7 ส.ค. 2020 เวลา 00:00 • สุขภาพ
ประธานาธิบดีทรัมป์วางเงินมัดจำแล้วกว่า
1.5 แสนล้านบาท เพื่อจองวัคซีนโควิด-19 300 ล้านเข็ม เพื่อฉีดให้กับคนอเมริกันฟรี
ท่ามกลางการระบาดอย่างกว้างขวางของโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 5 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 2 แสนคน เป็นอันดับหนึ่งของโลก
ประธานาธิบดีทรัมป์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างยิ่งมาโดยตลอด และเสียคะแนนนิยมในทางการเมืองมาเรื่อยๆ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะแพ้การเลือกตั้งในปลายปีนี้
ทรัมป์พยายามออกมาชี้แจง โดยให้ข้อมูล ให้ตัวเลข ชี้แจงตอบโต้หลายเรื่องราวเกี่ยวกับโควิด-19 แต่ก็ดูเหมือนจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีมาโดยตลอด
แต่ในท่ามกลางข่าวร้ายของท่านประธานาธิบดี ดูเหมือนจะมีอยู่หนึ่งเรื่อง
ที่อาจจะเป็นผลดีกับตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือการพยายามเอาชนะใจคนอเมริกันในปลายปีนี้ ด้วยการดำเนินการให้คนอเมริกันมีความหวังที่จะได้ฉีดวัคซีนฟรีจำนวนนับ 100 ล้านคน เป็นประเทศแรกของโลก
โดยการใช้อำนาจของประธานาธิบดี และความเป็นชาติเจ้าบุญทุ่มพิมพ์เงินใช้ได้เอง เลยจ่ายเงินจองล่วงหน้ากับบริษัทวัคซีนต่างๆ ของหลากหลายประเทศ ทั้งที่ผลการวิจัยยังไม่เสร็จสิ้น อย่างน้อย 3 บริษัทดังนี้
1) BioNTech-Pfizer ซึ่งเป็นบริษัทของเยอรมนีร่วมกับสหรัฐอเมริกา โดยได้วางเงินมัดจำไว้ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจองวัคซีน 100 ล้านเข็ม ขณะนี้กำลังทดลองอยู่ในเฟสสามในสหรัฐ อาร์เจนตินา บราซิล และเยอรมัน
2) Sanofi-GlaxoSmithKline ซึ่งเป็นบริษัทของฝรั่งเศสร่วมกับอังกฤษ วางเงินมัดจำไว้ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับวัคซีน 100 ล้านเข็ม เป็นเทคนิค Subunit
3) Johnson&Johnson เป็นบริษัทของอเมริกันเอง วางเงินมัดจำไว้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับวัคซีน 100 ล้านเข็ม
รวมทั้งสิ้น วางเงินมัดจำไป 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.5 แสนล้านบาท สำหรับวัคซีน 300 ล้านเข็ม โดยที่บริษัทเหล่านี้ยังไม่มีบริษัทใดเลยที่ทำการวิจัยในเฟสสามเสร็จสิ้นแล้ว
เป็นการวัดใจ โดยมีความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้วัคซีน แต่ถ้าได้วัคซีน ก็จะได้เป็นประเทศแรกของโลก
นับเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของตนเอง
คงต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่า ผลจะเป็นอย่างไรครับ
Reference
โฆษณา