[เนื้อหายาวมาก] เปลี่ยนสายมาเป็น Data Scientist เริ่มตรงไหน ทำยังไงได้บ้าง?
สำหรับคนที่ไม่ได้จบสาย Data มาโดยตรง ถ้าคุณสนใจที่จะข้ามสายมาทำงานด้าน Data แต่ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน ดูจากโพสต์นี้กันได้เลย!
ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจากไลฟ์ [ X Career : ข้ามสายTalk EP.5] “เปิดสูตรลับ ก่อนจะข้ามสายไปเป็น Data Scientist” กับอาจารย์ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ หรือ อ.เต้ Lead Data Instructor at True Digital Academy โดย CareerVisa Thailand X True Digital Academy
หนึ่งในสายงานที่กำลังมาแรงมากที่สุดสายหนึ่งในปัจจุบันก็คือ งาน Data Scientist เพราะการใช้งาน Data ถูกนำมาใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ มากมายในปัจจุบัน แต่ว่างานในสายนี้จริงๆ ก็มีอีกหลาย Area ให้เลือกทำ
“Data Scientist” เป็นศาสตร์ที่กำลังกลายมาเป็นเทรนด์หลักของโลกใบนี้ วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับตัวจริงในแวดวง Data Scientist อย่าง อ.เต้ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ อดีตนักเรียนทุนรัฐบาลที่ได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Stanford ในเอก Symbolic Systems จากนั้นก็ต่อปริญญาโทและเอกในด้านการประมวลภาษาธรรมชาติ หรือ NLP (Natural Language Processing)
มีประสบการณ์การทำงานเป็น Software Engineer อยู่ที่บริษัทใน Silicon Valley อย่าง Yelp และ LinkedIn ปัจจุบันเป็นทั้งอาจารย์สอนวิชา Computational Linguistics อยู่ที่ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Lead Instructor ที่ True Digital Group
หลังจากสั่งสมประสบการณ์ใน Silicon Valley อ.เต้ก็เติบโตก้าวหน้าในสายงานเรื่อยมา จนกลับเมืองไทยมาเป็นทั้งอาจารย์สอนวิชา Computational Linguistics อยู่ที่ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Lead Instructor ที่ True Digital Group มาถึงปัจจุบัน
อาชีพในสายงาน Data มีอะไรบ้าง ต่างกันยังไง?
============================
1. สาย Data Analytics
คนที่นำข้อมูลจาก Big Data มาวิเคราะห์เพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจ หรือตามวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ต้องการ คนที่ทำหน้าที่นี้จะต้องสามารถนำข้อมูลมา Visualize เพื่อ Make Business Decision ได้ กล่าวง่ายๆคือ ต้องสามารถตั้งสมมุติฐาน หาคำตอบ และที่สำคัญคือมี Recommendation เพื่อที่จะแนะนำสิ่งที่ควรทำต่อองค์กรได้
2. Data Analyst
คน Define ปัญหา รู้บริบทขององค์กรที่ทำ สามารถกำหนด Metrics ว่าจะจัดการ Data ที่มีอยู่อย่างไร ดังนั้น ทักษะ Visualization และ ความรู้ด้าน Business จึงสำคัญมากสำหรับสายงานนี้
3. A.I. Engineer
คนที่อยู่ Back End ทำโมเดลเพื่อ Predict หรือสร้าง A.I. Product โดยจะต้องใช้ทักษะการ Prediction, การ Extract Skill เพื่อนำมาใช้สร้าง Product ที่ใช้ Data เยอะๆ โดย A.I. Engineer ต้องมีความรู้เรื่อง Machine Learning และต้องเขียนโค้ดได้เพราะต้อง Deploy Model เพื่อนำสิ่งที่สร้างไป Launch จริง
4. Data Engineer
คนที่รวบรวม จัดระเบียบข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ให้เป็นระบบ ลำเลียง Data มาอยู่ที่เดียวกัน, Clean Data ทำให้ Data อัพเดต ถูกต้องอยู่ตลอดเวลา ไม่มีตัวซ้ำ ตัวแปลกปลอม เพื่อให้ Data Scientist สายอื่นๆ สามารถดึงข้อมูลไปใช้ได้ ต้องใช้ทักษะในการเขียนโปรแกรมเยอะ เขียนโค้ดเยอะ
ทักษะที่ขาดไม่ได้สำหรับ Data Scientist
========================
ความรู้ด้าน Business : (รู้จักที่จะ Provide Value ด้วย Data)
Machine learning (ต่อให้ไม่ใช่ A.I. Engineer ก็ต้องรู้ว่า Data จะถูกใช้ยังไง จะได้เลือกคลีนถูก จัดเก็บถูก)