10 ส.ค. 2020 เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นักวิทย์พันธุ์ระห่ำ! การทดลองทางวิทยาศาสตร์สุดบ้าบิ่น ที่ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อการค้นพบครั้งใหม่
1
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
1
ปกติแล้วการทดลองทางวิทยาศาสตร์จะใช้สัตว์เพื่อทำการทดลองหาคำตอบ แต่ทำหรับการทดลองบางอย่างของนักวิทยาศาสตร์บางคนก็ยอมเสี่ยงเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อให้ได้คำตอบมา และนี่คือเรื่องราวการทดลองของผู้กล้าเหล่านั้น
1. เมื่อปี ค.ศ. 2012 ดอกเตอร์ เจมส์ โลแกน ผู้เชี่ยวชาญโรคของสถาบันสุขภาพและยาเขตร้อนแห่งลอนดอน ได้ทำการทดลองที่ทำให้ใครหลายคนต้องเสียวไส้ เขาทำให้ตัวเองติดเชื้อจากพยาธิปากขอแล้วจึงกลืนกล้องแคปซูลเพื่อบันทึกภาพพฤติกรรมของพยาธิปากขอที่อยู่ในลำไส้
พยาธิปากขอนี้พบในอุจจาระของคนและสัตว์โดยปกติจะปนมาในดินที่มีการปนเปื้อน แต่เจมส์นั้นทำการฉีดพยาธิเข้าไปในผิวหนังของตน มันอาจจะฟังดูบ้า แต่เขาต้องการที่จะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างการแพ้อาหารกับพยาธิปากขอ และเรียนรู้ว่าพยาธิปากขอสามารถที่จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังได้ โดยมีแรงบันดาจใจเป็นงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ว่าพยาธิปากขออาจช่วยลดการแพ้อาหารได้ และเจมส์นั้นก็มีอาการแพ้อาหารเมื่อรับประทานขนมปัง
1
เมื่อพยาธิปากขอโตมันเริ่มส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ลำไส้ จนปวดท้องอย่างรุนแรงแต่ก็ทำให้เขาสามารถที่จะรับประทานขนมปังแท่งและพิซซ่าได้โดยไม่เกิดอาการแพ้ สุดท้ายแล้วเจมส์ต้องกินยาเพื่อรักษาอาการติดเชื้อจากพยาธิและต้องกินยาถ่ายพยาธิในภายหลัง
2. ช่วงปี ค.ศ. 1990 ฟิล เคนเนดีและรอย บาเคย์ได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยการทำให้โลกรู้จักไซบอร์กเป็นครั้งแรก ไซบอร์กคนนั้นมีชื่อว่า จอห์นนี เรย์ ทหารผ่านศึกเวียดนามที่ทรมานกับอาการอัมพาดจากภาวะหลอดเลือดสมองแข็งตัวและต้องเป็นผู้ป่วยติดเดียง ฟืลและรอยได้ทำการฝังขั้วไฟฟ้าไว้ในสมองของเรย์ในบริเวณที่ควบคุมการเคลื่อนไหวพื้นฐาน ต่อมาเรย์สามารถที่จะพิมพ์ตัวอักษรในคอมพิวเตอร์และควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยใช้สมองของเขาเอง
การแฮ็กสมองของมนุษย์ของฟิลนั้นไม่ได้จบแค่จอห์นนี ในปี ค.ศ. 2014 เขาตัดสินใจทำการทดลองกับมนุษย์ที่มีสุขภาพแข็งแรงและสมองทำงานได้ปกติ ซึ่งนั่นก็คือตัวเขาเอง แต่การผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าในมนุษย์นั้นผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ฟิลจึงได้บินไปยังเบลีซเพื่อจ้างให้นายแพทย์โจเอล เซอร์แวนเตสทำการผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าลงในสมองของเขาด้วยเงิน 30,000 ดอลลาร์
การผ่าตัดประสบความสำเร็จด้วยดีแต่ก็เกิดปัญหาในช่วงวันแรกเพราะฟิลมีอาการหลงลืม ไม่สามารถพูดได้ การเขียนหนังสือแย่ขนาดที่ไม่มีใครอ่านออกได้และไม่สามารถจำสิ่งของในชีวิตประจำวันได้ แต่โชคดีที่ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและฟิลสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การทดลองของฟิลยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เขากลับไปที่เบลีซอีกครั้งเพื่อทำการผ่าตัดครั้งที่สองเพื่อขอให้นายแพทย์โจเอลฝังตัวรับส่งสัญญาณวิทยุและแหล่งขดพลังงานไว้ที่สมอง แต่โชคร้ายที่แผลผ่าตัดไม่สามารถเย็บปิดแผลได้เพราะมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอกนิกส์มากเกินไปจนต้องผ่าตัดออกเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2015 อีกครั้งเพื่อนำตัวรับส่งสัญญาณและขดพลังงานออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเหลือขั้วไฟฟ้าไว้อยู่ดี
1
123RF
3. ทีม ฟรีดเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งความกลัวต่องูและสัตว์เลื้อยคลานโดยสิ้นเชิงแถมยังพยายามเอาความหลงใหลต่องูมาคิดการใหญ่เพื่อหวังช่วยมนุษยชาติ
เขาใช้เวลากว่า 16 ปี ฉีดพิษงูที่อันตรายติดอันดับโลกอย่างแบล็กแมมบา งูไทปันปาปัวนิวกินีและงูหางกระดิ่งตะวันตกเข้าสู่ร่างกายตัวเองโดยหวังว่าร่างกายจะค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติต่องูพิษที่อันตรายถึงตายนี้ได้ และนักวิทยาศาสตร์ก็จะสามารถนำเลือดของเขาไปพัฒนาเป็นวัคซีนในอนาคต
แม้จะมีเจตนาดีที่น่ายกย่อง แต่การทดลองของเขาก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักวิทยาศาสตร์และแพทย์อย่างมาก โดยพวกเขาคิดว่าสิ่งที่ทิมทำมันเป็นเรื่องที่โง่เง่าและอาจจะทำให้ทิมติดเชื้อ เกิดอาการแพ้ อวัยวะภายในล้มเหลวและเสียชีวิตได้
1
ทุกวันนี้แม้ทิมจะยังไม่ตายแต่ความหลงใหลต่องูนั้นทำให้เขาเสียครอบครัวไป เบธ ฟรีด อดีตภรรยากล่าวว่า “เธอและลูกๆ ไม่เคยได้เป็นที่หนึ่งสำหรับทิม และไม่ใช่ที่สองด้วยซ้ำ สำหรับทิมแล้วพวกงูนั้นมาก่อนเสมอ”
สำหรับทิมแล้วเขาจะยังไม่หยุดจนกว่าจะได้วัคซีนที่สามารถใช้งานได้หรือจนกว่าเขาจะตาย
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
123RF

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา