Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าสงครามเกาหลี
•
ติดตาม
10 ส.ค. 2020 เวลา 13:57 • ประวัติศาสตร์
ไม่ง่ายที่จะชนะ แต่ก็ไม่ยากเกินพยายาม
#จดหมายถึงลูกฉบับที่32
กฤต...ลูกรัก
วันที่ 10 สิงหาคม 2563
ฉบับที่แล้วพ่อได้เกริ่นว่า สายลมแห่งชัยชนะได้พัดมาสู่ พล ร.2 US. แต่ก่อนที่จะเล่าถึงการพลิกสถานการณ์ของ กรม ร.9 หน่วยในอาณัติของ พล ร.2 US หรือ Indeanhead พ่ออยากชวนลูกมาติดตามวิบากกรรมของ กรม ร.23D กันพอขับเน้นให้สถานการณ์ที่พลิกผันเด่นชัดขึ้น
ตอนที่แล้วพ่อเล่าถึง กรม ร.9 US. โดย พ.อ.ลินซ์ ผู้การกรม ร.9 US.เสนอให้เปลี่ยนแนวเข้าตีเป็นทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของปลายเนินด้านใต้ของ Heartbeark Ridge และ ผบ.พล ไบอัน สนับสนุนความคิดนี้ เมื่อทุกอย่างลงตัว ลินซ์ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพภารกิจนี้
แต่เมื่อหันมามองทางด้านตะวันออกของ Heartbreak Ridge การโจมตีโดย กรม ร.23D ต่อเป้าหมาย Heartbreak Ridge ดำเนินต่อไปในวันที่ 21 และ 22 กันยายนโดยประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย กองพันที่ 1 ภายใต้การนำของ พ.ต. จอร์จ เอช. วิลเลียมส์ จูเนียร์ (Maj. George H. Williams, Jr.) ได้พยายามอีกครั้งเพื่อยึดเนิน 931 จากทางใต้ ขณะที่กองพันที่ 2d ของแดเนียลส์เข้าตีจากทางเหนือ
ผลการปฏิบัติการของกองพันที่ 1 ได้รับชัยชนะในช่วงสั้น ๆ เมื่อวันที่ 23 กันยายน แต่ไม่สามารถต้านทานการตอบโต้ของศัตรูได้ การจู่โจมในตอนเช้าจากทางทิศตะวันออกโดยกองร้อยจากกรมทหารที่ 3 ของกองพลเกาหลีเหนือที่ 12 ทำให้เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดซึ่งทำลายกองพันที่ 1 เมื่อกระสุนหมดวิลเลียมส์ต้องสั่งถอนกำลังออกจากเนิน 931
ข้ามมาทางตะวันตกด้านใต้ของหุบเขา Mundung-ni การโจมตีทางกลยุทธ์ต่อเนิน1024 และ 1142 โดย กรม ร.9 US.และ พล ร.7 เกาหลีใต้ มีความคืบหน้าไปด้วยดี ในวันที่ 25 กันยายน กองพันที่ 1 กรม ร.9 US. ยึดยอดเนิน 1024 และ พล ร.7 เกาหลีใต้ ได้รับชัยชนะจากเนิน 1142 ในวันรุ่งขึ้น
ความกังวลใจในพื้นที่ใกล้เคียงกับเนิน 867 ซึ่งมีลักษณะข่มเหนือหุบเขามุนดง-นิทางทิศเหนือ ซึ่งกองกำลังเกาหลีเหนือสามารถเคลื่อนเข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วด้วย กรม ร.3 ของกองพลเกาหลีเหนือที่ 6 จาก Heatbreak Ridge ที่จะปกป้องเนินเขา
ย้อนกลับมาดูทางด้านตะวันออกของ Heartbreak Ridge กองกำลังเกาหลีเหนือยันกำลัง กรม ร.23D จนไม่สามารถเคลื่อนออกจากเนิน 931 ได้ แม้ว่ากองทหารฝรั่งเศสเข้ามาแทนที่กองพันที่ 2D และพยายามที่จะบุกไปทางทิศใต้ตามแนวสันเขาในขณะที่กองพันที่ 1 พยายามกดไปทางยอดของเนิน 931 แต่ก็ต้องปะทะกับกรมทหารเกาหลีเหนือที่ 15
เมื่อวันที่ 26 กันยายน รถถังของ กรม ร.23d สามารถเคลื่อนที่ไปทางเหนือได้ไกลพอสมควรในหุบเขา Sat'ae-ri เพื่อยิงถล่มยังบังเกอร์ของศัตรู แต่ประสบผลเพียงบางส่วนที่ครอบคลุมแนวทางตะวันออกไปยัง Heartbreak Ridge แต่ไม่สามารถทำลายปืนครกและปืนกลหนักที่แสดงพลานุภาพหยุดยั้งความก้าวหน้าของ พล ร.2 US.จนไม่มีความคืบหน้าตลอดสองสัปดาห์ของการห้ำหั่นที่ไร้ประโยชน์จากการต่อต้านของศัตรู
ในวันที่ 26 กันยายน ความเครียดจากภารกิจที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พ.อ.อดัมส์บอกนายพลยังว่าเป็น "การฆ่าตัวตายหากยังดำเนินการตามแผนเดิมต่อไป” กรม ร. 23d ของเขาเองได้รับบาดเจ็บไปแล้วกว่า 950 คน หากรวมกองกำลังทั้งหมดคาดว่าผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 1,670 คน
ข้อเสนอของ พ.อ.ลินช์เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้ พ.อ.อดัมส์เห็นด้วยกับขยายการโจมตีและกระจายขีดความสามารถของศัตรูในการต้านทาน Heartbreak Ridge เขารู้สึกว่าถ้ากองกำลังเกาหลีเหนือในบริเวณใกล้เคียง Heartbreak Ridge ติดกับดักตามแผน และไม่สามารถเสริมกำลังให้กรมทหารเกาหลีเหนือที่ 15 ได้ กรม ร.23D US.ก็สามารถเอาชนะกองทหารของศัตรูบนแนวสันเขาได้
วันที่ 27 กันยายน พล ต.ยัง และ ผบ.ทัพน้อยที่ 5 ไบอันได้ทำความเข้าใจกับอดัมส์ถึงการขยายการโจมตีโดย กรม ร.23d กับเป้าหมาย Heartbreak Ridge ด้วยแผนยุทธการของลินซ์ จากการวิเคราะห์ขั้นต้นของ พล ร.2 US. ที่จะใช้กับ Heartbreak Ridge
โดยนายพลยังระบุว่าพวกเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป เนื่องจากความพยายามที่ไม่มากพอของหน่วยและไม่ให้ความสำคัญในการจัดทีมปฏิบัติการสนับสนุน “อย่าลืมว่าปืนครกของศัตรูมีประสิทธิภาพทำลายขีดความสามารถของเราเช่นกัน” นี่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ของฝ่ายพวกเรา
ยังได้เปิดแผนใหม่ของฝ่ายยุทธการโดย พล. ต. โทมัส ดับบลิว. เมลลอน (Maj. Thomas W. Mellon) เตรียมไว้เมื่อปลายเดือนกันยายน จำเป็นต้องกำจัดข้อบกพร่องที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น กองกำลังทหารทั้งสามหน่วยของกองพล จะทำการจู่โจมอย่างเข้มข้นและร่วมมือกันโดยได้รับการสนับสนุนจากกองพลปืนใหญ่พร้อมยานเกราะเต็มรูปแบบของกองพันรถถังที่ 72D ขึ้นไปที่หุบเขามุนดง-นิ และสอดประสานการโจมตีกับทหารราบยานเกราะที่มุ่งกดดันหุบเขาเพีย-ริ ไปพร้อมกัน
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม บก.พล ร.2 ออกคำสั่งปฏิบัติการภายใต้ชื่อรหัส TOUCHDOWN นายพลยังได้มอบหมายภารกิจดังต่อไปนี้
ให้ กรม ร. 9 บุกไปทางด้านตะวันตกของหุบเขามุนดง-นิ และยึดเนินเขา 867, 1005, 980 และ 1040 ส่วน กรม ร.23d ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเนิน 931 และแนวสันเขาที่วิ่งไปทางตะวันตกของยอดเขานั้น
นอกจากนี้ กรม ร. 23D เตรียมพร้อมที่จะโจมตีเนิน 728 โดยประสานกำลังให้กับ กรม ร.38 หากเป็นไปได้ และใช้เนิน 520 ทางตะวันตกของเนิน 851 ทาง กรม ร.38 ให้สร้างเขตปลอดภัยที่เนิน 485 จากนั้นให้คุ้มกันกองพันรถถังที่ 72d
ยุทธการ TOUCHDOWN มีกำหนดเปิดในวันที่ 5 ตุลาคม นายพลยังต้องการความมั่นใจว่า ผบ.พันของเขาจะใช้อำนาจการยิงทั้งหมดอย่างเต็มที่ในการเปิดยุทธการ
การเตรียมการจำเป็นต้องมีภารกิจมากมาย ในส่วนของ ช.พัน 2d และ ผบ.พัน พ.ท. โรเบิร์ต ดับเบิลยู.เลิฟ (Lt. Col. Robert W. Love) รับภารกิจปรับปรุงถนนเลียบหุบเขามุนดง-นิที่ขรุขระให้สะดวกในการเคลื่อนที่ของรถถังเชอร์แมนขนาดกลางของกองพันรถถังที่ 72d และการทำให้พร้อมใช้งานสำหรับส่งกำลังบำรุงด้วยรถบรรทุก M4 แม้เป็นงานที่ยากลำบาก แต่เลิฟและทหาารของเขาเต็มใจหากได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัยจากการก่อกวนของศัตรู
สภาพขรุขระกระจายอยู่ตลอดทางสลับกับบังเกอร์ทหารเกาหลีเหนือที่ปล่อยร้างเป็นช่วงๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งพวกเขาได้กองหินขนาดใหญ่สูง 6 ฟุตและฝังด้วยระเบิดมือแต่ละอันดึงหมุดออก ช.พัน 2d แก้ไขโดยวางระเบิด 110 ปอนด์รอบ ๆ สิ่งกีดขวางบนถนนนี้และจุดชนวนระเบิดเมื่อระเบิดดับลง แล้วนำเศษหินที่ถูกระเบิดไปกลบหลุมที่ขรุขระตามถนน
พวกเขาต้องทำงานด้วยพลั่วแทนรถตักดินซึ่งอยู่ระหว่างการซ่อมแซมและไม่ว่าในกรณีใดก็ตามจะต้องดึงปืนใหญ่ขึ้นมาโจมตีศัตรูที่อยู่สูงขึ้นไป ทหารช่างปรับปรุงถนนที่ใช้งานได้ ในการกลบหลุมตามเส้นทางพวกเขาวางแผ่นเหล็กทุกระยะ 50 ฟุตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้ ทั้งจุดระเบิดหินข้างทางเพื่อนำเศษหินมากลบหลุมตลอดเส้นทาง
เมื่อกลบอัดถนนให้ความหนาแน่นพร้อมรับน้ำหนัก ทหารช่างจึงลาดยางและเคลียร์เศษหินเพื่อให้ถนนพร้อมใช้งาน พวกเขาคืบไปทางเหนือขึ้นบนหุบเขาทีละน้อยๆ
ในขณะที่ ช.พัน 2D เตรียมเส้นทางสำหรับการโจมตี รถถัง พล ร.2 US.ถูกจัดขึ้นมาเสริมแนวรุก เพื่อทำให้กองพันของพวกเขามีความแข็งแกร่งเต็มที่ และมีการจัดส่งเสบียงอาหารอุปกรณ์และกระสุนที่สมบูรณ์แบบสำหรับปฏิบัติการที่จะเกิดขึ้น
กรม ร. 23D ปรับปรุงกำลังรบเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้เต็มกำลัง ในขณะที่หน่วยหนุนถูกเรียกมาเพิ่มเต็มแนว มีการสร้างตำบลส่งกำลังเป็นช่วงๆ ตลอดแนวแคนซัสเพื่อประกันว่าการดำเนินการจะไม่ล้มเหลวเนื่องจากขาดแคลนกระสุน
นายพลยังตอกย้ำความมั่นใจว่าหน่วยรบในบัญชาของเขาจะใช้อำนาจการยิงทั้งหมดอย่างเต็มที่ในการโจมตี ทุกกองพันต้องส่งแผนการยิงที่ชัดเจนในการใช้รถถังอาวุธอัตโนมัติ อาวุธขนาดเล็กและปืนครกในยุทธการ TOUCHDOWN อย่างไร
โมเดลโต๊ะทรายของ Heartbreak Ridge ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการวางตำแหน่งอาวุธของทุกหน่วยในตำแหน่งให้ทรงกำลังที่สุด
ในช่วงต้นเดือนตุลาคมทหารทั้งสามหน่วยได้เคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งโจมตี กรม ร.9 อยู่ทางด้านซ้ายพร้อมที่จะบุกไปที่เนิน 867 ในขณะที่ กรม ร. 38 ภายใต้ พ.อ. แฟรงค์ ที. มิลเดิรน์ (Col. Frank T. Mildren) กำลังขึ้นไปบนหุบเขามุนดง-นิ และหยุดใกล้ Saegonbae ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเนิน 894 กองพันที่ 3 ของ กรม ร. 38 จะเป็นกองหนุนและพร้อมใช้งาน
นายพลยัง ยังมีทหารเนเธอร์แลนด์ในมืออีก 3 กองพัน เพื่อสนับสนุน กรม ร.38 บน Heartbreak Ridge และ กรม ร.23D ในการดูแลพื้นที่บนแนวระหว่างเนินเขา 894, 931 และ 851
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เพื่อปกป้องปีกขวาของฝ่ายเดียวกันในหุบเขาซาเต-ริ และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู พล.ต.เคนเนท อาร์.สเตอร์แมน (Maj. Kenneth R. Sturman) แห่ง กรม ร. 23D ได้จัดหน่วยเฉพาะกิจขึ้น ประกอบด้วยกองร้อยรถถัง 23d, กองร้อยลาดตระเวน 2d, กองร้อยจู่โจมฝรั่งเศสและกองร้อยรักษาความปลอดภัยพิเศษกองเรือรบสเตอร์แมน มีภารกิจแฝงในการทำลายบังเกอร์ของศัตรูทางด้านตะวันออกของ Heartbreak Ridge และทำหน้าที่เป็นตัวล่อ (ภาษาการรบเรียกว่าตัวจี๊ด) เพื่อดึงอำนาจการยิงของศัตรูออกไปจาก กรม ร. 23d บนสันเขา
ในวันที่ 4 ตุลาคม ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินขับไล่ จำนวน 49 เที่ยวบิน ได้เคลียร์พื้นที่ในภาคส่วนต่างๆที่เป็นเป้าหมายการโจมตี ตามด้วยกองกำลังในอาณัติของนายพลสเตอร์แมนได้บุกเข้าไปในหุบเขาซาเต-ริ หน่วยอื่น ๆ ของ พล ร.2 ซึ่งได้ซักซ้อมการโจมตีขั้นสุดท้ายตามนัดหมายเวลา 21:00 ในคืนถัดไป
ทีมสนับสนุนการยิงมักประกอบด้วยปืนครก ปืนกล ปืนไรเฟิล และอาวุธอัตโนมัติที่สามารถเรียกสนับสนุนหน่วยโจมตีได้ตลอดเวลาที่จำเป็นตามการเคลื่อนไหวของหน่วยโจมสี อำนาจการยิงเสริมจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อบังเกอร์และกำลังพลของศัตรู
บ่ายของวันที่ 5 ตุลาคม ปืนใหญ่เปิดฉากขึ้น ในขณะที่กองพันปืนใหญ่เริ่มโจมตีหน่วยต่อต้านของศัตรูที่เผชิญหน้ากับ กรม ร.9 และ 38 ในพื้นที่หุบเขามุนดง-นิ จากตะวันตกไปตะวันออก เป็นเขตอิทธิพลของกรม ร.3 กองพลเกาหลีเหนือที่ 12 ยึดเนินเขา 867
กรม ร.1 กอลพลทหารเกาหลีเหนือที่ 6 ขยายกำลังจากเนิน 636 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปยังเนิน 974
กรม ร.15 กองพลทหารเกาหลีเหนือที่ 6 ขุดบังเกอร์ตั้งรับบนเนิน 931 อันเป็นผลมาจากแรงกดดันอย่างต่อเนื่องที่กระทำโดย พล ร. 2d หน่วยเหล่านี้ในช่วงเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคมไม่มีหน่วยใดที่มีกำลังมากถึงพันคน กองพลทหารเกาหลีเหนือที่ 12 และ 6 ทั้งคู่ ล่วงรู้ถึงวันเปิดยุทธการ TOUCHDOWN
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม การโจมตีทางอากาศโดย พล นย.1 นำเครื่องบิน F4U Corsairs ส่งนาปาล์ม จรวด และกระสุนปืนกลเข้าไปในแนวรบของเกาหลีเหนือก่อนที่การโจมตีจะเริ่มขึ้นในเย็นวันนั้น
ทางทิศตะวันตกของกองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 9 บุกขึ้นไปบนเนิน 867 ได้รับชัยชนะบนยอดเขาซึ่งพบกับการต้านทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นกองพันก็มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปยังเนิน 960
ในขณะที่กองพันที่ 1 โจมตีขึ้นเหนือไปที่เนินเขา 666 เนินเขาสามารถยึดได้ในวันที่ 8 ตุลาคม จากนั้นวันที่ 9 ก็มุ่งสู่เนิน 1005 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเนิน 666 และหลังจากการโจมตีแบบรบประชิดสามารถยึดได้ในเดือนตุลาคม ในวันต่อมากองพลทหารเกาหลีใต้ที่ 8 ได้ขึ้นเนิน 1050 และเทือกเขาคิมอิลซุงทางตะวันตกของ กรม ร. 9
ในขณะเดียวกัน กรม ร. 38 ก็มีความก้าวหน้าอย่างดีเยี่ยม ในวันที่ 4 ตุลาคม หน่วยของ พ.อ.มิลเดิรน์ พบว่าศัตรูได้ละทิ้งเนิน 485 ซึ่งห่างหนึ่งไมล์ไปทางใต้ของเนิน 728 เมื่อถึงเที่ยงวันที่ 6 ตุลาคม กองพันที่ 1 ได้เหยียบขึ้นเนิน 485 และยึดแนิน 728 ซึ่งมีโอกาสปะทะศัตรูเพียงเล็กน้อย
วันที่ 7 ตุลาคม กองพันที่ 2 ปฏิบัติการที่ หุบเขามุนดง-นิ และโจมตีเนิน 636 การยึดเนินเขาทั้งสองนี้ทำให้หน่วยช่างของ พ.อ.เลิฟได้สร้างเส้นทางรถถังสำเร็จเพื่อการเคลื่อนที่ของกองพันรถถังที่ 72D ซึ่งได้รับคำสั่งจาก พ.ท. จอห์น โอ.วูดส์ (Lt. Col. John O. Woods) ติดอยู่กับ กรม ร. 38 ซึ่งยึดได้ 3 เป้าหมายใหม่ คือเนิน 605 ระยะ 2,000 หลาทางเหนือของเนิน 636, เนินเขา 905 เนิน 974 ซึ่งขยายไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเนิน 636 ไปยังเนินเขา 1220 บนเทือกเขาคิมอิลซุง และเนิน 841 ระยะ 1,000 เมตรทางเหนือของเนิน 974
ใน Heartbreak Ridge กรม ร. 23d ยังสามารถเรียกกำลังใจของทหารกลับคืนมาได้ด้วยแผนการรบของ พ.อ.อดัมส์สั่งให้กองพันของ พ.ต.วิลเลียมส์ ออกดำเนินกลยุทธ์ทางทิศเหนือกับเนิน 851
ในขณะที่กองพันฝรั่งเศสดำเนินกลยุทธ์ลวงทางทิศใต้ทางเนิน 931 กองพันที่ 2D ของแดเนียลจะเข้าตีเนิน 931 จากทางใต้ซ้อนเขาไป แล้วกระจายกำลังออกจากกองพันฝรั่งเศส ภายใต้การปกคลุมของกลางคืนและกลยุทธ์ที่จัดเตรียมให้กับศัตรู โดยกองทหารของแดเนียลส์ก็เคลื่อนตัวออกไป การยิงของศัตรูพุ่งเข้าใส่กองพันอย่างรวดเร็ว แต่เกาหลีเหนือไม่สามารถให้ความสนใจกับการโจมตีครั้งนี้ได้ทั้งหมด ด้วยการสนับสนุนของกองพันที่ 3
กองกำลังของแดเนียล จึงเดินเข้าหาเนิน 931 อย่างช้าๆ เพื่อลดความสนใจของศัตรูจึงไม่มีการเตรียมปืนใหญ่ กองพันทหารปืนใหญ่สนามที่ 37 เปิดฉากขึ้นในตำแหน่งปืนครกศัตรูที่เปิดเผย เมื่อการโจมตีกำลังดำเนินอยู่ ด้วยประสิทธิภาพของการยิงช่วย กรม ร.23d พวกเขาสามารถปิดเกมกับทหารเกาหลีเหนือด้วยสูญเสียเพียงเล็กน้อย
ปืนยิงไฟทำลายศัตรูจากบังเกอร์ที่น่าเกรงขามซึ่งขัดขวางการเคลื่อนที่ของ กรม ร. 23d เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
เมื่อ 03:00 กองพันที่ 2 และ 3 เข้าใกล้ชัยชนะจากทางใต้ของฮิลล์ 931 การตอบโต้ของข้าศึกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใต้การเตรียมพร้อม และการมาเยือนของแสงอรุณ ความก้าวหน้าในการรุกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองพันฝรั่งเศสย้ายเข้ามาจากทางเหนือและกองพันที่ 2 และ 3 มาประสานกำลังก่อนเที่ยงบนเนิน 931 ก็ตกเป็นของ กรม ร. 23
จากนั้นกองพันที่ 3 ของคราเวนก็เข้าร่วมกองพันที่ 1 ในการโจมตีเป้าหมายสุดท้ายใน Heartbreak Ridge เนิน 851 ในหุบเขาซาเต-ริ รถถังเชอร์แมนยังคงโจมตีในเวลากลางวันและยังคงยิงไปที่บังเกอร์บน เนินทางทิศตะวันออกของเนิน 851 ทางทิศตะวันตกในหุบเขามุนดง-นิ กองพันรถถัง 72d ของวู๊ดส์ รอสัญญาณจากทหารช่างของเลิฟ
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ทหารช่างสร้างถนนเสร็จสิ้นภารกิจของพวกเขาและกองพันรถถัง 72d พร้อมด้วยกองร้อย L ของ กรม ร. 38 และหมวดทหารช่างเริ่มส่งเสียงดังก้องดีใจไปทางเหนือขึ้นไปบนหุบเขา เมื่อได้รับรู้ข่าวจากเชลยที่ถูกจับได้ว่าศัตรูอยู่ระหว่างการสลายตัวอย่างรวดเร็วของกองกำลังเกาหลีเหนือ กองทัพน้อยที่ 5 ในหุบเขามุนดง-นิ มีเวลาเพียงพอก่อนที่ กองพลที่ 204 ของกองทัพที่68 กองกำลังปลดแอกประชาชนจีนอยู่ระหว่างการเข้ารับตำแหน่งจากการสลายตัวจากตำแหน่งของทหารเกาหลีเหนือ
การขับรถถังลาดตระเวนขอบเขตยึดครองของ พล ร. 2d พบว่าจีนยังคงอยู่ในเส้นทางที่เปิดกว้างเพื่อไปยังตำแหน่งใหม่ของพวกเขา รถถังของวู๊ดส์วิ่งไปที่เมืองมุนดง-นิ และอื่น ๆ โดยมีการปะทะระหว่างทาง แต่สร้างความสูญเสียอย่างหนักให้กับกองทหารจีนและตัดการส่งกำลังของศัตรู และได้ค้นพบเส้นทางสำรองขึ้นทางลาดตะวันตกของ Heartbreak Ridge
ในช่วงระยะประมาณ 100 หลา รถถังซึ่งปฏิบัติการโดยไม่มีศัตรูในพื้นที่ทางตอนเหนือของหุบเขามาปิดกั้น อีกทั้งสามารถยิงไปยังเป้าหมายได้เมื่อที่มีโอกาส พวกเขาขัดขวางการส่งกำลังของศัตรูโดยสิ้นเชิงและทำให้งานของทหารราบเบาลงมากในวันต่อ ๆ มา
ลูกจะเห็นว่าสถานการณ์รบตกเป็นของฝ่าย UN ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เกือบเบ็ดเสร็จ สำหรับฉบับหน้า พ่อจะลงรายละเอียดการรบที่เนิน 520 เพื่อสะท้อนความยากลำบากของทหารในพื้นที่รบ ให้เห็นว่าไม่ง่ายที่จะได้ชัยชนะ แต่ก็ไม่ยากถ้ามีความพยายาม
พ่อรักลูกนะครับ
กบ ธรรมกิจ
1 บันทึก
1
4
1
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย