4 ส.ค. 2020 เวลา 13:43 • บันเทิง
📚หนังสือที่ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารไทม์ให้เป็น 1 ใน 💯 นวนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 1923 ถึง 2005 และแถมยังเป็นหนังสือต้องห้ามในอีกหลายประเทศทั้งคูเวต 🇰🇼 จีน 🇨🇳 รัฐไอดาโฮ ของสหรัฐอเมริกา 🇺🇸 และยังถูกแบนในประเทศรัสเซีย 🇷🇺 นานกว่า 40 ปี
📚หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวความคิดในแนวการเมืองแบบบันเทิงคดีที่มีเนื้อหาในเรื่องการเสียดสีรูปแบบการปกครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จนถึงสงครามเย็น ด้วยการใช้ภาษาใหม่เล่นคำเพื่อให้ทุกคำสื่อออกมาได้อย่างมีนัยยะ แต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดและเสียดสี
•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
1984 มหานครแห่งความคับแค้น เขียนโดย George Orwell (ผู้เขียนหนังสือ Animal Farm)
หนังสือเล่าถึงโลกที่ถูกแบ่งการปกครองออกเป็น 3 รัฐมีรัฐยูเรเซีย อีสเตเซีย และ โอเชียเนีย โดยตัวละครเอกอย่างวินสตัน สมิธ อาศัยอยู่ในรัฐโอเชียเนีย โดยในรัฐโอเชียเนียจะแบ่งชนชั้นออกเป็น 3 ชนชั้น คือชนชั้นสูง ที่เรียกว่า สมาชิกพรรควงใน ชนชั้นกลางที่เรียกว่า สมาชิกพรรควงนอก และชนชั้นกรรมกร และเป็นรัฐที่ปกครองแบบสังคมนิยม-รัฐเผด็จการเต็มขั้น และทุกคนอยู่ภายใต้การปกครองของพี่เบิ้ม (Big Brother) และในรัฐแห่งนี้ยังมีกระทรวงต่างๆเพื่อควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยของรัฐ ทั้งกระทรวงแห่งความรักที่มีหน้าที่ลักพาตัว ทรมานและกำจัดใครก็ตามที่ดูจะเป็นภัยต่อพรรค กระทรวงแห่งความสัตย์จริง ที่มีหน้าที่แก้ไขข้อมูลที่มีมาในอดีตให้เป็นไปตามที่พรรคต้องการ รวมถึงการโฆษณาชวนเชื่ออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพรรค โดยวินสตันเองก็ทำงานอยู่ในกระทรวงแห่งความสัตย์จริง และมีหน้าที่แก้ไขข้อความในหนังสือ ข่าว หรือบทความเก่าๆเพื่อให้ภาพลักษณ์ของพรรคเป็นไปตามที่พรรคต้องการ ดังคำขวัญของพรรคที่บอกไว้ว่า “ผู้ควบคุมอดีตย่อมควบคุมอนาคต ผู้ควบคุมปัจจุบันย่อมควบคุมอดีต”
ทุกคนจะมีความเชื่อว่าถูกจับตามองโดยพี่เบิ้มอยู่เสมอ และทุกบ้านยังมีจอโทรภาพที่จับตามองทุกๆการกระทำของทุกคน และถ้าใครมีความคิดที่เป็นภัยต่อพรรคก็จะถูกส่งไปหาตำรวจความคิดที่ขึ้นตรงกับกระทรวงแห่งความรักอีกด้วย รวมถึงมีการคิดแบบคำศัพท์ใหม่ๆ ลดการใช้คำศัพท์ต่างๆ และใส่ความเชื่อเรื่องสงครามตลอดเวลา รวมถึงตัดเทคโนโลยีทุกอย่างออกไป เพราะถ้าประชาชนไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความสงบสุขแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีเวลาคิดหาความรู้เพิ่มเติม หรือมีความคิดได้ว่าพวกเขากำลังถูกเอาเปรียบและริดรอนสิทธิความเป็นมนุษย์อยู่ แถมยังไม่สามารถสื่อสารสิ่งที่ตัวเองคิดได้เพราะไม่มีคำศัพท์ที่จะใช้แสดงความเห็นเหล่านั้นอีกต่อไป
