12 ส.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
“แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)” พระราชินีแห่งอังกฤษพระองค์แรกที่ถูกประหาร
1
ก่อนหน้านี้ ผมเคยเขียนเรื่องราวของ “พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII)” มาแล้ว ซึ่งสามารถหาอ่านได้ในซีรีส์ของผม
แต่สำหรับบทความนี้ ผมจะเขียนถึง “แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)” หนึ่งในมเหสีของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
โบลีนเกิดในราวปีค.ศ.1500 (พ.ศ.2043) โดยเป็นลูกสาวของนักการทูตชาวอังกฤษ และเติบโตมาอย่างหรูหรามั่งคั่ง ในครอบครัวข้าราชการระดับสูง
เมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น โบลีนได้เข้าถวายตัวร่วมกับพี่สาว เป็นนางต้นห้องให้แก่ “แมรี ทิวดอร์ (Mary Tudor)” หรือภายหลังคือ “สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)”
สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)
ต่อมา พี่สาวของโบลีนได้แต่งงาน แต่ก็ได้แอบมีสัมพันธ์กับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทำให้ครอบครัวโบลีนได้รับเกียรติยศและเงินทองมากมาย
1
แต่แล้วในปีค.ศ.1523 (พ.ศ.2066) พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ได้ทรงแอบมองโบลีนและสนใจในความสวย สง่างามของเธอ และในปีค.ศ.1526 (พ.ศ.2069) โบลีนก็ได้รับแต่งตั้งเป็นนางกำนัลของ “พระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)” พระราชินีของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทำให้โบลีนยิ่งใกล้ชิดกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 มากขึ้นไปอีก
1
พระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)
ช่วงที่มีพระนางแคทเธอรีนเป็นพระราชินี พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ไม่ได้หยุดที่พระนางคนเดียว หากแต่พระองค์ก็ยังทรงมีหญิงอื่นอีกมากมาย แต่กับโบลีนนั้น พระองค์ทรงมองและปฏิบัติแตกต่างออกไปจากหญิงคนอื่นๆ
อาจจะเรียกได้ว่าพระองค์ทรง “จีบ” โบลีน หวังจะพิชิตใจเธอโดยไม่ได้ใช้อำนาจขู่เข็ญก็ว่าได้
2
ในปีค.ศ.1526 (พ.ศ.2069) พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้ทรงส่งกำไลข้อมือที่บรรจุพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ พร้อมจดหมายมาพระราชทาน เนื้อความมีอยู่ว่า
“ข้าไม่สามารถอยู่ข้างๆ เจ้าอย่างเปิดเผยได้ ข้าจึงส่งสิ่งที่แทนตัวข้าได้มากที่สุดมาให้เจ้า นั่นคือรูปของข้าที่อยู่ในกำไลข้อมือ และหวังว่าข้าจะได้ไปอยู่แทนที่มัน”
จากนั้น พระองค์ยังส่งเนื้อกวางที่พระองค์เป็นคนล่าเอง พร้อมจดหมายว่า
1
“ข้าส่งเนื้อกวางที่ข้าเป็นคนล่าเองเมื่อคืนนี้มาให้เจ้า หวังว่าเมื่อเจ้าได้กินมัน เจ้าจะนึกถึงคนที่เป็นผู้ล่ามันบ้าง”
1
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII)
ได้มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงมองโบลีนต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ก็เนื่องจากโบลีนนั้นไม่ง่าย ถึงแม้พระองค์จะทรงส่งจดหมายรักให้โบลีนตลอด แต่โบลีนก็ไม่ได้ยอมขึ้นเตียงกับพระองค์
การที่โบลีนเอาแต่ปฏิเสธ ทำให้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ฉุนเฉียวและต้องการจะเอาชนะ
ค.ศ.1527 (พ.ศ.2070) พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงคิดจะหย่าจากพระนางแคทเธอรีน และพระองค์ได้ขอหย่าโดยบอกผ่านพระสันตะปาปา และอ้างว่าพระนางแคทเธอรีนเคยเป็นมเหสีของพระเชษฐาของพระองค์ ซึ่งคำขอหย่าของพระองค์ก็ได้รับการปฏิเสธ
ทางด้านโบลีนเองนั้น ก็ได้ปฏิเสธพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 มาโดยตลอด จนในปีค.ศ.1532 (พ.ศ.2075) จึงได้ใจอ่อน และในปีนี้เอง พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ได้ปรึกษากับ “โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cromwell)” หัวหน้าคณะรัฐมนตรี เรื่องการกำจัดพระนางแคทเธอรีนให้พ้นทาง
โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cromwell)
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสอย่างลับๆ กับโบลีน และแต่งตั้งให้โบลีนเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษในปีค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โบลีนตั้งครรภ์
การทอดทิ้งพระนางแคทเธอรีนและมาอภิเษกสมรสกับโบลีน ทำให้ราชสำนักสเปนไม่พอใจ อีกทั้งคริสตจักรก็ไม่ให้การยอมรับ แต่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ไม่ทรงสนพระทัย ยังคงจัดพิธีแต่งตั้งโบลีนเป็นพระราชินี
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงคาดหวังว่าโบลีนจะให้กำเนิดพระราชโอรส ผู้ที่จะเป็นองค์รัชทายาท ซึ่งโบลีนก็ได้ให้กำเนิดพระราชธิดา ซึ่งภายหลัง เจ้าหญิงน้อยพระองค์นี้คือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I of England)”
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I of England)
เมื่อได้พระราชธิดาแทนที่จะเป็นพระราชโอรส เหล่าผู้สนับสนุนพระนางแคทเธอรีนก็ได้ใจ ออกมาโจมตีว่าการที่โบลีนให้กำเนิดพระราชธิดา เป็นการลงโทษจากพระเจ้า แต่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ไม่ทรงสนพระทัย
1
ตลอดเวลาสามปีที่โบลีนเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ โบลีนก็ต้องทนแรงกดดันจากผู้ที่สนับสนุนพระนางแคทเธอรีน รวมทั้งผู้สนับสนุนสเปน อีกทั้งในปีค.ศ.1534 (พ.ศ.2077) พระสันตะปาปาก็ได้ประกาศว่าการอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กับโบลีนนั้นเป็นโมฆะ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 จึงทรงตัดขาดจากคริสตจักรคาทอลิก และรัฐสภาก็ได้ประกาศว่าพระองค์เป็นผู้นำคริสตจักรแห่งอังกฤษ แทนที่องค์พระสันตะปาปา
3
ภายหลัง โบลีนให้กำเนิดพระราชธิดาอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งก็ได้สิ้นพระชนม์ในเวลาไม่นาน และในเวลานี้เอง ความสัมพันธ์ของพระองค์กับโบลีนนั้นก็เริ่มจะไม่หวานเหมือนแต่ก่อน
1
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เริ่มเชื่อแล้วว่าที่เป็นอย่างนี้ เป็นการลงโทษจากพระเจ้า เนื่องจากหากพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงเคยทำมา ก็ไม่แปลกหากพระเจ้าจะลงโทษ
1
ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เริ่มให้ความสนพระทัยในตัวของ “เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)” หนึ่งในต้นห้อง และในช่วงนี้ โบลีนก็ได้ให้กำเนิดพระราชโอรส หากแต่ก็สิ้นพระชนม์เมื่อแรกประสูติ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าพระเจ้าลงโทษพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
1
เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 จึงทรงปรึกษากับครอมเวลล์ รับสั่งให้ครอมเวลล์หาข้ออ้างในการหย่าจากโบลีน ครอมเวลล์จึงใส่ร้ายโบลีนว่ามีชู้ และยังหาชายจำนวนห้าคนมาเป็นแพะ ใส่ความว่าเป็นชู้กับโบลีน
2 พฤษภาคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) โบลีนถูกจับกุมไปคุมขังยังหอคอยแห่งลอนดอน โดยโบลีนถูกตัดสินว่ามีความผิดสารพัด ทั้งวางแผนฆ่าพระราชสวามี วางยาพิษพระนางแคทเธอรีน และลักลอบมีชู้
1
วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) โบลีนถูกประหารด้วยการตัดหัว
นับว่าโบลีนเป็นพระราชินีองค์แรกแห่งอังกฤษที่ถูกประหาร แต่ถึงอย่างนั้น โบลีนก็ได้ทิ้งทายาทที่กลายเป็นพระประมุของค์สำคัญของอังกฤษ
นั่นก็คือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I of England)”
โฆษณา