การเข้าสู่ยุคชาวศิวิไลซ์ ของประเทศไทย
ภาพจาก pixabay
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤตด้วยศรัทธา
สู่ฟ้าสีทองผ่องอำไพ
นี่เป็นคำกลอนเก่าแก่ที่ได้เผยแพร่กันมายาวนานมากกว่า 30 ปีแล้ว และไม่ทราบผู้แต่งว่าใครเป็นคนแต่ง
ความจริงบทกลอนฉบับเต็มนี้จะยาวกว่านี้มาก ผู้เขียนได้ตัดมาเฉพาะส่วนที่เป็นเหตุการณ์ในปัจจุบัน นั่นคือตอนจบของคำกลอน เพราะตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค รัชกาลที่ 10 แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ประเทศไทยของเราได้เผชิญกับวิกฤตโรคระบาด covid 19 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตามมาซึ่งเป็นกันทั้งโลก
กล่าวคือขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนสมัครสมานสามัคคีกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประเทศไทยของเรา ก็จะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ คำว่ายุคมหาชนนำไป ที่อยู่ในคำกลอนนี้ ผู้เขียนคิดว่า ในปีนี้คำว่ายุคมหาชน ได้แสดงพลังให้เราทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจน
ภาพจาก pixabay
มหาชนก็คือ social network นั้นเอง ที่ช่วยเชื่อมเราทุกคนไว้ด้วยกัน ข้อมูลข่าวสารก็ว่องไวและชัดเจนไม่สามารถจะหลอกหรือปิดบังอำพรางได้เหมือนสมัยก่อน
โดยเฉพาะคดีของคุณวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งผู้เขียนจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของคดี เพราะว่ามีคนพูดถึงไปมากแล้ว
แต่ผู้เขียนเห็นว่าคดีนี้ มหาชน social network หรือเราทุกคน ได้มีส่วนร่วมในคดีนี้อย่างมาก
ภาพจาก Wikipedia
ประชาธิปไตยในประเทศไทยกำลังเบ่งบานอย่างมาก เพราะทุกคนให้ความสนใจ มีการตั้งกระทู้ถาม ทุกคนช่วยกันออกความเห็นวิเคราะห์วิจารณ์มีการตรวจสอบหน่วยงานรัฐบาลและข้าราชการอย่างเต็มที่ ในคดีนี้
ฝ่ายรัฐบาลหรือผู้ถืออำนาจรัฐ ไม่สามารถจะปิดบังหรืออำพรางคดีได้เหมือนแต่สมัยก่อน เพราะจะต้องถูกตรวจสอบและขุดคุ้ยอย่างละเอียด
ต่อไปใครจะเป็นรัฐบาลหรือว่าใครจะเป็นข้าราชการ จะทำการทุจริตคอรัปชั่น ก็จะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้
ปัญหาของประเทศไทยไม่อยู่ที่ระบอบปกครอง แต่อยู่ที่กลไกการตรวจสอบ ไร้ประสิทธิภาพและทำให้เกิดทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่สำคัญของรัฐบาลและข้าราชการทุกยุคทุกสมัย
การเข้ามาของระบบ social network จะทำให้กลไกตรวจสอบแข็งแรงและทรงประสิทธิภาพ เพราะประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว
ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง ไม่มีส้ม หรือ หลากสี ทุกคนเป็นประชาชนชาวไทยเหมือนกัน
ผู้เขียนจึงเสนอให้ตั้ง สภาประชาชน online ซึ่งเป็นที่รวมของประชาชน ทุกสาขาอาชีพ สื่อมวลชน ทุกภาคส่วน เพื่อมามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลและข้าราชการ
ภาพจาก pixabay สภาประชาชน ออนไลน์
เมื่อมีเคสที่น่าสนใจ เช่น คดีคุณปรีณา คดีคุณบอส คดีหวยครูปรีชา เป็นต้น สภา online นี้ก็จะมาช่วยกันระดมสมอง หาหลักฐาน หาความคิดเห็น และช่วยกันเกาะติดคดีที่น่าสนใจ ไม่ให้เงียบหายไปตามกระแส
ในท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนคิดว่า การก่อม็อบ เป็นเรื่องไร้สาระมาก และไม่ได้มีผลกระทบต่อรัฐบาลเลย ไม่ควรทำ ทำให้ประเทศชาติวุ่นวายด้วย เป็นสิ่งที่ล้าสมัยแล้วในปัจจุบัน
ภาพจาก pixabay
เรามาช่วยกันตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาล การบริหารงาน ดีกว่า ถ้าพบข้อบกพร่องมาก สุดท้ายรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้ไปเอง ล้มไปเอง เผลอๆ อาจจะติดคุกด้วย โดยพลังของ social networks นั่นเอง
แต่ถ้ารัฐบาลไหนทำผลงานได้ดีเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน มีความโปร่งใส รัฐบาลนั้นก็จะได้รับเลือกตั้งอีก อยู่ไปอีกนานแสนนาน
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
