8 ส.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
น่ากลัวจนไม่กล้ากิน! รู้จักอาหารในอดีตที่เคยถูกเชื่อว่ามีเวทมนตร์แฝงอยู่
123RF
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
อาหารที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ในอดีตเมื่อหลายร้อยหรือหลายพันปีมาแล้วเคยถูกเชื่อว่ามีพลังอำนาจเวทมนตร์แฝงอยู่ในตัว มันถูกใช้เพื่อบูชา เป็นส่วนประกอบในพิธีทางศาสนา หรือการรักษาทั้งร่างกายและวิญญาณ
1. ธัญพืชถูกรับประทานในเมนูเพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลาย แต่ในสมัยโบราณมันมีความหมายว่ากว่านั้นเพราะเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ชาวแอซเทคใช้ธัญพืชเป็นทั้งอาหารและสิ่งสำคัญในการประกอบพิธีการทางศาสนาเพื่อป้องกันพลังของสิ่งเหนือธรรมชาติ
พวกเขาจะใช้ธัญพืชผสมกับน้ำผึ้งหรือบางครั้งก็ใช้เลือดจากการบูชายัญมนุษย์ที่เหนียวข้น จากนั้นจะปั้นรูปพระเจ้าที่พวกเขาบูชา ระหว่างพิธีกรรมเพื่อบูชาเทพเจ้ารูปปั้นก็จะถูกทุบให้แตกเพื่อแบ่งให้สมาชิกที่เข้าร่วมพิธีได้รับประทาน และธัญพืชผสมน้ำผึ้งนี้ยังนำไปปั้นเป็นโล่และธนูให้ทารกชายที่เพิ่งเกิดเป็นสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบในภายภาคหน้า
2. ต้นหอมจีนถูกนำเข้าสู่ยุโรปเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยมาร์โค โปโล ชาวอังกฤษสร้างธรรมเนียมการนำต้นหอมจีนแขวนไว้เหนือจันทันและประตูเพื่อป้องกันวิญญาณร้าย
ที่โรมันโบราณนักขี่ม้า คนใช้แรงงานและนักมวยปล้ำจะรับประทานต้นหอมจีนเพราะเชื่อว่ารสชาติที่เข้มข้นของต้นหอมจีนจะทำให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และต้นหอมจีนยังถูกใช้รักษาอาการเจ็บคอและอาการผิวไหม้จากแดด
WIKIPEDIA PD
3. แตงกวา พืชที่มีอายุกว่า 3,000 ปี ในอดีตเคยถูกชาวโรมันโบราณใช้เพื่อเพิ่มภาวะเจริญพันธุ์ ผู้หญิงจะแขวนแตงกวาไว้รอบๆ เอว และหมอตำแยจะพกแตงกวาติดตัวไปด้วยจนกระทั่งเด็กคลอดแล้วค่อยทิ้งไป และนอกจากนี้แตงกวายังใช้ไล่หนู บำรุงสายตาและบรรเทาความพิษจากแมลงป่องกัด
4 .เราสามารถเห็นหอมใหญ่ได้ในงานศิลปะในประวัติศาสตร์ของอียิปต์ในหลายขนาดและหลายรูปทรง โดยหอมใหญ่จะปรากฏในภาพวาดของแท่นพิธีที่ใช้บูชาเทพเจ้า
ชาวอียิปต์เชื่อว่าหอมใหญ่มีความสัมพันธ์กับชีวิตนิรันดร์เพราะมีการพบหอมใหญ่ที่ร่างของมัมมี่โดยมักจอยู่ในทรวงอกหรือบริเวณกระดูกเชิงกราน โดยนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าชาวอียิปต์เชื่อว่ามันจะนำลมหายใจมาให้คนตาย หรืออาจจะเพราะคุณสมบัติที่เป็นเหมือนยาฆ่าเชื้อเลยทำให้คนอียิปต์เชื่อว่ามันมีพลังเวทมนตร์จึงนำไปใช้กับเรื่องชีวิตหลังความตาย
123RF
5. ชาวแอซเทคเชื่อว่าข้าวโพดเป็นมากกว่าอาหาร เขาเชื่อว่าการปลูกและเก็บเกี่ยวนั้นเกี่ยวข้องกับวงจรการเกิด การกลับชาติมาเกิดและความตาย ถึงขนาดที่มีเทพธิดาข้าวโพด
เทพธิดาซิโลเนน (Xilonen) เป็นตัวแทนของการเพราะปลูกข้าวโพดครั้งแรกของปีในฤดูร้อน มีการบูชาและจัดเฉลิมฉลองให้กับเทพธิดาองค์นี้ ทาสหญิงจะถูกแต่งตัวให้เป็นเทพธิดาข้าวโพดตลอดแปดคืน มีการเต้นรำระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ผู้ร่วมงานจะได้เลี้ยงดูด้วยอาหารที่มีส่วนประกอบของข้าวโพด และในคืนสุดท้ายของการเฉลิมฉลอง ทาสหญิงที่เป็นตัวแทนของเทพธิดาข้าวโพดจะถูกบูชายัญเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อเทพเจ้า และหวังว่าการเก็บเกี่ยวจะได้ผลดีตลอดไป
6. ตามตำนานพื้นบ้านของยุโรปผักชีลาวจะนำความรักและความสุขมาให้ โดยเฉพาะในเยอรมนีและเบลเยียม จะมีก้านติดผักชีลาวก้านเล็กๆ ไว้กับชุดของเจ้าสาวหรือไว้ในช่อดอกไม้เพื่อเป็นการอวยพรคู่บ่าวสาวสำหรับชีวิตแต่งงานต่อจากนี้ไป
แต่ผักชีลาวก็ยังมีตำนานที่น่ากลัวด้วย พระยุโรปเคยเชื่อว่าผักชีลาวเป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก และผักชีลาวยังเป็นส่วนหนึ่งของการทำเสน่ห์หรือการทำเวทมนตร์ของแม่มด โดยเชื่อกันว่าเมื่อดื่มน้ำผสมผักชีลาวจะช่วยให้สะท้อนกลับเวทมนตร์หรือแขวนกิ่งผักชีลาวไว้รอบๆ บ้านจะช่วยป้องกันเวทมนตร์ได้
WIKIPEDIA PD
7. หญิงสาวกลุ่มชาติพันธุ์ Kikuyu ในแอฟริกาจะใช้ยางของต้นมะเดื่อป้ายไปทั่วร่างกายเพื่อช่วยให้มีบุตรง่ายขึ้น
แต่ในโบลิเวียเชื่อว่าวิญญาณร้ายนั้นอาศัยอยู่ในต้นมะเดื่อและการเดินใต้ต้นมะเดื่ออาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ็บป่วยถึงตายได้ หรือในปาปัวนิวกินีมะเดื่อนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะพวกเขาเชื่อว่าจะจะถูกวิญญณหลอกหลอนหากผ่าผลมะเดื่อ
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA PD

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา