11 ส.ค. 2020 เวลา 12:35 • ธุรกิจ
ฟาร์มไส้เดือน พลิกชีวิตนักเรียนนอกสู่จักรวาลความสุขของชีวิต ไม่หวั่นต้องนั่งรถตู้ไปกลับ กทม.-สิงห์บุรี ก้าวสู่ปีที่ 5 เดินหน้าปั้นแบรนด์ Mr. Hope ผลิตภัณฑ์จากมูลไส้เดือนบุกโลกออนไลน์เลี้ยงชุมชนต่อไป
ใครจะคิดว่าเด็กที่เรียนดีมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับสองในคณะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างบัญชี วันหนึ่งจะหันไปเอาดีทางด้านเกษตรกร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีอาชีพมั่นคงและรายได้ที่งดงามแต่ทำได้เพียงสองปี แต้–ศิวภรณ์ นภาวรานนท์ ก็ตัดสินใจไปศึกษาต่อปริญญาโทที่อเมริกา 5 ปี ด้านการจัดการบริหารห่วงโซ่อุปทาน ด้วยโปรไฟล์เหล่านี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวหมดห่วงและคิดว่าน้องสุดท้องของบ้านจะกลับมานั่งทำงานในห้องแอร์
“ตั้งแต่เด็กแต้เป็นคนที่อารมณ์ร้อนเอาแต่ใจมาก แต่ไม่เคยทะเลาะกับใคร มันมีหลายๆ เหตุการณ์ที่เราอยากเปลี่ยนตัวเองอย่างสมัยเรียนเมืองนอกเพื่อนของพี่ชายพูดอะไรสักอย่างทำให้เราโกรธมาก แล้วแต้วก็ตกใจกับความโกรธที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกว่าไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
กอปรกับข้าวของเครื่องใช้แบรนด์เนมที่เธอคิดว่ามันคือความสุขของชีวิตแต่แท้จริงแล้วมันคือความสุขที่ฉาบฉวย ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้แต้ต้องการไปหาความสุขที่แท้จริง โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแรงบันดาลใจ โดยเธอได้ตัดสินใจหันหลังให้ป่าคอนกรีตนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ ไปบ้านพ่อแม่พี่สะใภ้ที่จังหวัดสิงห์บุรี กลับความคิดที่ว่าความรู้จากยูทูบจะทำให้การเริ่มต้นทำเกษตรเป็นของกล้วยๆ
ไม่เจ๋งก็เจ๊ง
เมื่อลงจากรถตู้ต่อมอเตอร์ไซด์ไปถึงที่หมายอดีตนักบัญชีที่ตั้งเป้าเป็นเกษตรกรโดยเริ่มต้นจากการลองปลูกผักเธอจึงคำนวณดูว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดต้นทุนในการปลูกผักได้ คำตอบก็คือ ปุ๋ย ซึ่งมีหลายวิธีและหนึ่งในตัวเลือกที่ดีคือ ไส้เดือนซึ่งมีประโยชน์สำหรับพืชและดินมากมายอาทิ ทำให้ดินร่วนซุย ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ซากพืชซากสัตว์และอินทรียวัตถุต่างๆ ที่อยู่ในดินเป็นประโยชน์ต่อพืช เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้แต้จึงมีความคิดที่อยากจะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อลดต้นทุนในการปลูกผัก
