Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Good Sharing
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2020 เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
EP 26 จีนตุนเหล็กอีกครั้ง นำเข้าสุทธิ 4.4 ล้านเมตริกตัน หลังเศรษฐกิจฟื้น
ปีนี้ดูเหมือนว่าเป็นปีที่จีนจะตุนวัตถุดิบที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ไว้เยอะมากๆค่ะ ก่อนหน้านี้ก็นำเข้าน้ำมันดิบในปริมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ ครั้งนี้เป็นการนำเข้าเหล็ก โดยกลายเป็นผู้นำเข้าเหล็กสุทธิในเดือนมิ.ย. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2552 โดยเหล็กนี้มาจากอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม ท่ามกลางความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนี้
จีนเป็นประเทศที่ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยข้อมูลจากทางการจีน เปิดเผยว่า ในเดือนล่าสุด จีนนำเข้าเหล็กขั้นปลาย (finished steel) และเหล็กขั้นกลาง (semi-finished steel) 4.4 ล้านเมตริกตัน และส่งออกเหล็ก 3.7 ล้านเมตริกตัน ทั้งนี้ จีนได้ผลิตเหล็กกล้าดิบ (Crude Steel) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 91.58 ล้านเมตริกตันในเดือนนั้นด้วย
จากข้อมูลของ S&P Global Platt ที่อ้างอิงข้อมูลจากซื้อขายเหล็กในเดือนพ.ค. และมิ.ย. มองว่าความต้องการเหล็กที่แข็งเกร่งในจีนที่มากจนน่าตกใจนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กแห่นรีดร้อน (hot-rolled coil) ซึ่งใช้ในทุกอุตสาหกรรมทั้งแต่ผลิตะรถจนผลิตเหล็กแท่งที่ใช้ในการก่อสร้าง คาดว่าจะมีความต้องการจนถึงเดือนก.ค. นี้ จากการนำเข้าเหล็กที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก5.5 ล้านเมตริกตัน
ดังนั้นในระยะสั้นจะช่วยให้คู่ค้าเหล็กของจีนในภูมิภาคนี้ยังส่งออกเหล็กไปยังจีนได้ ซึ่งเป็นการทดแทนความต้องการที่อ่อนแอของตลาดในประเทศ
อย่างไรก็ตาม การซื้อเหล็กเพิ่มขึ้นของจีนที่ซื้อจากคู่ค้าในเอเชียจะเป็นไปอย่างจำกัด และมีแนวโน้มว่าจะไปหาแหล่งที่อยู่ไกลออกไปอย่างสหรัฐฯ ซึ่งทางการจีนได้ให้คำมั่นภายใต้ข้อตกลงทางการค้าเฟส 1 กับสหรัฐฯ
ความต้องการเหล็กในประเทศที่เพิ่มขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งและคาดไม่ถึงนี้ ได้รับแรงผลักดันจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ทางผู้ผลิตจีนได้มีการกักตุนเหล็กเนื่องจากมองว่าอาจจะเกิดการขาดแคลนในอนาคตได้ จึงยิ่งทำให้ความต้องการและราคาสูงขึ้น
โดยสินค้าคงคลังที่เป็นเหล็กขั้นปลาย ณ โรงถลุงเหล็กและที่ราคาตลาดใน 20 เมือง ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมเหล็กจีนนั้นเพิ่มขึ้น 10% ในเดือยมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
คงจะจำกันได้ว่าไตรมาสที่สอง จีนรายงานการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจจากที่ติดลบไป 6.8% ในไตรมาสที1 กลับมาโต 3.2% และเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของจีนหลายแห่ง ได้มีการเปิดเผยถึงกำไรที่โตต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในเดือนมิ.ย. แม้ว่าครึ่งปีแรกจะติดลบก็ตาม
นักวิเคราะห์จาก S&P Global Platts กล่าวว่าการนำเข้าเหล็กที่เพิ่มขึ้นของจีนนั้นเป็นไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่คลายล็อคดาวน์จากโควิด-19 ก่อนเป็นประเทศแรก ดังนั้นการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจและความต้องการแหล็กก็จะล้ำหน้าตลาดต่างประเทศชั่วคราว ทำให้เกิดการไหลเข้าของเหล็ก
ยิ่งไปกว่านั้น การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและสินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ได้กระตุ้นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ด้วย นักค้าเหล็กได้เข้ามาเก็งกำไรจากด้วยความหวังว่าจะมีการกระตุ้นให้เกิดสภาพคล่องเพิ่มจากเดิมซึ่งจะขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในครึ่งปีหลังของปีนี้
ทั้งนี้ ผู้ผลิตเหล็กจากจีนได้อ้างเหตุผลการส่งออกเหล็กที่ลดลงในเดือนมิ.ย. ว่าจากสาเหตุความต้องการในตลาดโลกที่หายไป เนื่องจากทั่วโลกกำลังพยายามที่จะให้เศรษฐกิจของตนเองกลับมาฟื้นอีกครั้งหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส ยกตัวอ่างเช่น ผู้ผลิตรถยนต์มากกว่า 70% ในยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งปกติซื้อเหล็กแผ่นจากจีน ได้หยุดหรือลดการผลิตลง
ความต้องการที่อ่อนแอที่ไม่ได้มาจากประเทศจีนนั้น สะท้อนให้เห็นได้จากช่องว่างระหว่างราคาเหล็กที่ห่างกันถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันระหว่างตลาดในประเทศจีนและตลาดทั่วโลก
ความต้องการเหล็กในจีนนั้น ไม่ได้มาจากเรื่องของโรงสร้างพื้นฐานหรือภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังมาจากการต่อเรือ การผลิตรถ เครื่องใช้ในบ้าน ทั้งหมดปรับตัวขึ้นหมด ซึ่งทำให้เกิดความต้องการเหล็กสองชนิดอย่างมากในเดือนมิ.ย. นั่นก้คือ เหล็กแผ่นรีดร้อน ซึ่งเป็นเหล็กแผ่นแบนใช้ในการผลิตเครื่องจักร เครื่องใช้ในบ้าน และรถยนต์ และเหล็กแท่ง เป็นเสาเหล็กใช้ในการก่อสร้าง
จริงๆแล้ว จีนเคยนำเข้าสุทธิหนักแบบนี้เมื่อช่วงวิกฤตทางการเงินโลก ปี 2551-2552 ซึ่งตอนนั้นจีนนำเข้าเหล็กสุทธิเพื่อมาสนับสนุนโครงการกระตุ้นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือราวๆ 586 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสิ่งที่เราเห็นก็คือการก่อสร้างถนนไฮเวย์ใหม่ สะพาน รถไฟหัวกระสุน และโรงงานต่างๆ ซึ่งทำให้ความต้องการเหล็กเพิ่มมากขึ้นในช่วงนั้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหล็กจีนเองก็ไม่ได้มองว่าความต้องการที่แข็งแกร่งนี้จะอยู่ยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนเองกำลังพุ่งเป้าไปที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดูเหมือนว่ากำลังร้อนแรงเกินไป
ทาง S&P Global Platts มองว่าเดือนส.ค. การนำเข้าเหล็กของจีนอาจจะลดลงมาอยู่ที่ 2.8 ล้านเมตริกตัน เพราะจีนน่าจะเริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากในเดือนมิ.ย. มีการกลับมาระบาดอีกครั้งของไวรัส รวมถึงฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ทางตอนใต้ของประเทศ
แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น การผลิตเหล็กกล้าดิบของจีนในปีนี้ ยังเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ คือขยับขึ้น 2%
ติดตาม Youtube ได้ที่
https://youtu.be/mcu8-Mmaktk
ที่มา:
https://www.spglobal.com/platts/en/market-insights/podcasts/focus/072320-asia-steel-metals-q3-outlook
https://legacy.trade.gov/steel/countries/exports/china.asp
https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3095045/china-turns-net-steel-importer-june-economy-recovers
https://www.recyclingtoday.com/article/china-net-steel-importer-june-2020/
https://sg.news.yahoo.com/china-steel-imports-top-exports-121614390.html
ภาพ:
http://www.china.org.cn/business/2018-11/26/content_74208697.htm
3 บันทึก
37
10
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
จีน
3
37
10
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย