Memento : ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ
ด้วยที่เดือนสิงหาคมนี้จะเป็นเดือนที่จะมีภาพยนตร์ Summer ประจำปี 2020 เรื่องแรกกำลังจะได้ลงโรงฉายที่บ้านเรา (ที่เกือบทุกเรื่องประกาศเลื่อนไม่มีกำหนดแทบจะทั้งหมด) นั้นก็คือ Tenet ผลงานเรื่องล่าสุดของ ผกก. สุดยอด Visionary เหนือมนุษย์มากที่สุดคนนึงนั้นคือเสด็จพ่อ Christopher Nolan ซึ่งไหนๆจะมีหนังใหม่เข้าฉายแล้วแล้ว บทความนี้ผมเลยขอหยิบภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์เรื่องที่ทำให้ชาวโลกส่วนใหญ่ รวมถึงตัวผมเองที่ได้เสพผลงานของผู้ชายที่ชื่อ Chris Nolan เป็นครั้งแรก และอีกอย่างหนังทั้งสองเรื่องนี้มีการใช้ Gimmick เกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลากับความทรงจำเหมือนกันอีกซะด้วย และเรื่องที่ผมกำลังจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังในบทความครั้งนี้นั้นก็คือเรื่อง Memento
DVD / Bluray
โดยภาพยนตร์เรื่อง Memento ที่เข้าฉายในปี 2000 นั้นไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรกของเสด็จพ่อโนแลนนะครับ เรื่องแรกนั้นก็คือเรื่อง Following (1998) ซึ่งเป็นหนังทุนสร้างส่วนตัวของเฮียแกล้วนๆ จากงบแค่ $6,000พัน (ราว 180,000บาท) แถมไม่มีนักแสดงเป็นที่รู้จักปรากฏอยู่เลยสักคนและตัวหนังถ่ายทำแบบขาว-ดำตลอดเรื่อง อีกทั้งมีความยาวเพียง 1 ชม. 9 นาทีเท่านั้น แต่ก็ยอดเยี่ยมเพียงพอสำหรับการได้ใบเบิกทางให้กับผลงานเรื่องที่สองอย่าง Memento ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานภาพยนตร์ที่ร่วมงานกับสตูดิโอใหญ่เป็นครั้งแรก ได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับเกรด B+ เป็นครั้งแรก และได้ทุนสร้างเกือบ $10ล้านดอลล่าห์ ซึ่งนับว่ามากกว่าเรื่องแรกอยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียว และผมเชื่อว่าหากใครเคยดูเรื่องนี้แล้วคงจะมีคำถามเดียวในใจเหมือนกับผมเมื่อหนังจบว่า ไอ้ผู้กำกับหนังที่ชื่อ "Chris Nolan" เค้าคือใคร? ทำไมถึงทำหนังเล่าเรื่องได้โคตรเจ๋งขนาดนี้?
Memento เรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับเลนนาร์ดชายผู้ซึ่งออกตามล่าหาฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเค้าโดยมีเบาะแสเพียงอย่างเดียวคือชื่อของฆาตกรจากแฟ้มที่ตำรวจให้มาเท่านั้น แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคของเลนนาร์ดมากที่สุดก็คือเค้ามีโรคทางสมองโดยจะมีอาการความจำสั้นไม่สามารถจำอะไรใหม่ๆได้โดยสมองจะ Reset ทุกๆ 15 นาที เมื่อทุกครั้งที่ได้สติกลับคืนมาเค้าก็จะจำไม่ได้แล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ โดยวิธีการแก้ปัญหาเพื่อที่จะได้จดจำเรื่องสำคัญต่างๆ ว่าเมื่อกี้เค้ากำลังทำอะไรอยู่นั้น คือการหมั่นจดบันทึกในสมุด ถ่ายรูปโพลารอยด์เป็นหลักฐาน หรือแม้กระทั่งให้ช่างรอยสัก สักข้อความสำคัญๆตามร่างกาย เพื่อคอยย้ำเตือนกับตัวเองให้ยังคงอยู่ในเส้นทางไล่ล่าฆาตกรได้ต่อไป ซึ่งหากมองผิวเผินแล้วก็เหมือนพลอตหนังสืบสวนทั่วๆไป แต่ความไม่ธรรมดาของเรื่องนี่คือการเล่าเรื่องแบบที่ไม่เคยมีใครทำในลักษณะแบบนี้มาก่อนเรียกว่าโคดอัจฉริยะ!! ถ้าจะให้เล่าลึกลงรายละเอียดไปมากกว่านี้เกรงว่าอาจจะมีหลุดสปอยกับเพื่อนๆที่ยังไม่เคยดูมาก่อนได้ ดังนั้นหากใครยังไม่เคยดู ผมแนะนำถ้ามีโอกาสให้หามาดูกันให้ได้เลยนะครับ ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้จริงๆ
DVD Limited Edition
สำหรับแผ่นหนังเรื่องนี้ผมได้สะสมทั้ง DVD และ Bluray โดยที่ DVD นั้นผมมี Set Limited Edition ของ USA รูปแบบกล่องจะเป็นลักษณะเหมือนแฟ้มคนไข้ใน รพ. โดยข้างในประกอบด้วย 2 Disc คือ Movie+Special Feature และมีแผ่นพับข้อมูลต่างๆให้อ่าน 3-4 ใบแนบมา เรียกว่ากล่องนี่เป็นอีกหนึ่งกล่อง DVD ที่ทำ Package ได้ครีเอทมากๆ ส่วนแผ่น Bluray นั้นเป็นแผ่นจากประเทศเกาหลีของค่าย The Blu Collection มีกล่องสวมออกแบบได้สวยเลยทีเดียว แต่จะไม่มีภาษาไทยเลยครับ และหากเพื่อนๆคนไหนอยากดูเรื่องนี่แบบมีภาษาไทยจะมีเฉพาะใน DVD เท่านั้น แนะนำไปที่ร้าน Lido DVD ยังมีจำหน่ายราคาเพียงแค่ 79 บาท มีทั้งซับ-เสียงไทยครบถ้วนเลย แต่ในที่นี่ผมจะมารีวิวคร่าวๆของแผ่น Bluray เรื่องนี่ให้ฟังกันนะครับ
-ระบบภาพ-
เรื่องนี้ถ่ายทำด้วย Film 35mm อัตราส่วน 2.35:1 โดยภาพ Bluray ของแผ่นนี้คือดีมากถึงมากที่สุด รายละเอียดคมกริบฉาก Close-Up เห็นชัดถึงหนวดของเลนนาร์ดทุกรูขุมขนเลย สีสันของภาพแผ่นนี้จี๊ดจ๊าดดีมากๆ สีเข้มดูโดดเด่นดีทีเดียวนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแผ่นหนังเก่า 20 ปีที่ทำภาพออกมาได้ชัดเจนน่าทึ่ง คู่ควรเก็บสะสมมากๆเลยครับ
Bluray by The Blu Collection
-ระบบเสียง-
ระบบเสียงหลักเรื่องนี้คือ DTS-HD MA 5.1 ซึ่งตัวหนังไม่ได้หวือหวาหนือเน้นเสียงมากอะไร แต่เน้นความสมจริงของเสียงรอบข้างบรรยากาศโดยรวมคือดีมากๆ เสียงรถยนต์ตามถนน เสียงคนคุยจอแจ หรือมีแต่เสียงนกร้องชัดเจน ในส่วน Bass Impact ถึงแม้จะมีไม่เยอะก็มาหนักแน่นทุกครั้ง ไดนามิกเสียงแหลมของเรื่องก็ทำได้ดีเลยครับ และที่ต้องพูดถึงคงเป็น Score ประกอบเสียงทีกระหึ่มและมี Sound บีบคั้นอารมณ์คนดูเหมือนกับใน The Dark Knight อะไรแบบนั้นเลย
-Special Feature-
เนื่อในส่วน Bonus หลักๆแแผ่นนี้คือดึงมาจากแผ่น 2 ของ DVD Limited มาล้วนๆ แต่เนื้อหาโดยรวมก็มีให้ดูมากกว่า 1 ชม. เลยทีเดียว แต่ที่สำคัญแผ่นนี้มี Director Commentary บรรยายหนังทั้งเรื่องโดย Nolan เองเลยซึ่งเรียกว่าเป็น Rare Item มากๆ เพราะหลังจากเรื่องนี้แล้วเสด็จพ่อไม่เคยกลับมาบรรยาย Commentary ลงในแผ่นหนังอีกเลยไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม ดังนั้นถ้ามีเวลาแนะนำลองฟัง ผกก. ระดับอาจารย์บรรยายกันดูนะครับได้ความรู้เยอะเลยละ และยังมีในส่วน Feature ก็มีหัวข้อสัมภาษณ์โนแลนยาวๆอีก 23 นาทีเลยนี่ก็คุ้มเพราะไม่บ่อยที่เราจะเห็นแกมาจ้อสัมภาษณ์ได้นานขนาดนี้เลยนะ หรือถ้าใครชอบอ่านก็มีเมนูหัวข้อ Script หนังสั้นดั้งเดิมของ Memento โดย Jonathan Nolan เป็นคนเขียนเองมาให้อ่านอีกด้วยครับ
-เกร็ดภาพยนตร์-
หากใครมีแผ่น DVD Limited Edition Zone USA ทางผู้ผลิตได้แอบใส่ Easter Eggs ไว้ใน Disc2 แผ่น Bonus ซึ่งจะมีตัวหนังแบบฉบับพิเศษสำหรับคนดูฉบับปกติแล้วไม่เข้าใจโดยฉบับนี้เรียกถ้าได้ดูอีกรอบล่ะก็กระจ่าง 100% ทุกอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีการดูฉบับพิเศษให้ทำตามดังนี้
1.เมื่อใส่แผ่นที่สองและขึ้นหน้าเมนูให้เลือกที่รูปนาฬิกา
2.จะมีคำถามเชิงจิตวิทยา 5 ข้อให้เลือกตอบข้อ C ทั้งหมด
3.คำถามให้เรียงรูปภาพ 4รูปให้เลือกเรียงรูปดังนี้ 3,4,1,2
4. เมื่อกดถูกต้องก็เตรียมรับชม Memento ฉบับพิเศษได้เลย
Brad Pitt คือหนึ่งในนักแสดงที่ Nolan หมายหมั้นให้มารับบทเลนนาร์ด ซึ่งตัว Brad Pitt เองก็ได้มาพบกับโนแลนและได้อ่านบทหนังจบเรียบร้อยแล้วด้วย แต่สุดท้ายได้ปฏิเสธไปเพราะเค้าไม่มั่นใจฝีมือของผกก. ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะตอนนั้นโนแลนก็เป็นเพียงผกก.หน้าใหม่ที่ยังไม่เคยที่มีผลงานเด่นชัดในวงกว้าง หรือมีพลังมากพอจะให้นักแสดงระดับเกรด A มาไว้เนื้อเชื่อใจอยู่แล้ว
Memento คือคอนเซ็ปหนังสั้นที่ Jonathan Nolan (น้องชายแท้ๆของ Chris ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังการเขียนบทภาพยนตร์ให้ Chris เกือบทุกเรื่อง) กำลังเขียนบทและรอถ่ายทำอยู่ แต่ Chris ถูกใจ Plot เรื่องนี้มากๆ เลยเอ่ยปากขอน้องชายขอเรื่องนี้มาเขียนต่อเองให้เป็นหนังยาวอย่างที่เราเห็น
ตอบคำถามให้ถูกเพื่อเข้าดูหนังฉบับพิเศษ
Memento คือภาพยนตร์ที่ทำให้ Chris Nolan ประเดิมมีชื่อเข้าไปอยู่ในงานออสการ์เป็นครั้งแรกจากการได้เข้าชิงบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมในปี 2001
Carrie Anne-Moss ใช้เวลาถ่ายทำทุกฉากในเรื่องของเธอเองแค่ 8 วันเท่านั้น โดยตลอดเรื่องทีมงานถ่ายทำเพียง 25 วันก็ปิดกล้องได้สำเร็จ
Carrie Anne-Moss
นี่ก็เป็นอีกภาพยนตร์ที่ปูทางลายเซ็นต์สำคัญของ Chris Nolan นั้นก็คือตัวละครเอกจะต้องมีชะตากรรมสูญเสียภรรยา
มีฉากที่เลนนาร์ดกำลังถูกตัวร้ายไล่ล่า หากสังเกตุดีๆที่ฉากร้านขายของตอนรถขับผ่านจะมีตราโลโก้ Batman ติดอยู่ที่กระจกหน้าร้านขายของซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อเพราะอีก 5 ปีต่อมา Chris Nolan ก็ได้กำกับ Batman Begins และก็ได้สร้างหนังสุดยอดไตรภาคฮีโร่อัศวินรัตติกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวเองก็คงไม่ได้คาดคิดมาก่อนเช่นกัน
Carrie Anne -Moss เป็นผู้แนะนำให้ Chris Nolan เลือก Joe Pantoliano มารับบท Teddy เพราะทั้งคู่สนิทสนมกันจากการร่วมงานกันใน The Matrix (1999) แต่จริงๆแล้ว Nolan มีนักแสดงในใจที่จะให้มารับบทนี้อยู่แล้ว แต่เพื่อรักษามารยาทจึงยอมนัดพบกับ Joe ตามคำแนะนำของ Carrie ซึ่งหลังจากพูดคุยไม่นาน Nolan ก็ทึ่งในความสามารถของ Joe อย่างมากและมอบบท Teddy ให้ทันที ซึ่งภายหลังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า Joe Pantoliano คือนักแสดงอัจฉริยะที่สามารถดึงความเป็น Teddy ออกมาได้ดีกว่าต้นฉบับในบทที่เค้าเขียนไว้ซะอีก
Joe Pantoliano
Memento คือภาพยนตร์ 1 ใน 2 เรื่องของ Chris Nolan ที่ไม่ได้สร้างโดยค่าย Warner Bros.
มีฉากนึงที่ Teddy ด่าใส่เลนนาร์ดด้วยคำว่า 'You Freak' ซึ่ง Chris Nolan มารู้สึกในช่วงขั้นตอนตัดต่อว่าเสียงของ Joe Pantoliano ในฉากนี้ฟีลลิ่งยังไม่สะใจพอ เค้าเลยพากย์เสียงตัวเองตามฟีลที่เค้าต้องการทับใส่แทนและทำการสังเคราะห์เสียงใหม่ให้ใกล้เคียงกับเสียง Joe มากที่สุด ซึ่งหลังจากหนังเข้าฉายไปแล้วตัว Joe เองก็ยังไม่ทราบเลยว่าคำพูดนั้นไม่ใช่เสียงของเค้าด้วยซ้ำ จนเจ้าตัวมารู้จากที่ได้ดูบทสัมภาษณ์ของ Chris Nolan ในแผ่น DVD (อันนี้ฮา😂)
Chris Nolan / Guy Pearce
ขอบคุณข้อมูลจาก imdb.com
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