“ปีแรกเจ๊งสนิท แค่คืนแรกก็เจอพายุเข้าไส้เดือนหนีออกทั่วโรงเรือนหมดเลย หลังจากนั้นก็ใช่ว่าจะดีขึ้น คือเราก็แค่เกษตรกรคนเมืองที่อาศัยดูยูทูบมาเยอะคิดว่าการทำเกษตรมันง่าย แต่พอมาทำจริงๆ มีปัญหาเยอะมาก ปัญหาทางร่างกายเราใช้งานหนักจนกระดูกสันหลังขด แขนขวาเขียนหนังสือไม่ได้ ปัญหาการดูแลไส้เดือนไม่ดีพอ แต่ช่วงแรกเราไม่ได้หาวิธีแก้ปัญหาแต่ใช้วิธีหมกปัญหานั้นไว้ใต้พรม เสียหายไปเยอะพอสมควร พอเวลาผ่านไปได้อยู่กับธรรมชาติมากขึ้นช่วยขัดเกลานิสัย เราก็นึกว่าทำไมถึงหนีปัญหา กลับไปที่จุดเริ่มต้นทำทีละอย่าง”
ตั้งใจทำดีโอกาสดีๆ ก็จะเข้ามา
หลังจากที่เริ่มตกผลึกทางความคิด แต้ก็กลับไปรื้อพรมแก้ปัญหาให้ตรงจุด เริ่มจากการใส่ใจไส้เดือนอย่างจริงจัง ตั้งแต่การเลือกไส้เดือน สายพันธุ์ African Night Crawler มาเลี้ยงเพราะเป็นพันธุ์ที่เหมาะกับอากาศภาคกลาง รวมทั้งขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว และราคาในช่วงนั้นไม่สูงมากนัก
“ช่วงแรกที่เกิดปัญหาเหมือนกับเราแค่อยากได้ผลผลิต ไม่ได้อยากเลี้ยงเขาให้มีความสุข การเลี้ยงเพื่อโกยกับการเลี้ยงเพื่อดูแลมันต่างกัน พอเราเปลี่ยนมาเลี้ยงเพื่อให้เขามีความสุขก็จะใส่ใจเขามากขึ้นในทุกๆ ด้าน อาทิ ถ้าเราใส่ขี้วัวเยอะไปบ้านเขาจะแน่นไปไหม เขาจะหายใจสะดวกหรือไม่ แล้วนอกจากขี้วัวต้องมีสารอาหารเพิ่มเติมอีกไหม หมั่นปรับสภาพแวดล้อมบ้านเขาให้เหมาะกับแต่ละฤดู เช่น ฤดูหนาวก็ไม่ให้หนาวเกินไป”
จากวันแล้ววันเล่าที่แต้เพียรนั่งรถตู้ไปกลับกรุงเทพ-สิงห์บุรีเพื่อฟูมฟักไส้เดือนที่เลี้ยงไว้ก็เริ่มเห็นผลเมื่อไส้เดือนเติบโตขยายพันธุ์ให้มูลไส้เดือนที่สามารถใช้กับแปลงผักเธอแล้วก็ยังมีเหลืออีกจำนวนมาก จนเพื่อนๆ ในโครงการ smart farmer ที่เธอร่วมเป็นสมาชิกแนะนำให้เอามูลไส้เดือนไปขายในตลาดบางใหญ่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ
ไม่แตกต่างก็ไม่เติบโต
แต่เนื่องจากเป็นการขายมูลไส้เดือนครั้งแรก แต้มองว่าถ้าสินค้าไม่มีความแตกต่างจะไปแข่งกับผู้ที่บุกเบิกมาก่อนคงยาก ดังนั้นเธอจึงตั้งโจทย์ว่าเริ่มต้องสร้างบรรจุภัณฑ์ให้มีความแตกต่าง และผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณค่าคุ้มกับที่ผู้บริโภคยอมจ่ายเงิน ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ที่ใส่มูลไส้เดือนของเธอจึงเป็นถุงพร้อมปลูกต้นไม้ได้เลย ลูกค้าไม่ต้องไปหาถุงเพาะชำอีก เท่ากับช่วยลดขั้นตอนและเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า
“ช่วงแรกเราทำตลาดออฟไลน์ ส่งตลาด อตก. ตลาดบางใหญ่ และก็ไปฝากขายใน Maxvalue ซึ่งเราต้องขนสินค้าไปลงเอง ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่เราทำเพื่อต้องการสร้างแบรนด์ Mr.Hope ให้น่าเชื่อถือเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป”
อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ https://bit.ly/2DNg8Cy
ติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจอื่นๆได้ที่
YouTube : postconnex
โฆษณา