนขับรถตามหลังตำรวจผู้ตายมา บอกว่าคุณกระทิงแดงน้อยขับด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม. และนายจารุชาติบอกว่าตำรวจผู้ตายขี่รถเปลี่ยนมาเลน 2 ที่ตัวเองขับอยู่ ตัวเองเลยหลบไปด้านซ้ายเพื่อไม่ให้ชนกัน หลังจากนั้นตำรวจขี่รถเปลี่ยนไปเลน 3 อย่างกะทันหัน ทำให้คุณกระทิงแดงน้อยขับชน
รองอัยการสูงสุดเชื่อคำให้การพยานที่เกิดขึ้นใหม่ 2 ปากนี้ สอดคล้องกับพยานผู้เชี่ยวชาญ และข้อเท็จจริงที่ตำรวจผู้ตายเปลี่ยนเลนกะทันหัน ตำรวจผู้ตายจึงเป็นฝ่ายประมาท และเป็นเหตุสุดวิสัย คุณกระทิงแดงน้อยไม่ผิด จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง
Comment :
###เรื่องเมาแล้วขับรถชนคนตาย###
ตามปกติเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วมีข้อสงสัยว่าผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนขับขี่หรือไม่ ไม่ว่าจะได้ตัวผู้ขับขี่ในขณะนั้นหรือภายหลังก็ตาม ตำรวจจะจัดให้มีการตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่อยู่เสมอ
ซึ่งกรณีของคุณกระทิงแดงน้อย มีการตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แต่คุณกระทิงแดงน้อยอ้างว่าดื่มหลังเกิดอุบัติเหตุเพราะเครียด
ลองคิดภาพตามนะครับ คุณเพิ่งขับรถชนคนตายมาหมาด ๆ คุณรีบขับรถหลบหนีกลับบ้านซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ที่เกิดเหตุ เพื่อซ่อนตัว ตอนนั้นตำรวจตามรอยมาจนถึงหน้าบ้านคุณแล้ว
อยู่ ๆ คุณก็นึกขึ้นมาได้ว่าดื่มเหล้าแก้เครียดดีกว่า แล้วก็เอาเหล้ามากระดกลงคอ อึกๆ
เป็นไปได้มั้ยครับ!
ลองนึกตามต่อ ระหว่างนั้นมีตำรวจคนหนึ่งพาพ่อบ้านของคุณไปมอบตัวรับผิดแทน แต่ถูกจับไต๋ได้ ตำรวจกำลังขอออกหมายค้นเพื่อเข้ามาบ้านคุณ คุณแน่ใจแล้วว่าต้องไปโรงพักแน่นอน เลยหยิบเหล้ามาสาดลงคอพรวด ๆ ก่อนไปพบตำรวจ ทั้ง ๆ ที่การดื่มเหล้าจะพบแอลกอฮอล์ในเลือด ซึ่งเป็นผลร้ายต่อคดีของคุณ
เป็นไปได้มั้ยครับ!
เรื่องนี้ผมไม่ค่อยแปลกใจกับข้ออ้างของคุณกระทิงแดงน้อยเท่าไหร่ เพราะเป็นเรื่องปกติของคนเป็นผู้ต้องหาที่พยายามหาข้อแก้ตัว หรือพูดง่าย ๆ ว่าทุกคดีก็หาเรื่องโกหกบอกตำรวจเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดอยู่แล้ว
เหมือนคดีนึงที่ผมเคยเจอ จับผู้ต้องหาได้พร้อมยาไอซ์เยอะเหมือนกัน ตรวจเลือดพบแอมเฟตามีน แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าที่ซื้อมาเยอะ ๆ นี่ไว้เสพ เพราะขี้เกียจออกไปซื้อหลายครั้ง ไม่ได้มีไว้ขาย ส่วนที่เสพก็เพราะบรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผลที่เคยถูกแทงเมื่อหลายปีก่อน
คุณว่าตำรวจเชื่อมั้ยครับ ไม่เชื่อหรอกครับ ก็เลยนำไปสู่การฟ้องคดีตามปกติ ตอนหลังผู้ต้องหาก็ให้การต่อศาลแบบนี้ จนผู้เชี่ยวชาญมาบอกว่าแอมเฟตามีนไม่ได้มีผลลดการปวด แต่เสพเพื่อความเพลิดเพลินน่ะพอได้ เลยติดคุกไปตามระเบียบ
แต่สำหรับเรื่องนี้สิ่งที่เรียกว่า “น่าประหลาดใจ” เลยดีกว่า คือการที่ตำรวจดันเชื่อสิ่งที่คุณกระทิงแดงน้อยบอกซะด้วยสิ(เชื่อง่ายมาก บอกอะไรก็เชื่อ) เลยนำมาสู่การสั่งไม่ฟ้องข้อหา เมาแล้วขับรถชนคนตาย
พอตำรวจเชื่อและทำสำนวนส่งไปให้อัยการอย่างนั้น คุณพระช่วย! อัยการก็ดันเชื่อตามซะงั้น
อัยการก็ส่งคำสั่งไม่ฟ้องข้อหานี้ไปให้ผบ.ตร. ดูอีกที ผบ.ตร.ก็เชื่อ เฮ้ย! อะไรครับเนี่ย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ต่อไปถ้าไม่พบผู้ขับขี่ที่เป็นผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวภายหลังและมีการตรวจพบแอลกอฮอล์ในเลือด แล้วผู้ต้องหาอ้างแบบนี้ ตำรวจกับอัยการจะทำงานกันยังไง?
ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ผมว่าการสั่งคดีในลักษณะอย่างนี้ ค่อนข้างผิดปกติไปหน่อย เพราะอย่างที่บอกโดยทั่วไปผู้ต้องหาก็แก้ตัวกันเป็นพัลวันอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเรื่องนี้ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า คุณกระทิงแดงน้อยเป็นคนขับรถ แล้วรถชนกันกับรถของตำรวจผู้ตาย หลังจากนั้นมีการตรวจพบแอลกอฮอล์ในเลือดของคุณกระทิงแดงน้อยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
เรื่องราวมันก็ง่าย ๆ ตรงไปตรงมา ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ผู้ต้องหาจะแก้ตัวยังไงก็ว่าไป แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐต้องวินิจฉัยและมีคำสั่งไปตามอำนาจหน้าที่
คดีนี้ไม่ปรากฏพยานหลักฐานหรือเหตุผลอันสำคัญใด ๆ ที่จะสั่งไม่ฟ้องในข้อหานี้ ลำพังเพียงแต่ข้อแก้ตัวว่าดื่มเหล้าหลังขับรถ มันไม่น่าจะฟังขึ้นเท่าไหร่
ยังมีต่ออีกยาวครับ ทั้งเรื่องความเร็วของรถ คำสั่งของตำรวจและอัยการ เดี๋ยวยกยอดไปเล่าให้ฟังในโพสต์ต่อไปดีกว่า
ขอให้ทุกคนโชคดีไม่มีเรื่องครับ❤️
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ👍👍👍
มุมน่ารู้ ไว้เล่าให้เพื่อนฟัง
- คดีขับรถชนคนตาย โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
- คดีเมาแล้วขับรถชนคนตาย โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ,291
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 140 - 147
พรบ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43(2) ,67 ,78 ,160 ตรี
#รถชนกัน #ขับรถชนคนตาย #กระทิงแดง #ไม่ฟ้อง
โฆษณา