7 ส.ค. 2020 เวลา 01:36 • ข่าว
บริษัทยา Sanofi ถูกเรียกค่าชดเชย กรณีขายยาที่มีผลต่อทารกในครรภ์
บริษัทยา Sanofi ถูกเรียกค่าชดเชย กรณีขายยาที่มีผลต่อทารกในครรภ์ : pharmaceutical-business-review
ซาโนฟี่-อเวนตีส (Sanofi Aventis) บริษัทยาชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสตกเป็นข่าวถูกฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยในกรณีให้ข้อมูลไม่เพียงพอเรื่องผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์จากการใช้ยา "เดพากิน" ( Depakine®) ยารักษาโรคลมชักและควบคุมอารมณ์ในโรคไบโพลาร์
Depakine หรือตัวยาสำคัญคือโซเดียมวัลโพรเอต (Sodium valproate) เป็นยาที่ถูกใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1967 หลักๆคือใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติทางระบบประสาทซึ่งก็พบว่าได้ผลดีทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยลดความถี่ของโรคลมชักและเพิ่มคุณภาพชีวิต
โดยตัวยาได้รับความนิยมอย่างมากและถูกวางจำหน่ายไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ต้นปี 1980 หรือ 13 ปีหลังจากที่ยาออกสู่ตลาด เริ่มมีความกังวลว่ายาอาจมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับความผิดปกติและความพิการแต่กำเนิดของเด็กซึ่งเกิดจากแม่ที่ได้รับยาดังกล่าวขณะตั้งครรภ์ แต่หลักฐานในตอนนั้นก็ถือว่ายังไม่ได้ชัดเจนจึงไม่มีการควบคุมที่เข้มงวด
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลเพิ่มตามจากองค์กรที่ติดตามความปลอดภัยจากการใช้ยาของฝรั่งเศสพบว่ามีเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการเจริญเติบโตผิดปกติที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ยา
เดพากินของแม่ขณะตั้งครรภ์อาจมากถึง 4,100 คน
นอกจากนี้ในระยะยาวยังมีผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือเรียกว่าภาวะ " ออทิสติก "
โดยมีงานวิจัยที่พบว่ายาเดพากินที่มารดารับประทานขณะตั้งครรภ์สามารถเพิ่มความเสี่ยงภาวะพิการของทารกแต่กำเนิด ออทิสติกและผลกระทบต่อการเรียนรู้ได้ถึงร้อยละ 10-40
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบรวมตัวกันประท้วง : BBC
ทางกลุ่มครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบได้รวมต่อกันยื่นฟ้องบริษัท ซาโนฟี่ ในข้อหาที่ไม่แจ้งข้อมูลที่มากเพียงพอและมีความล่าช้าในการออกคำเตือนต่อหญิงตั้งครรภ์ที่จะใช้ยานี้ เนื่องจากพึ่งจะมีการออกคำเตือนที่เข้มงวดในปี 2014 เกี่ยวกับการจ่ายยาเดพากิน
ขณะที่ในประเทศอื่นๆอย่างเช่น สหราชอาณาจักร มีการเตือนมาตั้งแต่ปี 1980 แล้วว่าควรหลีกเลี่ยงเดพากินในเด็ก หรือหญิงตั้งครรภ์ หากจำเป็นต้องใช้ก็ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์และเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ
แต่ซาโนฟี่เองก็ปฏิเสธที่จะเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบและพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมเนื่องจากมั่นใจและมีหลักฐานว่าได้มีการชี้แจงและแสดงคำเตือนไปแล้วอย่างถูกต้อง
ปัจจุบันยาเดพากินหรือโซเดียมวัลโพรเอตยังเป็นยาที่นิยมใช้เพื่อรักษาโรคลมชักเช่นเดิมเนื่องจากยามีประสิทธิภาพที่ดี ซึ่งหากแพทย์พิจารณาว่าประโยชน์จากการป้องกันอาการชักระหว่างตั้งครรภ์มีมากกว่าความเสี่ยงต่อทารกก็ยังสามารถใช้ยาต่อไปได้
อย่างไรก็ตามหากหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ต้องทานยาเป็นประจำและมีความต้องการที่จะตั้งครรภ์ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจะเป็นการดีที่สุดครับ
References :
โฆษณา