นี่คือคำ Slogan ของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจาก Graphic Novel ของ Alan Moore คำสั้นๆ แค่ไม่กี่คำแต่แฝงไปด้วยเครื่องหมายคำถามว่ามันมีความหมายว่าอะไรกันฟะ ? Who Watches The Watchmen (ใครจะเป็นคนตรวจสอบกลุ่ม Watchmen?) และด้วย ณ ช่วงเวลาปี 2008 นั้นภาพยนตร์ Super Heroes ของ DC Comics ที่อยู่ในการดูแลของค่ายหนัง Warner Bros. กำลังอยู่ในจุดสูงสุดเท่าที่เคยมีมาหลังจากที่ The Dark Knight ของ Chirstopher Nolan ได้เข้าฉายก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการหนัง Hero ที่นำเสนอด้านมืดของหนังฮีโร่จนฉีกกฏเดิมๆไปจนหมดสิ้น กลายเป็นจุดกำเนิดของหนังแนว Dark Hero ที่ได้วางทิศทางให้กับทั้งภาพยนตร์ของ DC Comics จนมาถึงทุกวันนี้
ถัดมาอีกเพียง 1 ปีหวยก็มาตกอยู่ที่หนังเรื่อง Watchmen ที่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งจากความคาดหวังของแฟน DC เพราะการที่ The Dark Knight นั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามนั้นจึงทำให้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหากผู้ชมจะนำสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกัน และผู้ที่ Warner Bros. เลือกบุคคลที่จะมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แก่ ผกก. วัย 40 ปี ผู้ซึ่งผ่านการทำหนังให้กับสตูดิโอใหญ่มาเพียงแค่สองเรื่องเท่านั้น แต่ในภาพยนตร์ผลงานล่าสุด ปี 2006 ก็ได้แจ้งเกิดเต็มตัวจากการที่หนังประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ที่ดี โดยหนังทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า $460ล้านดอลล่าห์ และก็เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจาก Graphic Novel เหมือนกันอีกต่างหากนั้นก็คือเรื่อง "300" และ Watchmen ถือว่าเป็นการกำกับภาพยนตร์ให้กับเครือ DC Comics เป็นครั้งแรกของตัวเองอีกด้วย และจากผลงานเรื่องนี้ก็ได้ส่งให้เค้ากลายเป็นผู้กำหนดทิศทางภาพยนตร์ของ DC Comics จนมาถึงทุกในปัจจุบัน และเค้าคนนั้นมีชื่อว่า
ที่ USA ตัวอย่างหนัง Watchmen ในถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ในทุกรอบก่อนฉายหนังเรื่อง The Dark Knight ในปี 2008 และผู้คนก็เริ่มหันมาสนใจอยากอ่านการ์ตูนเรื่องนี้จนเกินความคาดหมาย ถึงกับทำให้หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ขาดตลาดไปหลายเดือนทั่วประเทศเลยทีเดียว
Zack Snyder เคยรับปากกับ Gerrard Butler ว่าหลังจากจบหนังเรื่อง 300 แล้วถ้ามี Project ใหม่จะชวนมาร่วมงานกันอีกครั้งทันที แต่ด้วยคิวไม่ลงตัวทำให้ไม่มีชื่อของ Gerrard ใน Watchmen แต่สุดท้ายเค้าได้กลับมาพากย์เสียงเป็นตัวเอกใน Animation เรื่อง Tales from the black friegther
ในช่วงเครดิตต้นเรื่องจะมีฉากที่ Nite Owl รุ่นที่ 1 ได้ชกหน้าโจรที่กำลังปล้นคู่เศรษฐีอยู่ที่หน้าโรงละครเวที ถ้าลองกดหยุดหนังช่วงนี้และเข้าไปดูป้ายด้านหลังใกล้ๆ จะเห็นคำว่า Gotham Opera House ยังไม่พอถ้ามองไปทางด้านซ้ายจะเห็นเศรษฐีสามีภรรยา ซึ่งดูจากการแต่งตัวคู่นี้แล้วคุ้นๆแฮะ ต้องใช่แน่ๆ สองคนนี้ก็คือ Thomas และ Martha Wayne พ่อแม่ของ Bruce Wayne นั้นเอง และทั้งคู่ก็ไม่ตายอีกด้วย ทำให้ในโลกของ Watchmen นั้นก็จะไม่มี Batman แล้วสิ (อันนี้ฮา 😂) แถมถ้ามองสังเกตุทางขวาเหมือนจะเห็นโปสเตอร์ Comic แบทแมนกับโรบินซะด้วย
Nite Owl รุ่น 1 ต่อสู้กับโจรที่หน้าโรงละคร Gotham ทำให้ Thomas กับ Martha Wayne รอดชีวิต
ก่อนที่ Zack Snyder จะได้มากำกับเรื่องนี้ ตอนแรก WB วางตัวผกก. ไว้คือ Tim Burton และ Johny Depp จะมารับบท The Comedian แต่สุดท้ายทั้งสองคนติดคิวถ่ายเรื่อง Sweeney Todd : The Demon Barber of Fleet Street (2007) กับ Alice in Wonderland (2010) ทั้งคู่จึงได้ปฎิเสธไป
อีกฉากที่อยู่ในช่วงต้นเครดิตคือฉากในงานเลี้ยงอำลาเกษียณของ Sally หรือ Silk Spectre รุ่นที่ 1 ซึ่งจะเห็นว่าทุกคนบนโต๊ะอาหารนั้นมี Position กำลังทำท่าทางเดียวกับในภาพวาด The Last Supper ของ Leonardo DaVinci แม้แต่ฉาก Background ยังเหมือนกันเปี๊ยบ หรือเพราะหนังกำลังจะบอกใบ้อะไรอยู่รึเปล่า ?
ฉาก The Last Supper
Watchmen คือภาพยนตร์เรื่องแรกของ DC Comics ที่เป็น Rate R และมีฉากเปลือย