30 ก.ค. 2020 เวลา 06:22 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#ทองคำ แพงมีโอกาสแตะ 2,100 ดอลลาร์
#ปัจจัยพื้นฐาน หนุน - #สัญญาณเทคนิค สวย
#ซีไอเอส (#CISThai) เผย #ราคาทองคำ ยังมีปัจจัยพื้นฐานหนุนราคาขึ้นต่อได้ในระยะยาว โดยมีเป้าหมายทางเทคนิคที่ระดับ 2,100 #ดอลลาร์สหรัฐ แต่ระยะสั้นระวัง #การเทขาย เนื่องจากเข้าเขตซื้อมากเกินไป คาดราคาหลังจากนี้จะมี #ความผันผวน มากขึ้น ณพวีร์ พุกกะมาน - Pedro นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรม #การลงทุน รูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า #ราคาทอง คำยังคงเดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยืนเหนือ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในปี 2012 หากยังสามารถยืนอยู่เหนือระดับดังกล่าวได้ต่อเนื่อง มุมมอง #เชิงเทคนิค มีโอกาสที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ระยะสั้นอาจมีการเทขายทำกำไรจากการที่เริ่มเข้าเขตซื้อมากเกินไป (#Overbought) โดยมี #แนวต้านทางจิตวิทยา ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน่าจะเป็นระดับที่มีนักลงทุนรอขายเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันค่า #RSI ได้วิ่งขึ้นมาแตะระดับ 90 แล้ว
อย่างไรก็ตามในระยะยาวยังมีปัจจัยพื้นฐานที่สามารถหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็น #แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย #สภาครองเกรส ได้อนุมัติแผนเยียวยา #เศรษฐกิจ มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์มากกว่าเม็ดเงินช่วยเหลือ #สถาบันการเงิน จากผลกระทบ #วิกฤตเศรษฐกิจ แฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2008 และปี 2009 อย่างไรก็ตามหนี้ที่เกิดขึ้นกว่า 23.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ยังไม่มี #งบประมาณ เพียงพอที่จะจ่ายได้
“แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ #ธนาคารกลาง #สหรัฐอเมริกา หรือ #FED เพราะสามารถลด #อัตราดอกเบี้ย เหลือ 0% และเร่ง #อัดฉีดเม็ดเงิน เสริม #สภาพคล่อง อย่างไม่จำกัด ด้วยการ #พิมพ์เงิน กว่า 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เข้ามาซื้อหนี้ก้อนนี้ได้ อีกทั้ง ไม่เฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ต้องปั้มเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลทั่วโลกต่างอัดฉีดเงินนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าไป #พยุงเศรษฐกิจ ที่ชะงักจากการแพร่ระบาดของไวรัส #โควิด19 กล่าวได้ว่าแต่ละรัฐบาลลดมูลค่าสกุลเงินของตัวเองลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ”
นอกจากนั้น ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบาย #อัตราดอกเบี้ย และ #ผลตอบแทน #พันธบัตรติดลบ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พันธบัตรรัฐบาลมีผลตอบแทนติดลบ มีมูลค่าแตะ 15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลตอบแทนที่ติดลบนี้ ทำให้เม็ดเงินนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลออกจาก #กองทุน #บำเหน็จบำนาญ และพอร์ตของ #บริษัทประกัน เข้าไปยังทองคำ ซึ่งถูกมองว่าเป็น #สินทรัพย์ปลอดภัย มากขึ้น และผลักดันราคาทองคำให้ปรับขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องจับตา คือธนาคารกลางอื่นทั่วโลกกำลังใช้ทองคำมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐด้วยการนำมาเก็บไว้ใน #ทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีนและรัสเซียที่เข้าซื้อทองคำ เพราะต้องการ #ประกันความเสี่ยง กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ถืออยู่ โดยรัฐบาลจีน ได้เพิ่มซัพพลายของทองคำขึ้นกว่า 210% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ #รัฐบาลรัสเซีย ที่เพิ่มสัดส่วนของทองคำกว่า 388% ตั้งแต่ปี 2006 ทำให้กลายเป็นประเทศผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ประเด็นสำคัญที่ทำให้ทองคำปรับตัวพุ่งแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ #ค่าเงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงต่อเนื่องผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ พิมพ์เงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เริ่มติดลบ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่ลดลง และประเด็นใหม่คือความตึงเครียดทางการทูตกับจีน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำรวมถึง #สินค้าโภคภัณฑ์ อื่นๆ
“เห็นได้ว่าจาก #ปัจจัยมหภาค ผู้ซื้อทองคำ คือนักลงทุนสถาบันรวม และธนาคารกลางใหญ่ของโลก แม้นักลงทุนรายย่อยจะมีต้นทุนทองคำในระดับที่ต่ำ หากมีการเทขายออกมาก็อาจไม่ส่งผลต่อราคาทองคำในตลาดโลกมากนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องพบเจอหลังจากนี้ คือความผันผวน ของราคาทองคำจะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
โบรกที่ตอบโจทย์ใน #การลงทุน ทอง คือ www.gmiedge.com
เพราะสามารถลงทุนทองแบบถือยาวได้ไม่มี Swap และมี Leverage สูงถึง 1:2000
ฟรี ! ห้องไลน์ FC แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พูดคุยทุกเรื่องการลงทุน คลิกที่นี่:
อย่าลืม !! download line sticker มาใช้คุยกันด้วยนะครับ:
#nbukkamana #ณพวีร์ #เปโดร #พุกกะมาน
Line Official: https://lin.ee/uIw3lu9
โฆษณา