พรรคยังสอนให้ทุกคนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทุกคนในพรรคต้องเข้าคลาสความเกลียดชังที่เต็มไปด้วยการสบถด่าต่อบุคคลที่เป็นศัตรูต่อพรรคอย่างเอมมานูเอล โกล์สไตน์ ที่เป็นผู้นำพรรคภราดรภาพที่เรียกร้องความเท่าเทียมกันของมนุษย์
วินสตันเป็นคนที่คิดต่อต้านรูปแบบการปกครองนี้อยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอด โดยเขาเองได้เริ่มจดบันทึกความคิดของตนลงในไดอารี่ ซึ่งนั่นนับเป็นความผิดที่ร้ายแรง และเป็นอันตรายอย่างมากต่อตัวเขา หากว่าตำรวจความคิดสามารถจับเขาได้ เขาพยายามตามหาข้อมูลที่แท้จริงในอดีต รวมไปถึงเรื่องการทำสงครามกับอีกทั้งสองรัฐที่เขาคิดว่าแท้จริงแล้วเรื่องสงครามอาจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง
ระหว่างที่เขาพยายามสืบหาความจริงเขาก้ได้พบรักกับหญิงสาวชื่อ จูเลีย ที่เธอเองก็เป็นคนที่ต่อต้านพรรคอย่างลับๆเช่นกัน พวกเขาเช่าห้องว่างเเห่งหนึ่งบนร้านขายของของชายชราในย่านกรรมกรเพื่อเป็นที่พบกัน วินสตันได้พบกับโอไบรอัน ผู้นำของพรรควงในที่อ้างตัวว่าเขาเองก็เป็นคนที่ต่อต้านพรรคเช่นกัน พวกเขาจึงได้เข้าร่วมพรรคภราดรภาพ
โอไบรอันได้มอบหนังสือที่เขียนโดยโกลด์สไตน์เล่าถึงเรื่องราวในอดีตให้กับวินสตัน เขาเปิดอ่านมันและนั่นก็ทำให้เขาถูกทหารเข้าจับกุมและส่งไปยังกระทรวงแห่งความรัก และนั่นทำให้เขารู้ว่าที่แท้แล้วชายเจ้าของร้านก็คือสมาชิกของกลุ่มตำรวจความคิด และโอไบรอันเองก็เป็นสายสืบให้กับพรรควงใน และเขาเองก็ถูกพรรคจับตามองมานานกว่า 7 ปี ทุกอย่างที่เขาคิดและพยายามทำนั้นอยู่ภายใต้การจับจ้องของพรรคมาโดยตลอด
วินสตันถูกจับไปทรมานและล้างสมอง วินสตันไม่ยอมที่จะบอกอะไร จนโอไบรอันต้องส่งตัววินสตันไปเข้าห้องเค้นวินสตันถึงความกลัวที่สุดที่เขามี โอไบรอันต้องการล้างสมองวินสตันให้รักพี่เบิ้ม ในที่สุดวินสตันก็เปิดเผยถึงสิ่งที่เขากลัวที่สุดออกมา นั่นก็คือหนู โอไบรอันใช้หนูเพื่อที่จะมาทำร้ายวินสตัน และนั่นทำให้วินสตันสติหลุดและบอกให้โอไบรอันไปทำสิ่งนี้กับจูเลียแทน
วินสตันถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากเหตุการณ์นั้น เขาได้พบกับจูเลียแต่ทว่าความรู้สึกที่มีต่อเธอกลับเปลี่ยนไป เรารักพี่เบิ้มและไม่ได้รู้สึกอะไรต่อจูเลียอีก ทั้งคู่คุยกันว่าต่างคนได้ต่างทรยศซึ่งกันและกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วคนเราจะคิดว่ามันไม่มีทางอื่นที่จะรักษาชีวิตตัวเองได้เท่ากับการอยากให้สิ่งเลวร้ายนั้นเกิดกับคนอื่นแทน และคนที่เราห่วงมากที่สุดก็คือตัวของเราเอง ดังเพลงที่เขาเคยได้ยิน “ใต้ต้นเชสต์นัตที่แผ่กิ่งก้าน..ฉัยขายเธอ และเธอก็ขายฉัน”
Cr pic : Google
โฆษณา