MORNING BRIEF : สรุปประเด็นน่าสนใจทั่วโลกประจำวันที่ 29 ก.ค. 2020
(1.) จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในหลายประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้น แม้พวกเขาจะเตรียมการเพื่อรับมือกับการระบาดอย่างดีจนกระทั้งถึงปัจจุบันนี้
ประเทศเยอรมันรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 3,611 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้นำของหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าชาวเยอรมันนั้นละเลยที่จะปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing
ประเทศจีนรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 64 คนในวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นจำนวนที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 โดยศูนย์กลางการระบาดในปัจจุบันอยู่ที่ Xinjiang นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าไวรัสจะแพร่ระบาดไปสู่พื้นที่ซึ่งชาวอุยกูร์อาศัยอยู่
(2.) ผู้ถือหุ้นของ McDonald ต่างก็ต้องทำหน้าตาบูดเบี้ยว เมื่อพวกเขาได้เผชิญกับการรายงานผลกำไรที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 13 ปีของบริษัท
มีการกล่าวโทษอย่างหนักว่ามาตรการ Lockdowns นั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจในตลาดหลักของสหรัฐฯ อเมริกา ขณะที่ Chris Kempczinski ผู้บริหารของบริษัทกล่าวว่ายอดขายสินค้าทั้งแบบ Drive-through (ผู้ซื้อขับรถไปซื้อโดยไม่ลงจากรถ) และแบบ Delivery (บริษัทไปจัดส่งตามสถานที่ต่าง ๆ) ลดลงอย่างมาก
อนึ่ง McDonald ได้วางแผนที่จะปิดร้านค้ากว่า 200 แห่งในสหรัฐฯ ภายในปีนี้
(3.) William Barr อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ได้ออกมาปกป้องในเรื่องการปราบปรามกลุ้มผู้ประท้วงที่ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในเมือง Portland รัฐ Oregon และเมืองอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อเมริกา
โดยเขาได้ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า "กลุ่มผู้ก่อจลาจลหัวรุนแรงและพวกนิยมอนาธิปไตยได้ทำให้การประท้วงต่อความอยุติธรรมทางเชื้อชาติที่ถูกกฏหมายต้องพังทลายลง"
ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคฝ่าย Democrats ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อเขาว่ากำลังยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือวาระทางการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
(4.) นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในครั้งล่าสุดนี้ เริ่มจากการประกาศขยายระยะเวลาของมาตรการกู้ยืมฉุกเฉินที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องกองทุนระยะสั้นและ รวมถึงตลาดตราสารหนี้ และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19
ก่อนหน้านี้มาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในเดือนกันยายน 2020 แต่ล่าสุด FED ได้ประกาศขยายระยะเวลาออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันสุดท้ายของปีนี้พอดี (31 ธันวาคม 2020)
(5.) Pfizer รายงานผลกำไรในไตรมาสที่ 2 ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 หัวหน้าของบริษัทกล่าวตำหนิว่ามาตรการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำการแก้ไขคาดการณ์รายได้ในปี 2020 จาก 4.86 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 5.06 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการประมาณในกรณีที่ประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdowns ลง
อนึ่ง คาดการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้คิดรวมถึงผลกำไรที่เป็นไปได้จากการขายวัคซีน COVID-19 ซึ่งบริษัทได้พัฒนาร่วมกับ BoiNTech
(6.) Peugeot บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเคส ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการฟื้นตัวของบริษัทซึ่งสามารถทำผลกำไรได้เล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 แม้ว่ารายได้ของบริษัทจะลดลง 34.5% สู่ระดับ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางฝั่งคู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Nissan ดูเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่ามาก เนื่องจากบริษัทได้คาดการณ์ว่าจะขาดทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปีนี้
(7.) Najib Razak อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลียเซีย ได้ถูกตัดสินโดยศาลอุทธรณ์แห่ง Kuala Lumpur ว่ามีความผิดใน 7 ข้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิด การฝ่าฝืนมาตรการความไว้วางใจ และการฟอกเงิน
คดีนี้ ถือเป็น 1 ใน 5 ของคดีอาญาที่มีความเกี่ยวข้องกับ Najib Razak สำหรับเรื่องที่เขามีส่วนรู้เห็นในการหายไปของเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนแห่งชาติมาเลเซีย ขณะที่เขาเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2009-2015
อย่างไรก็ตาม Najib Razak ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของเขา ขณะที่ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินโทษจำคุก 12 ปีและปรับอีกเป็นเงิน 49 ล้านดอลลาร์
(8.) อัพเดทภาพรวม Coronavirus ทั่วโลก (Graphic By Bloomberg)
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย
References :
1.The Economist Espresso ประจำวันที่ 29 ก.ค. 2020
- 32
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
