7 ส.ค. 2020 เวลา 03:17 • ถ่ายภาพ
- เอาฟิล์มมาเล่า -
" กล้องฟิล์ม เครื่องบันทึกความทรงจำที่ล้าสมัย แต่ยังคงหายใจ ในทุกช่วงเวลา "
เครดิตภาพจาก http://www.synapsestore.com
เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุคสมัยที่ทุกสิ่ง ทุกอย่างนั้น แทบจะเรียกได้ว่า "ไร้ขีดจำกัด" เห็นได้จาก การที่เราสามารถสื่อสารกับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลกให้เข้าใจได้ภายในไม่กี่นาที เราสามารถอ่านนิยายได้ โดยที่เราไม่ต้องยืมหนังสือจากห้องสมุด เราไม่ต้องรออ่านจดหมายจากคนไกลที่เราแสนจะคิดถึงอีกต่อไปแล้ว เราสมารถทำทุกอย่างนี้ได้โดยที่เราแทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย และ ผมเรียกยุคสมัยนี้ว่า "ยุคดิจิทัล"
เราทุกคนคงเคยใช้มือถือถ่ายภาพมุมเดิมซ้ำๆ ถ้าไม่ถูกใจก็ถ่ายใหม่ ถ่ายจนกว่าเมมโมรี่การ์ดจะเต็ม ถ่ายจนกว่าจะผอม ถ่ายจนกว่าหน้าจะเรียว ( อันนี้ไม่น่าใช่ ) ถ่ายไปหลายสิบภาพเพื่อนำภาพที่ดีที่สุดมาใช้เพียงภาพเดียว และทุกอย่างที่กล่าวมานั้น ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 วินาที ต่อ 1 ภาพเท่านั้น และนั่น อาจทำให้กระบวนการคิด ก่อนที่จะถ่ายภาพของเราลดน้อยลง ความทรงจำ หรือ คุณค่า ของภาพนั้นๆก็อาจลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน
ในยุคสมัยที่โลกหมุนเร็วเกินไป ใครหลายๆคนก็คงอยากใช้ชีวิตให้มันช้าลงบ้าง และแน่นอนว่าหนึ่งในกิจกรรมที่จะทำให้ชีวิตเราได้อยู่กับความล้าช้าที่หลายคนชื่นชอบ รวมทั้งตัวผมเองด้วย นั่นก็คือกระบวนการ "การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม" เพราะกว่าเราจะได้ภาพมาใช้งานซัก 1 ภาพนั้น มันต้องผ่านกระบวนการมากมาย ตั้งแต่การเอาฟิล์มที่เราชื่นชอบ ใส่เข้าไปในกล้องที่เป็นระบบ แอนนะล็อก เลือกมุมที่จะถ่าย จัดองค์ประกอบ วัดแสง ปรับตั้งค่าต่างๆด้วยตัวเองและรอจังหวะที่ดีที่สุด เพื่อที่จะกดชัตเตอร์ให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
นั่นก็เพราะว่า ฟิล์ม 1 ม้วน เราสามารถถ่ายได้แค่ 24 - 36 ภาพเท่านั้น และเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าภาพที่ได้ จะออกมาเป็นอย่างไร สวย มืด เบลอ หรือ อาจไม่ติดภาพเลยก็ได้ จนกว่าเราจะนำฟิล์มนั้นไป ล้างและสแกน ให้เป็นไฟล์ภาพมาใช้งาน หรือ อัดเป็นภาพมาใส่อัลบั้มภาพเก็บไว้ แบบที่เราเคยเห็นในอัลบั้มภาพของครอบครัวตอนที่เรายังเป็นเด็ก
ซึ่งการส่งล้าง สแกนฟิล์ม ในปัจจุบัน ก็ใช้เวลาตั้งแต่ 1-14 วัน นับจากวันที่ฟิล์มถึงร้าน ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์ม ขนาดของฟิล์ม และ คิวของทางร้าน ราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภท และ ขนาดของฟิล์ม อีกเช่นกัน
ด้วยกระบวนการแสนจะมากมายหลายขั้นตอนเหล่านี้ มันจึงทำให้ภาพแต่ละภาพที่ได้มานั้นสุดแสนจะมีความหมาย และ กลายเป็นสเน่ห์ของการถ่ายภาพสำหรับใครหลายๆคนไปแล้ว คงอย่างที่เขาว่า อะไรที่ได้มายาก มักมีคุณค่าต่อเราเสมอ ภาพฟิล์มเองก็คงเป็นเช่นนั้น
และสเน่ห์อีก 1 อย่างของการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ " ฟิล์ม " ซึ่งก็มีหลายแบบ หลายประเภท หลายขนาด และฟิล์มแต่ละตัว ก็จะให้โทนสี และความรู้สึกแตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าปัจจุบันทั้งกล้องดิจิทัล กล้องมือถือ หรือแอพตกแต่งภาพระดับเทพ ก็ต่างมีฟิลเตอร์ที่จะทำให้ภาพออกมาเหมือนดั่งภาพฟิล์มจนแยกแทบไม่ออก แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะให้ความรู้สึกแบบเดียวกับภาพที่ต้องอดทนรอให้ผ่านทุกกระบวนการ จนออกมาเป็นภาพไม่ได้อยู่ดี จะเรียกว่าสตอรี่ของภาพมันต่างกันก็ว่าได้
การถ่ายภาพฟิล์มนั้นไม่ได้ง่ายเลย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพราะด้วยความที่เป็น ยุคดิจิทัล จึงทำให้ความสะดวกสะบายของกระบวนการนั้นมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ น้ำยาที่ใช้ล้าง ก็ถูกพัฒนามาให้ใช้งานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้กระทั้งร้านรับ ล้าง สแกนฟิล์ม ก็มีเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงร้านขายกล้องฟิล์ม และ ฟิล์มก็หาซื้อได้ง่ายขึ้นถึงแม้จะแพงขึ้นเรื่อยๆก็ตาม ( แอบเศร้า )
จนทำให้ทุกวันนี้มีคนทุกเพศ ทุกวัย หันมาสนใจการถ่ายภาพฟิล์มกันเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า กล้องฟิล์ม นั้นเป็นสื่อกลางให้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้แชร์ความรู้ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น ในสังคมที่คนสนใจแต่เรื่องปากท้องของตัวเอง สิ่งเหล่านี้คงยืนยันได้ว่า กล้องฟิล์ม และ การถ่ายภาพด้วยฟิล์มนั้น ถึงจะดูล้าสมัย แต่ก็ยังคงหายใจต่อไปได้ ในทุกยุค ทุกสมัยจริงๆ
ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่าน ที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ นี่เป็นการเขียนบล็อคยาวๆครั้งแรกของผม หากผิดพลาดประการใด ก็ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ ด้วยนะครับ 😁
📸 ถ่ายภาพให้สนุกครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา