5 เทคนิคลงทุนในหุ้นให้ มีความสุข
ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือเก่า หรือมือใหม่ ก่อนที่จะเข้ามาในตลาดหุ้น ต่างก็คิดว่า ถ้าเราลงทุนไปแล้ว เราจะมีเงินปันผลใช้ทุกปี หรือคิดวาปั้นปลายชีวิตเราจะสุขสบายมีกินมีใช้ มองในระยะยาวกันทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริง ๆ เมื่อเราเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น กลับมองระยะสั้น คิดว่าหุ้นที่เราซื้อทำไมถึงลง ทำไมหุ้นตัวนั้นตัวนี้ถึงวิ่งไปแรงจัง แต่หุ้นเรายังติดลบอยู่เลย
วันนี้ ผมจึงขอมาแนะนำ 5 เทคนิคลงทุนในหุ้นให้มีความสุข ที่ผมได้ใช้อยู่ (และจากประสบการณ์ที่เจ็บมาเย้อะ🤣) เพื่อบริหาร จัดการกับอารมณ์ของเรา ในระหว่างทางที่เราต้องใช้เวลากับมัน ไปเป้าหมายที่เราได้คิดไว้ตั้งแต่แรกครับ
Cr.: pixabay
1. คาดหวังว่าให้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
ณ ปัจจุบันนี้ (7/8/63) ดอกเบี้ยเงินฝากนั้นน้อยแสนน้อย ขนาดเราฝากประจำ 2 ปี ยังได้แค่ 0.5% ต่อปีเอง และยังไม่สามารถถอนเงินได้ก่อนครบเวลาเสียอีก ส่วนการลงทุนในหุ้นที่ดีและเป็นการลงทุนในระยะยาว ถึงแม้ว่าบางปีอาจติดลบ บางปีอาจจะกำไรเยอะ เมื่อดูค่าเฉลี่ยในระยะยาวผลตอบแทนที่ได้นั้นจะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากแน่นอนครับ และยิ่งหุ้นตัวนั้นมีเงินปันผลด้วยก็ยิ่งดีเลย
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของแต่ละธนาคาร ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2563 Cr.: www.bot.or.th
2. คาดหวังว่าจะเป็นมรดกให้ลูกให้หลาน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวว่า “ถ้าชีวิตเราสุขสบายอยู่ในวันนี้ เพราะเมื่อนานมาแล้วมีคนปลูกต้นไม้ไว้ให้เรา” ต้นไม้ใหญ่ที่รุ่นพ่อ แม่ หรือบรรพบุรุษของเราได้ปลูกไว้ จะให้ร่มเงา ให้ดอก ให้ผล แก่รุ่นเราได้กิน ได้อยู่อย่างสุขสบาย ก็เหมือนกับการลงทุนในระยะยาวนั้นเอง
Cr.: pixabay
3. คาดหวังที่จะสะสมหุ้นดี ๆ ให้ได้จำนวนเยอะๆ
ในความเป็นจริงเราไม่มีเงินเก็บมากขนาดที่จะซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่ถูกสุดๆ ในคราวเดียว แล้วรอกินเงินปันผล หรือมองราคาวิ่งขึ้นไป อย่างสบายใจ
ดังนั้นเราจำเป็นต้องทยอยซื้อ ซึ่งการทยอยซื้อก็เป็นข้อดี เพราะถือว่าเป็นการลดความเสี่ยงด้วยครับ และไม่ควรไปเปรียบเทียบว่า คราวที่แล้วเราซื้อแพง หรือ คิดว่าหุ้นราคาลงไปอีกแล้วไม่น่าซื้อก่อนเลย "เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าราคามันจะต่ำสุดเมื่อไร และควรจะดีใจมากกว่าที่เราซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่ถูกกว่าเดิม"
4. ความหวังในเงินปันผล
ถึงแม้ว่าหุ้นปันผลที่เราถือไว้ ราคาจะขยับขึ้นลง เราก็ไม่ควรเป็นทุกข์กับราคาที่ติดลบ หรือราคาที่ขยับขึ้นมาสูงจนอดคิดไม่ได้ว่าจะขายทำกำไรดีมั้ย ในเมื่อตอนแรกเราคาดหวังกับแค่เงินปันผล
เพราะฉะนั้นอย่ามองที่ราคาของหุ้น ให้มองผลประกอบการของบริษัทที่เราลงทุน ถึงแม้ว่าราคาหุ้นไม่ขยับขึ้น แต่ผลประกอบการเพิ่มขึ้น เงินปันผลของเราก็จะขึ้นตาม
เปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่ยังไม่สูงและใหญ่โต แต่เป็นพุ่มสวยที่สามารถ ออกดอก ออกผลให้เรากินได้ตลอดทั้งปี แค่นี้เราก็มีความสุขกับมันได้แล้วครับ
Cr.: pixabay
5. ไม่เปรียบเทียบ
แต่ละคนย่อมมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจตั้งเป้าหมายให้ได้ผลตอบแทนสูงถึง 30% ต่อปี แต่ในระหว่างทางของเขาอาจประสบกับภาวะเครียดอย่างมหาศาล เพราะลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง
แต่สำหรับบางคนอาจตั้งเป้าให้ได้ผลตอบแทนที่พอสมควร 10% ต่อปี ซึ่งเป็นการลงทุนอย่างมีความสุข ในเวย์ของเรา และพอใจในสิ่งที่เรามี เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เลิกอิจฉา เลิกมองว่าเขาดีกว่าเรา จะทำให้เรามีความสุขกับการลงทุนอย่างแท้จริงครับ
Cr.: pixabay
“ในเส้นทางของนักลงทุน ถ้าปลายทางของเรานั้นมีความมั่นคั่งรออยู่ จงใช้เวลาในระหว่างทางให้มีความสุข ถ้าระหว่างทางเราทุกข์ มันจะเป็นเรื่องยากที่เราจะเดินทางไปสู่ปลายทางนั้นสำเร็จ”
จบแล้วครับ ช่วยกด 👍 ❤️ ติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อไปด้วยนะครับ🥰
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
