30 ก.ค. 2020 เวลา 18:03 • กีฬา
CHELSEA F.C.
เครดิตรูปภาพ:https://chelseafclatestnews.com/chelsea-fc-squad-team-all-players/
การก่อตั้งสโมสร
ทีมฟุตบอลสโมสร เชลซี ได้ก่อตั้งเมื่อ 1905 ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตฟูแล่ม , ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลอนดอน เมือหลวงของประเทศอังกฤษ ที่มีทีมฟุตบอลอยู่อีกมากมาย ทั้งในระดับพรีเมียร์ลีกและลีกต่างๆ โดยมีฉายาของทีมเชลซีมากมาย เช่น
สิงห์สำอาง , สิงโตน้ำเงินคราม , สิงห์บลู แถมเคยได้แชมป์ลีกและถ้วยต่างๆ รวมถึงการตกชั้นมาครบรส จากเวลาอันยาวนานกว่าร้อยปีที่ผ่านมา
ประวัติทีม
ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 10 มีนาคม 1905 (พ.ศ.2448) ที่ผับแห่งหนึ่งชื่อ The Rising Son
(ปัจจุบันคือ เดอะบุชเชอร์สฮุก)ตั้งอยู่ตรงข้ามถนนฟูแล่ม จากนาย กุส เมียร์ส ที่ได้
เริ่มต้นใช้สนามวิ่งมาปรับเปลี่ยนเป็นสนามฟุตบอล โดยใช้การคิดชื่อทีมกันอยู่หลายครั้ง ทำให้สนามอาจจะไม่ได้อยู่ในชุนชนของเชลซีเอง แต่อยู่ในทางเชื่อมระหว่าง
ฟูแล่มกับเชลซี ซึ่งเกือบจะใช้ชื่อทีมว่าฟูแล่มแล้วด้วย เพราะว่าอยู่ในเขต แต่ว่าทีม Fulham มีการใช้ไปก่อนแล้ว รวมถึงทีมยังเคยใช้ชื่ออย่าง เคนชิงตันเอฟซี ,
สแตมฟอร์ดบริดจ์ เอฟซี รวมถึง ลอนดอนเอฟซี ก่อนจะมาลงตัวที่ชื่อ เชลซีเอฟซี
อย่างในปัจจุบัน เริ่มสร้างชื่อเสียงในการเป็นทีมน่าจับตา เมื่อเล่นในลีกสูงสุดได้
เพียง 2 ปีหลังก่อตั้ง ก็ได้ก้าวเข้ามาชิงรายการเอฟเอได้สำเร็จ ในปี 1915 แต่พลาดท่าไป การพัฒนาจึงไม่หยุดหลังจากนั้น มีซื้อนักเตะเข้ามามากมาย จนทีมสามารถ
มาจบอันดับที่ 3 ของตามรางได้ปี 1919-1920 และมาเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 ในเวลาต่อมาได้ปี 1954-1955
สนาม stamford bridge ในอดีต
สนาม stamford bridge ในปัจจุบัน
stamford bridge สนามของทีม chelsea
มีชื่อว่า สแตมปร์ดบริดจ์ ( Stamford Bridge ) ตั้งอยู่ที่เมืองลอนดอนเขตฟูแล่ม
เริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 20 เม.ษ. 1877 มีทาง อาชิบัลด์ ลีตช์ สถาปนิกออกแบบสนาม
แห่งนี้ให้เปลี่ยนตาไป และจนถึงปัจจุบันมีการแก้และเพิ่มเก้าอี้ไปหลายครั้ง จนตอนนี้มีความกว้างกวางมากขึ้น มีความจุดตอนนี้ 41,841 มีพื้นที่ 103 x 67 เป็นสนาม
กีฬาฟุตบอลที่มีอายุมากต้นๆของอังกฤษ ขนาดสนามคือ 103 x 67 เมตร การปรับ
ปรุง 2 ครั้งคือในปี 1904-1905 และ 1990
สถิติสนามผู้ชมสูงสุด : พบกับ ทีมอาร์เซนอล 12 ตุลาคม 1958 จำนวน 182,905 คน
สถิติสนามผู้ชมน้อยที่สุด : พบกับ ทีม ลินคอล์น ซิตี้ 17 กุมภาพันธ์ 1960 จำนวน 110 คน
ตราสโมสร
ตราโลโก้แรกของทีมเชลซีใช้ปี 1905 -1952 ซึ่งมีรูปหน้าคนแก่ปรากฏอยู่ เชื่อว่าเป็นขุนนางเก่าแห่งอังกฤษ ทำให้ช่วงนั้นได้รับฉายาทีมว่า The Pensioner หรือ ข้าราชการ ประมาณนั้น ไม่ได้เคยมีการปักลงเสื้อลงแข่งขันแต่อย่างไร แต่มีให้เห็นในตารางการแข่งขันหรือโปรแกรมในทีวีแต่ก่อน
ตราสโมสรแบบที่ 2 ใช้งานในปี 1952 – 1953 โดยมีความตั้งใจให้มีตัวหนังสือ C.F.C และสีน้ำเงินเด่นชัด เพื่อเปลี่ยนตัวตนและฉายาของทีม กลายมาเป็น The Blues โดยใช้สีน้ำเงินเป็นหลักเพื่อให้เป็นที่รู้กัน ว่าสีนี้คือสีแฟนคลับของทีม แต่ก็ใช้งานได้แค่ 1 ปีเท่านั้น
แบบที่ 3 อยู่ในปี 1953 -1986 เป็นตราที่มีอิทธิพลและใช้งานมานานที่สุดของสโมสร การออกแบบคลาสสิคได้รับการใช้งานมา 33 ปี ขอบรอบวงกลมนอกเป็นลายที่ได้อิทธิพลมากแขนเสื้อจากขุนนาง ที่ประจำอยู่ที่เมืองและได้รับการนำมาผสมกับรูปสิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้า โดยไม้เท้าคือตัวแทนแห่งความรู้และการศรัทธา จึงได้ถูกนำมาไว้ในโลโก้ของทีม ทำให้เป็นสัญลักษณ์ที่ค่อนข้างดูคลังและน่าเกรงขาม และฉายาสิงห์โตสีน้ำเงินก็เลยติดตาแฟนบอล และกลายเป็นฉายาและบอกความเป็นตัวตนได้อย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้โดนบรรจุว่าเป็นสัญลักษณ์ของทีมอย่างเป็นทางการ แต่คนที่ดูบอลก็ให้การยอมรับว่านี้คือสิ่งที่สื่อถึงเชลซีได้ดีที่สุด
ตราสโมสรแบบที่ 4 อยู่ในปี 1986 -2005 ทางสโมสรในปี 1986 เกิดความต้องการปรับเปลี่ยนโลโก้อีกครั้ง เพื่อจะเป็นตัวกระตุ้นการขายสินค้าให้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อหรือว่าลูกฟุตบอล ที่วงการฟุตบอลเริ่มมีรายได้มากขึ้น จากการจำหน่ายของที่ระลึก ทางทีมทำให้โลโก้รูปสิงโตมีความชัดเจนมากขึ้น มีพื้นสีน้ำเงินที่เป็นสีของทีม บวกกับตัวหนังสือตัวย่อของทีมที่ลงตัว ทุกอย่างจึงเป็นที่จำจดของแฟนคลับรวมถึงทีมอื่นด้วย โดยทีมใช้มา 19 ปีจนมีการเรียกต้องให้ปรับกันอีกครั้งในเวลาต่อมา
ตราสโมสรแบบที่ 5 อยู่ในปี 2006 – ปัจจุบัน เกิดขึ้นในช่วงที่มีแฟนบอลอยากได้โลโก้ใหม่ และตรงกับในเวลาที่ทีมกำลังครบ 100 ปีของสโมสรด้วย จึงเป็นวาระที่ทีมได้คิดค้นโลโก้ใหม่เข้ามาอีกครั้ง โดยได้อิทธิพลแนวคิดมาจากแบบที่ 3 เต็มๆ แต่มีการปรับให้เข้ายุคทันสมัย ด้วยการเติมสีขาวเข้าไปไว้ในส่วนกลางหลังสิงโต และไม้เท้าจากที่เป็นสีทองก็มาเป็นน้ำเงินไปแทน แฟนบอลชอบกันมาก รวมถึงคณะทำงานใหญ่ของทีมอย่าง ปีเตอร์ เคนยอน ในตอนนั้น ที่ออกมากล่าวถึงการได้โลโก้นี่เป็นเรื่องของเวลาหามาน กว่าจะมาเจอกับการออกแบบที่เข้ากับทีมที่สุดในที่สุด ทั้งประวัติศาตร์ของสิงโตและสีน้ำเงิน ต่อจากนี้ทีมจะใช้แบบนี้ตรานี้ไปตลอด
เสื้อฟุตบอลและสปอร์นเซอร์สนับสนุน
ทีม เชลซี เริ่มต้นการลงสปอร์นเซอร์ทีมบนหน้าอกครั้งแรก เกิดขึ้นในฤดูกาล 1983-84 โดยตอนนั้นสโมสรใช้เสื้อจากแบรนด์ Le Coq Sportif โดยเลือกสปอร์นเซอร์ Gulf Air มาอยู่ที่เสื้อเป็นการประเดิม แต่ก็ใช้เพียงปีเดียวเท่านั้น ก่อนจะปล่อยว่างไป 3 ปี หลังจากนั้น
หลังต้องรอผ่านไป 3 ฤดูกาลกับเสื้อแบบโล่งๆ ทีม เชลซี ได้มาใส่สปอร์นเซอร์ Commodore ในปี 1987-88 โดยเสื้อเป็นของทางแบรนด์ Umbro ซึ่งใช้ลากยาวมาจนถึง 1993
ฤดูกาล 1993-1994 มีการปรับสปอร์นเซอร์ที่หน้าอก รอบนี้คือ AMIGA มาสนับสนุนทีม แต่ก็ใช้ได้เพียงปีเดียวอีกแล้ว มี Umbro เป็นยี่ห้อที่ทีมไว้ใจให้ทำเสื้ออยู่
Coors ก้าวมาประจำที่อกเสื้อนบตั้งแต่ปี 1994-95 จนถึงปี 1997 ถือว่าเป็นการเซ็นยาวมากในเวลานั้น ซึ่งทางทีมก็ยังยืนหยัดกับทาง Umbro เช่นเคย ในการผลิตเสื้อการแข่งขันให้กับทางทีม
1997-98 มีการเปลี่ยนแปลงในวงการอย่างมาก รวมถึงการออกแบบเสื้อแข่งขันที่เริ่มทันสมัยมากขึ้น ทางสโมสร เชลซี เองก็ได้มีการใช้ผู้สนับสนุนใหม่ด้วย โดยเป็นทาง AUTOGLASS ที่เข้ามา แต่ยังคงใช้ Umbro เหมือนเดิม ประจวบเหมาะกับผลงานที่เริ่มดีขึ้น ทำให้คนเริ่มจำชุดแข่งได้ติดตามากขึ้น โดยใช้ถึงปี 2001
ฤดูกาล 2001-2002 ทีม เชลซี ได้กลับมาใช้ผู้สสนับสนุนหลักเป็นสายการบินอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นทาง Fly Emirates สายการบินจาก UAE ที่ยอมลงทุน โดยกินเวลา 4 ปีในการอยู่ติดบนเสื้อแข่ง
และมาถึงจุดพีกของสโมสร เมื่อซีซั่น 2005-2006 ครบ 100 ปีสโมสรพอดี ที่มีเงินเข้ามาหมุนมากมาย ทีม เชลซี เองก็โดนการซื้อสโมสรจากเศรษฐีรัสเซีย อย่าง เสี่ยโรมัน ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนมากมายทั้งนักเตะและโค้ช และรวมถึงสปอร์นเซอร์ของทีม ที่กลายเป็น SAMSUNG mobile ในที่สุด และเป็นปีสุดท้ายของ Umbro พอดี ผลงานในปีนี้กระชากให้ทุกคนต้องมอง กับการเป็นแชมป์ลีกได้สำเร็จ
2006 หลังจากประสบความสำเร็จจากปี 2005 อย่างมากมาย ทางทีมก็ต่อยอดด้วยการใช้ SAMSUNG mobile ท่อน้ำเลี้ยงต่อ แต่ว่ามีทาง Adidas ที่เข้ามาเซ็นกับทีม ในการจัดการชุดแข่งขันหลังจากนั้น 2 ปี ก่อนมีการปรับอีกครั้ง
เริ่มปี 2008-2009 ทีมหันมาแก้ไขการใช้ตัวหนังสือที่หน้าอก โดยใช้คำว่า SAMSUNG อย่างเดียว รวมกับการออกแบบของ Adidas ที่สวยงาม ปรับการออกแบบในแต่ะลปี แต่ยังใช้ 2 แบรนด์นี้ยาวไปถึงปี 2015 นับว่าเป็นการเซ็นยาวของทางซัมซุง และทีมก็ทำผลงานในช่วงนี้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
2015-16 ถึงคราวที่ทีม เชลซี ต้องขยับหาสปอร์นเซอร์ใหม่อีกรอบ และในคราวนี้เป็นทาง YOKOHAMA TYRES ที่ได้รับการเลือกมา และยังคงเป็นทาง Adidas ที่ยังเป็นแบรนด์ที่ยังมีสัญญากับทีมอยู่ โดยเหลืออยู่ 2 ปี ก่อนจะหมดลงในปี 2017
2017-2018 (ปัจจุบัน) โลโก้ที่หน้าอกยังคง YOKOHAMA TYRES อยู่ แต่ว่าทางทีมได้เปลี่ยนชุดแข่งเป็นทาง Nike ที่เข้ามารับช่วงต่อ กับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียบหรู
ถ้วยรางวัลและเกียรติยศ
UEFA Champions League : แชมป์ฤดูกาล 2011-12
FA Cup : แชมป์ฤดูกาล 1969-70 , 1996-97 , 1999-2000 , 2006-07 , 2008-09 , 2009-2010 , 2011-12
League Cup : แชมป์ฤดูกาล 1965-65 , 1997-98 , 2004-05 , 2006-07
FA Community Shield : แชมป์ฤดูกาล 1995 , 2000 , 2005 , 2009
Second Division (แชมป์ดิวิชั่น2): แชมป์ฤดูกาล 1983-84 , 1988-89
Full Members Cup : แชมป์ฤดูกาล 1985-86 , 1989-90
First Divion (แชมป์ลีกเก่า) / Premier League : แชมป์ฤดูกาล 1954-55 (FD) , 2004-05 , 2005-06 , 2009-10 ,2014-15 , 2016-17
UEFA Champions League : แชมป์ฤดูกาล 2011-12
Europa League : แชมป์ฤดูกาล 2012-13
Cup Winners Cup : แชมป์ฤดูกาล 1970-71 , 1997-98
Super Cup : แชมป์ฤดูกาล 1998
โฆษณา