3 ประเด็นหลักฝั่งอเมริกา ที่น่าจับตาประจำวันนี้ (11 ส.ค.)
โดย Liz Moyer
Investing.com -- ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. กลุ่มหุ้นพลังงานพลิกฟื้น
กลุ่มหุ้นพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดใน S&P ปีนี้ได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวเมื่อวานนี้ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาในแง่บวกรวมทั้งทัศนะของ Saudi Aramco (SE:2222) เกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2% เมื่อวานนี้และแตะ $42 ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาเบรนท์ ขยับขึ้น 1.4% สูงกว่า $45 ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้กลุ่มหุ้นพลังงานอาจปรับตัวอย่างต่อเนื่องในวันนี้ขณะที่ตลาดรอคอยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐรายสัปดาห์ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วปริมาณน้ำมันดิบคงคลังมีแนวโน้มลดลง
.
┏━━━━━━━━━━━━━━━━━┓
✅ ปลอดภัยด้วยการประกันภัยทางการเงิน กับบริษัท JCZ สูงถึง 6 ล้านยูโรต่อบัญชี
.
✅ รับรีเบตเงินคืน สูงสุด 8$ ต่อ Lot ทุกบัญชี
┗━━━━━━━━━━━━━━━━━┛
.
เปิดบัญชีเทรดกินค่ารีเบต ได้ที่ลิงก์นี้ .
2. หุ้นการท่องเที่ยวและการขนส่งน่าจับตา
การคมนาคมยังปรับตัวขึ้นต่อไปเมื่อคืนนี้ ดัชนี คมนาคม Dow Jones ปรับตัวขึ้น 2.7% หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทะยานขึ้น 5.8% โดยได้รับแรงหนุนจาก FedEx Corporation (NYSE:FDX) เมื่อ Bernstein ได้เพิ่มการจัดอันดับหุ้นเป็นทำผลงานเหนือตลาดจากเท่าตลาด และกำหนดราคาหุ้นเป้าหมายที่ $255 ทำให้หุ้น FedEx ทะยานขึ้น 8.9% เท่ากับ $199.84
บริษัทคู่แข่ง United Parcel Service Inc (NYSE:UPS) ปรับตัวขึ้น 3% และทำระดับสูงสุดครั้งใหม่หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับลูกค้าปลีกในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง โดยหุ้นปิดบวก 1.7%
หุ้นสายการบินก็ได้รับปัจจัยบวกเช่นกัน หุ้น United Airlines Holdings Inc (NASDAQ:UAL) ทะยานขึ้น 9% และ American Airlines Group (NASDAQ:AAL), JetBlue Airways Corp (NASDAQ:JBLU) และ Delta Air Lines Inc (NYSE:DAL) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 7% โดยข้อมูลจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยด้านการคมนาคม (TSA) ได้ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านจุดตรวจของ TSA เพิ่มขึ้นเป็น 831,789 ราย จากสัปดาห์ที่แล้ว 799,861 รายและเป็นยอดนักท่องเที่ยวสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงต่ำกว่าปีที่แล้วเกือบ 70%
3. กระแสการรับประทานอาหารที่บ้าน
บริการชุดอาหารและการส่งอาหารได้รับประโยชน์จากการที่ประชาชนจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านและไม่สามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารได้
เมื่อวานนี้ HelloFresh SE (DE:HFGG) เผยว่า "ฤดูร้อนนี้เอื้ออำนวยต่อกิจการของบริษัทมากกว่าที่คาดไว้" และส่งผลให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นหลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ซ้ำ บริษัทจึงปรับภาพรวมของปีนี้สูงขึ้นโดยคาดว่ารายได้จะสูงขึ้นเป็น 75% ถึง 95% จากก่อนหน้านี้ระหว่าง 55% ถึง 70% และคาดว่าจะรายงานผลกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2020
หุ้นของ HelloFresh ปรับตัวขึ้น 1%
Rival Blue Apron Holdings Inc (NYSE:APRN) ปรับตัวลง 1.6% และบริการส่งอาหาร Grubhub Inc (NYSE:GRUB) ย่อตัวลง 0.2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Uber Technologies Inc (NYSE:UBER) ได้ประกาศว่าแม้บริการเรียกรถยนต์จะทรุดตัวลง แต่รายได้จากบริการส่งอาหาร Uber Eats กลับพุ่งขึ้นในไตรมาสนี้และทำให้รายได้โดยรวมสูงขึ้น 113% เป็น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เครดิตข้อมูล : investing.com/
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
