1 ส.ค. 2020 เวลา 07:17 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“ทุกครั้งที่ทำขนมปังหล่น ด้านที่ทาเนยเอาไว้จะคว่ำลงพื้นตลอด”
เมื่อเห็นสำนวนภาษิตฝรั่งกัดจิกเล็กๆนี้ ผมจะนึกถึงอีกภาษิตนึงเรียกกันว่า
กฏของเมอร์ฟี่
กฏของเมอร์ฟี่กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ปี 1946ว่า
if there is a wrong way to do something, then someone will do it. ถ้ามันมีวิธีผิดพลาดในการทำอะไรสักอย่าง จะต้องมีคนทำมันแน่นอน
แต่ที่ทำให้ผมอึ้งคือ ในปี 1996 มีนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งได้รับรางวัล "อิก โนเบล"(Ignoble Nobel prizes เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผลงานทางวิทยาศาสตร์หรืองานวิจัยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้) เพราะดันมาทำการวิเคราะห์ภาษิตของเรื่องขนมปังนี้ด้วยหลักการฟิสิกส์
Robert A.J Matthews นักคณิตศาสตร์ กับ การสาธิตฟิสิกส์เรื่องขนมปังหล่น
คุณ Matthew กล่าวเอาไว้ว่า เขาเองเดิมทีก็คิดว่ามันมีโอกาส 50:50 ที่ขนมปังมัน
จะหล่นแล้วหน้าเนยคว่ำพื้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆ เขาจึงทำการทดสอบแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ 100% มันจะเกิด "หน้าเนยคว่ำพื้น"
100% ทั้งหล่นจากโต๊ะ หรือ หล่นจากจานขณะเดินถือมาเสริฟ
Diagram ของคุณ แมทริว อธิบายความสัมพันธ์ของขนมปังกับความสูง
คณิตศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือ
ช่วงเวลาที่ขนมปังหล่นบนพื้นนั้นขนมปังจะสวิงตัว และมันสามารถพลิกเอาหน้าที่ทาเนยหงายขึ้นได้ แต่มันต้องการความสูงอยู่ในช่วง 2.5 - 3 เมตร!! คนปกติทั่วๆไปไม่มีใครใช้โต๊ะสูงขนาดนั้นในการทำกับข้าว
ด้วยความที่ความสูงของโต๊ะไม่พอให้มันกลับตัว หน้าเนยจึงคว่ำเสมอ
งั้นเราจะแก้ปีญหานี้เรื่อง หน้าเนยคว่ำอย่างไรดี
คุณแมททิวให้คำแนะนำน่ารักๆเอาไว้อย่างนี้
"ถ้าอยากให้ขนมปังสวิงตัวเร็วกว่านี้ก็ให้ชิ้นใหญ่ๆหน่อย
หรือถ้าคุณรู้ว่ามันจะหล่นจากจานก็ให้ดันจานเพื่อหยุดการรับแรงเคลื่อนที่
แต่คำแนะนำสูงสุดของผมคือ ผมว่าคุณแค่ระมัดระวังมันจะหล่นจะดีกว่านะ"
Robert A.J Matthew
ผู้เขียนฟังแล้วอมยิ้ม ไปหาขนมปังมาทาเนยกินเลยทีเดียว
โฆษณา