2 ส.ค. 2020 เวลา 04:24 • บันเทิง
Air Force Combat Controller Team
กองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาเป็นเป็นกองทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดของโลก
และเมื่อสนามรบมันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงของการจราจรทางอากาศ
มันต้องมีใครสักคนช่วยประสานงานสักหน่อย
หน่วย CCT นี้แหละออเจ้า ที่ทำงานในพื้นที่ของศัตรูในฐานะผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ
นั้นหมายถึงว่าพวกเขาต้องเข้าไปในพื้นที่อย่างแนบเนียบโดยไม่มีใครสังเกตุได้และก็ต้องกลับมาประสานงานกับกองทัพอากาศในท้องถิ่น
เป็นหน่วยที่ต้องทำงานภารกิจในหลังแนวข้าศึก ค่อนข้างที่จะอันตราย....
ตามที่เว็บ AFSOC กล่าวไว้ว่า CCT มีการฝึกอบรบ Special Operations Forces และ ได้รับการรับรองจาก FAA สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ เรื่องการควบคุมการจราจรทางอากาศ
ภารกิจของหนุ่มๆพวกนี้คือแทรกซึมเข้าพื้นที่อย่างแนบเนียนในพื้นที่ศัตรูเพื่อนสร้างแหล่งโจมตี หรือ สนามบิน
หนุ่มๆพวกนี้ยังต้องทำหน้าที่เรื่อง ควบคุมการจราจรทางอากาศ และ ประสานงานเรื่อง Fire Support และ Direct Action ปะทะตรง และ ต่อต้านก่อการร้าย
อีกทั้งยังป้องกันประเทศ และ ปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรม และ ลาดตระเวน และยังทำงานกับพวก
Army Special Forces, Army Ranger, Navy SEAL, Delta Force ด้วยนะออเจ้า
การฝึก
นักเรียน CCT ที่ได้ผ่านการฝึก Basic Military Training ของกองทัพ
ก็ไปต่อหลักสูตร Combat Control Selection Course ที่ Lackland Air Force Base ที่ Texas
จะเน้นไปทางด้านออกกำลังกาย และ ความเป็นมาของ Combat Control
มาถึงหลักสูตรที่สอง Combat Control Operator Course ที่ Keesler Air Force Base ที่ Mississippi
เพื่อให้รับรู้และประสิทธิภาพของเครื่องบิน และ ทิศทางการบิน
วิเคราะห์สภาพอากาศ และ การควบคุมการจราจรที่สนามบิน และ
ขั้นตอนการสื่อสาร และ ขั้นตอนของการทำงานเรดาร์ และ
กฎของจราจรทางอากาศ
หลังจากหลักสูตรที่แล้ว ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องเรียนที่โรงเรียน Airborne ที่ Fort Benning รัฐจอร์เจีย สามสัปดาห์
ฝึกเรื่องการโดดร่มต่างๆ
หลักสูตรต่อจาก Airborne คือ Air Force Basic Survival School
ที่ Fairchild Air Force Base ที่ Washington
การฝึก SERE การเอาตัวรอดในสภาวะต่างๆ
และสุดท้าย Combat Control School
ที่ Pope Field ที่ North Carolina
ฝึกเรื่องการทำงานแบบหน่วยรบขนาดเล็ก และ เรียนเรื่องเค็มทิศ
ขั้นตอนการสื่อสาร และ Assault Zones และเรื่องวัตถุระเบิด และ
Fire Support และ การปฏิบัติงานภาคสนามรวมถึงการกระโดดร่ม
การฝึกขั้นสูง................................
หลังจากนักเรียน Conbat Controller ได้เรียนไปสามขั้นแล้ว
ก็ไปต่อ Special Tactics Training Squadron 12 ถึง 15 เดือน ที่ Hurlburt Field ที่ Florida
หลักสูตรนี้จะทดสอบและวัดขอบเขตเฉพาะบุคคลผ่านการฝึกอบรม
ด้านจิตใจและทางกายภาพ
ในขณะเรียนหลักสูตร AST (มี PJ และ SOWT ด้วย) ต้องไปอีกสองที่คือ Army Military Free Fall Parachutist School ที่
Fort Bragg ที่ North Carolina และ Yuma Proving Ground ที่ Arizona
เพื่อเรียนรู้หลักสูตรโดดร่มแบบกระตุกเอง และการทรงตัวบนอากาศ
ขั้นตอนการเปิดร่มชูชีพ และการควบคุมร่มชูชีพ
หนุ่มๆยังต้องเข้าร่วมโรงเรียนนักประดาน้ำกองทัพอากาศ Air Force Combat Diver School อีก ฝึกที่
Navy Diving and Salvage Training Center และ
Naval Support Activity Panama City ที่ Florida 6 อาทิตย์
สอนเรื่องการดำน้ำ และการใช้ชุดดำ Scuba และการแทรกซึมทางน้ำ และ ดำน้ำลึก 130 ฟุต
หลักจากนักเรียนคนใดที่สำเร็จการฝึกแบบขั้นสูงก็จะได้เข้าร่วม
เป็นหนึ่งใน Special Tactics Squadrons นะออเจ้า
Moto
First There ประมานว่า ข้ามาถึงก่อนพวกออเจ้าอีกจร้า
Operation Enduring Freedom
ใน 2004 85 เปอร์เซ็นจาก Air Strikes ถูกเรียกโดย CCT ถล่มกันยับเลยงานนี้
Operation Urgent Fury
25 ตุลาคม 1983 CCT กระโดดร่มลงไปที่ Point Saline's Grenada
พวกเขาเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดสนามบินสำหรับกองพันที่ 1 และกองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 75 Ranger
และอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น
Afghanistan War , Iraq War , Battle of Mogadishu , Korean War Vietnam War , Invasion of Grenada , Invasion of Panama ,
Gulf War
โฆษณา