29 ก.ค. 2020 เวลา 00:02 • ความคิดเห็น
ซีรีส์ เดินตามรอยเท้าพ่อ
ตอน น้ำ คือ ชีวิต
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนเริ่มตกชุก ใครที่อยู่ในเมืองไม่ต้องพึ่งพาน้ำฝน อาจค้อนพระพิรุณเวลาที่ท่านโปรยปรายลงมา ขณะกำลังจะออกจากที่พักไปที่ทำงาน หรือเป็นช่วงใกล้จะเลิกงานตอนเย็น
แต่ยังมีอีกหลายชีวิต ที่แหงนมองฟ้าวันละหลายครั้ง ส่งสายตาวิงวอนไปยังก้อนเมฆเบื้องบน ให้ช่วยกลั่นเป็นหยดน้ำ หยาดลงมาบนพื้นดินที่แห้งผาก และพืชพันธุ์ที่ยืนต้นด้วยความหวัง
ความที่ฝนตกไม่ทั่วฟ้าอย่างที่เขาพูดกัน คนที่รอคอยฝน ไม่ได้ฝน
ฝนตกในพื้นที่ ที่บางครั้งไม่สามารถนำน้ำฝนมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการใช้ประโยชน์จากน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การสร้างเขื่อน” เป็นหนึ่งวิธีในการบริหารจัดการน้ำ และยังได้ประโยชน์อื่นอีกเป็นอันมาก
🔶️ ประโยชน์ของการสร้างเขื่อน
🔸️ ด้านการชลประทานและการเกษตร
การสร้างเขื่อนทำให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ และนำมาใช้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ
🔸️ ด้านพลังงาน
แรงดันของน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนสามารถนำไปดันให้กังหันน้ำ (Turbine) หมุน โดยกังหันน้ำต่ออยู่กับโรเตอร์ (Rotor) ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เป็นที่มาของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
🔸️ ด้านการประมง
อ่างเก็บน้ำบริเวณเหนือเขื่อนและใต้เขื่อน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดตามธรรมชาติ
🔸️ ด้านการบรรเทาอุทกภัย
ปริมาณน้ำฝนที่ตกเหนือเขื่อน จะถูกกักเก็บไว้ในเขื่อน เพื่อชะลอการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ใต้เขื่อนอย่างเหมาะสม บรรเทาผลกระทบในช่วงฤดูน้ำหลากหรือช่วงฝนชุก
🔸️ ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม
การปล่อยน้ำจากเขื่อน จะช่วยผลักดันน้ำเค็มที่จะไหลย้อนเข้ามาตามแม่น้ำลำคลอง และสร้างผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง
🔸️ ด้านการคมนาคมและท่องเที่ยว
การสร้างเขื่อนทำให้เกิดชุมชนและกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง เป็นการสร้างงานและกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของชุมชน
🔷️ ชนิดของเขื่อน
เขื่อนถูกแบ่งเป็นชนิดต่าง ๆ โดยใช้เกณฑ์ของวัสดุที่นำมาสร้างเขื่อน
🔹️ เขื่อนคอนกรีต
เช่น เขื่อนภูมิพล เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้ง
เขื่อนภูมิพล ขอบคุณภาพจาก site.google.com
🔹️ เขื่อนคอนกรีตบดอัด
เช่น เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก
เขื่อน ขุนด่านปราการชล ขอบคุณภาพจาก www.khundan.com
🔹️ เขื่อนดิน
เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย กั้นแม่น้ำป่าสัก เริ่มดำเนินการก่อสร้าง 2 ธันวาคม 2537 และแล้วเสร็จ ในวันที่ 25 พ.ย. 2542
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขอบคุณภาพจาก www.lopburitravel.com
นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุอื่นมาทำเขื่อนได้อีก เช่น เขื่อนหิน เชื่อนหินผสมดิน เขื่อนไม้
เขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดอยุธยา
เป็นเขื่อนทดน้ำที่สร้างขึ้นเป็นเขื่อนแรก กั้นแม่น้ำป่าสัก ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2467
เขื่อนพระรามหก ขอบคุณภาพจาก www.go.ayutthaya.go.th
เขื่อนศรีนครินทร์
เป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างกั้นแม่น้ำแควใหญ่ เริ่มก่อสร้างในปี่ 2516 แล้วเสร็จในปี 2523 เป็นเขื่อนที่มีความจุมากที่สุด ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
เขื่อนศรีนครินทร์ ขอบคุณภาพจาก www.sites.google.com
✴✴✴
เมื่อพูดถึงเขื่อน เขื่อนที่มีความสำคัญที่สุดเขื่อนหนึ่ง และเป็นเขื่อนอันดับแรก ที่พสกนิกรชาวไทยระลึกถึงอย่างแน่นอนคือ เขื่อนภูมิพล แม้ว่าเขื่อนภูมิพลจะไม่ได้เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเป็นอันดับแรก และไม่ได้เป็นเขื่อนที่มีความจุการกักเก็บน้ำมากที่สุดก็ตามค่ะ
ขอบคุณภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิต
เขื่อนภูมิพล เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งแห่งเดียวในประเทศไทย กั้นแม่น้ำปิง ที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยสร้างเป็นเขื่อนเอนกประสงค์ คือมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำด้วย และมีความจุของอ่างเก็บน้ำประมาณ13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนภูมิพล เริ่มก่อสร้างเมื่อ 24 มิ.ย. 2504 แล้วเสร็จและมีพิธีเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2507
เขื่อนภูมิพลนี้เดิมมีชื่อว่าเขื่อนยันฮี เมื่อแรกเริ่มการก่อสร้าง ต่อมาจึงได้รับพระราชทานนามให้ใช้ชื่อว่า เขื่อนภูมิพล อันเป็นมิ่งมงคลยิ่งนัก
ส่วนอาคารโรงไฟฟ้า ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั้งหมด 8 เครื่อง โดยเครื่องที่ 1 ถึงเครื่องที่ 6 มีกำลังผลิตเครื่องละ 70 เมกกะวัตต์ เครื่องที่ 7 มีกำลังผลิต 115 เมกกะวัตต์ และเครื่องที่ 8 มีกำลังผลิต 171 เมกกะวัตต์
จวบจนถึงปัจจุบัน การบริหารจัดการน้ำยังเป็นวาระแห่งชาติ กรมชลประทานได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี 2560 – 2579 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์
1
กลับมาดูข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 กันค่ะ
รูปแสดงปริมาณน้ำที่มีในแต่ละเขื่อนทั่วประเทศ โดยสังเกตุจากสีที่กำหนด
ขอบคุณภาพจาก thaiwater.net
เขื่อนที่ใช้ประโยชน์ในการเป็นอ่างเก็บน้ำ กระจายอยู่ในภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศรวม 34 เขื่อน โดยแยกตามภาคได้ดังนี้นะคะ
▶️ ภาคเหนือ 8 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 24,825 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 7,497 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30
▶️ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 8,368 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 2,471 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30
▶️ ภาคกลาง 4 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 1,419 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 179 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 13
1
▶️ ภาคตะวันตก 2 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 26,605 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 15,485 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 58
▶️ ภาคตะวันออก 6 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 1,515 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 368 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 24
▶️ ภาคตะวันตก 2 เขื่อน
ปริมาณความจุของการกักเก็บ 8,194 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 4,054 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 49
⏩ รวมยอดจากทุกภาคและทุกเขื่อน ปริมาณน้ำที่เขื่อนกักเก็บได้คือ 70,926 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในปัจจุบัน 30,053 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42
✴ จากข้อมูลสำรวจเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าการเกษตรในประเทศเราใช้น้ำถึงร้อยละ 75 ของความต้องการน้ำทั้งประเทศ หรือคิดเป็นประมาณ 113,960 ล้านลูกบาศก์เมตร
แต่ปริมาณน้ำที่มี สามารถช่วยเกษตรกรในเขตชลประทานได้เพียง 65,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
นั่นหมายถึง ปริมาณน้ำที่เกษตรกรนอกเขตชลประทาน ยังต้องการอีกถึง 48,960 ล้านลูกบาศก์เมตร ‼️
📢 เมื่อเห็นข้อมูลเช่นนี้แล้ว ฉันหวังเป็นอย่างยื่งว่าเราจะช่วยกันอนุรักษ์น้ำ ใช้ประโยชน์จากน้ำที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า และรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อลดมลพิษที่จะลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติของเรา
📌 องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเคยรับสั่งเสมอว่า ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้
เพราะ “น้ำ คือ ชีวิต”
💧💧💧💧💧💧💧💧💧
ขอให้คุณมีความสุข สดชื่นและเบิกบานทุกวันค่ะ
🙂🙂🙂🙂🙂
สวัสดีนะคะ
คนไทยตัวเล็กเล็ก
29/07/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา