𝙑𝙞𝙩𝙖𝙢𝙞𝙣 𝘾 วิตามินที่ทุกคนรู้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยให้ผิวสวย!
แต่จะต้องบริโภคเท่าไรถึงจะเหมาะสม? และจะหาวิตามินซีได้จากแหล่งใดบ้าง?
วันนี้ดาวมีคำตอบให้ทุกคนค่ะ
𝙑𝙞𝙩𝙖𝙢𝙞𝙣 𝘾 วิตามินที่หลายคนรู้ว่า ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ป้องกันหวัด และช่วยให้ผิวกระจ่างใส หน้าแลดูอ่อนเยาว์ ไม่แก่ก่อนวัย
โดยดาวขอจำแนกปริมาณวิตามินซีที่เราต้องการเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. ปริมาณวิตามินซีที่จำเป็นต้องได้รับได้แต่ละวัน
2. ปริมาณวิตามินซีที่ต้องการในการหวังผลเรื่องเพิ่มภูมิต้านทานและผิวสวย
🍊 ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับได้แต่ละวัน
▪️ เด็กชาย – หญิง 50 มิลลิกรัม/วัน
▪️ ผู้ชาย 90 มิลลิกรัม/วัน
▪️ ผู้หญิง 75 มิลลิกรัม/วัน
▪️ หญิงที่กำลังในนมบุตร 120 มิลลิกรัม/วัน
ปริมาณดูไม่เยอะเลยใช่มั้ยคะ?
หลักร้อยเอง แค่เราทานผลไม้ เช่น ฝรั่ง 100 กรัม ก็ได้วิตามินซีครบแล้ว
แต่ถ้าเราหวังผลเรื่องช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันหวัด และช่วยให้ผิวกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ ไม่แก่ก่อนวัย เราต้องทานวิตามินซีให้ได้ 1,000 มิลลิกรัม/วัน
โอ้โห...เยอะขึ้นมาทันที 👀
จากหลักร้อย กลายเป็นหลักพัน
ซึ่งเราสามารถบริโภคผักและผลไม้ให้ได้วิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ได้
โดยการเลือกทาน (ไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริมให้เปลืองตัง)
ดาวต้องบอกว่า คนไทยเราโชคดี บรรดาอาหารไทย ผัก ผลไม้ที่หาทานได้ในไทย
อุดมไปด้วยวิตามินซี
หลายคนอาจจะกำลังบอกดาวว่า....
อะไรที่มีวิตามินซี เปรี้ยวๆ ทั้งนั้น ใครจะไปทานได้ทุกมื้อ ทุกวัน
ขอบอกว่า คุณกำลังเข้าใจผิด...บางอย่างที่ไม่เปรี้ยว วิตามินซีเยอะกว่า 🍊 ด้วย
เช่น พริกหวาน บล็อคโครี่ คะน้า ฝรั่ง ขนุน มะละกอ
*ส้มเขียวหวาน 100 กรัมบริโภค ให้วิตามินซีแค่ 42 มิลลิกรัมเองนะคะ 😅
กรณีคิดว่า เราบริโภควิตามินซีไม่พอแน่ๆ การพึ่งพาอาหารเสริมก็ช่วยได้ค่ะ
แต่ไม่ควรทานวิตามินซีครั้ง 1,000 มิลลิกรัม เพราะมีข้อมูลระบุว่า การทานวิตามินซีครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม ร่างกายจะดูดซึมนำไปใช้ได้เพียง 50% เท่านั้นเอง
เราเติมวิตามินซีจากภายในแล้ว....เรามาเติมวิตามินซีจากภายนอกกันบ้างดีกว่า
ซึ่งการเติมวิตามินซีจากภายนอกแน่นอนอยู่แล้วว่า ต้องเป็น 𝗦𝗸𝗶𝗻𝗰𝗮𝗿𝗲
𝙑𝙞𝙩𝙖𝙢𝙞𝙣 𝘾 ในสกินแคร์ จะมี 2 แบบ ได้แก่
🍊 ธรรมชาติ 100% ที่รู้จักกันในนาม Ascobic Acid
🍊 อนุพันธ์วิตามินซี เป็นวิตามินซี ที่ปรับแต่งให้อยู่ในสภาวะที่เสถียรมากขึ้นและลดการระคายเคืองลง
ซึ่งถ้าให้ดาวแนะนำ โดยอ้างอิงตามงานวิจัย ต้องยกมงให้ 🏆𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅🏆
เพราะ 𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅 เป็นวิตามินซีที่ประสิทธิภาพดี ตรงตามคำเคลม
ใช้แล้วเห็นผลแน่นอน เนื่องจากงานวิจัยรองรับแน่นมากที่สุด
ว่าสามารถช่วยผิวเราได้ในเรื่อง...
🧡 ผิวกระจ่างใส
🧡 ต้านอนุมูลอิสระจากรังสี UV / แสงแดด
🧡 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ฟังข้อดีไปแล้ว...สาวผิวแพ้ง่ายอย่างดาวต้องขอเบรควิตามินซีไว้ก่อนที่จะทาลงหน้า
เพราะการที่จะให้ตรงตามคำเคลมทั้ง 3 ประการ เจ้า 𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅 ต้องอยู่ในสกินแคร์ที่มีค่าเท่ากับ pH 3.5 หรือ สภาวะกรด(ไม่อ่อนแล้วนะคะ)
พอทาวิตามินซีลงหน้าปุ๊บ จะรู้สึกยิบๆ คันหน้าทันที ตามด้วยผิวแดง
ซึ่งมันไม่โอเคเลย มาทำให้ผิวเราระคายเคืองเพิ่มขึ้น
แต่สำหรับคนที่ผิว Strong ไม่ระคายเคืองใดๆ ต่อวิตามินซี
ข้อควรระวังที่สำคัญมากๆ สำหรับ 𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅 ในสกินแคร์ ก็คือ
"ความไม่เสถียร" ซึ่งเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของนักวิจัยเอามากๆ
เพราะเมื่อ 𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅 มาสัมผัสอากาศและแสง
น้องเค้าจะค่อยๆ เสื่อมประสิทธิภาพลง และทำให้สีของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนได้ด้วย
ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสกินแคร์ที่มี 𝑨𝒔𝒄𝒐𝒃𝒊𝒄 𝑨𝒄𝒊𝒅 เป็นส่วนประกอบ
บรรจุภัณฑ์นั้นต้องช่วยลดการสัมผัสอากาศและมาในขวดสีชาหรือทึบแสง
ไม่เช่นนั้น เพื่อนๆ จะต้องทาทั้งขวดให้หมดโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะหมดประสิทธิภาพ
อ่านถึงตรงนี้แล้ว...เชื่อว่าหลายคนต้องเตรียมพุ่งตัวไปหาซื้อวิตามินซีมาทานหรือทากันแล้วแน่เลย
📍 ดาวจึงขอฝากข้อความถึงเพื่อนๆ ชาว BD ว่า ความพอดีเป็นสิ่งสำคัญ นะคะ
"น้อยไปก็ไม่ดี แต่มากไปก็เป็นโทษ"
📍 โทษของการได้รับวิตามินซีมากไป เช่น
▪️ อาการท้องเสีย คลื่นไส้
▪️ นิ่วในไต
📍 คำเตือนไม่ควรบริโภควิตามินซี เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม
อ้างอิงจาก:
- กองโภชนาการ กรมอนามัย
- รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง: โรงพยาบาลกรุงเทพ
- Dermatologic Surgery, Mar 1, 2002, Double‐Blind, Half‐Face Study Comparing Topical Vitamin C and Vehicle for Rejuvenation of Photodamage
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
