12 ส.ค. 2020 เวลา 01:16 • การศึกษา
เนื่องในโอกาสเทศกาลวันแม่
ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวยกย่องความยิ่งใหญ่ของ “ แม่ ”
ไว้หลายครั้งหลายครา ให้ปรากฏแก่ชาวโลกได้เห็นทั่วกัน
ความยิ่งใหญ่ของ “แม่” ได้นำมาเป็นชื่อหรือคำต่อท้ายชื่อของบุคคลสำคัญในพระพุทธศาสนา เช่น พระสารีบุตร เดิมชื่อ อุปติสสะ ตามสกุลบิดา แต่เมื่อเข้ามาบวชแล้ว ท่านได้ชื่อว่า พระสารีบุตร ตามชื่อของมารดา คือ นางสารี
ส่วนพระโมคคัลลานะ ชื่อเดิมว่า โกลิตะ ตามสกุลบิดา แต่เมื่อเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ท่านมีชื่อว่า โมคคัลลานะ ตามชื่อของนางพราหมณีโมคคัลลี เป็นต้น
พระเจ้าอชาตศัตรู ราชาแห่งมคธรัฐ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร แต่มีพระนามพระราชมารดาต่อท้ายพระนามของพระองค์ว่า พระเจ้าอชาตศัตรูเวเทหิ เป็นการบอกให้รู้ว่าใครคือพระราชมารดาของพระองค์
อันว่าความรักของแม่มีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ สามารถบันดาลคุณประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ผู้เป็นแม่และลูกได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังเช่น เรื่องราวของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา
ซึ่งการเข้าบวชในพระพุทธศาสนา ยังความไม่พอใจให้แก่มารดาของท่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะมารดาของท่านยังยึดติดอยู่ในลัทธิพราหมณ์ดั้งเดิม และเห็นว่าการที่พระสารีบุตรเปลี่ยนไปนับถือพระพุทธศาสนา เป็นความผิดอย่างมากจนมารดาของท่านรับไม่ได้
Cr : dmc.tv
แม่กับเรื่องราวของพระสารีบุตร
พระสารีบุตร เป็นผู้ที่มีกิตติศัพท์ว่าเป็นพระอัครสาวกที่มีปัญญายอดเยี่ยม และมีความกตัญญูเป็นเลิศ ท่านได้แสดงธรรมโปรดมารดาหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธตลอดมา จนเมื่อท่านใกล้จะนิพพาน จึงกลับบ้านเกิด แล้วบอกแก่โยมมารดาว่า ท่านจะนิพพานภายในเจ็ดวันนี้แล้ว ขอนิพพานภายในห้องที่ท่านเกิด
โยมมารดาพอได้ยินพระลูกชายพูดถึงการนิพพาน ความรักความห่วงหาอาลัยประดังท่วมท้นใจ มานะทิฐิที่เคยมีต่อลูกก็ค่อย ๆ หายไป จนกลายมาเป็นความอ่อนโยนเหมือนเมื่อครั้งในอดีตที่เคยมีแก่พระลูกชาย พระสารีบุตรเห็นว่าโยมมารดามีอุปนิสัยในธรรมะจึงได้แสดงธรรม โดยกล่าวถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า การแสดงปฐมเทศนาแก่พระปัญจวัคคีย์ และท้ายที่สุดกล่าวถึงพระพุทธเจ้า
พอจบคำว่า “พุทโธ ภควาติ” เท่านั้น มารดาของท่านก็บรรลุเป็นพระโสดาบันในทันที
นี่เป็นเพราะอานุภาพความรักของแม่ เป็นเครื่องดลใจให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ “แม่” นั่นเอง และเป็นการเปิดโอกาสให้พระสารีบุตรได้ตอบแทนพระคุณโยมมารดาได้สำเร็จ เพราะไม่ว่าลูกจะเลี้ยงดูมารดาบิดาดีมากเพียงไร ก็ไม่นับว่าทดแทนพระคุณได้ทั้งหมด
แต่ลูกที่ทำให้มารดาบิดามีศีลมีศรัทธา ตั้งมั่นอยู่ในธรรม จึงจะชื่อว่าเป็นการทดแทนพระคุณอย่างแท้จริง และโยมมารดาของพระสารีบุตรก็ปลื้มปีติเป็นนิตย์ เพราะได้ชื่อว่า "เป็นแม่ของพระอัครสาวก” ซึ่งเป็นฐานะที่น้อยคนจะได้รับ
พระคุณของแม่ คือ ปลูกฝังเลี้ยงดูลูกตั้งแต่เล็กจนโต แต่มีแม่บางคนทิ้งลูกไปตั้งแต่ยังเล็ก แล้วเราจะถือว่าแม่ผู้นั้นมีพระคุณหรือไม่....
จริง ๆ แล้วถึงแม้ว่าท่านไม่ได้เลี้ยงดูเราจะด้วยเหตุใดก็ตาม แต่ท่านก็ยังมีพระคุณกับเราอย่างประมาณไม่ได้ เพราะแม่เป็นผู้มอบ “ต้นแบบความเป็นมนุษย์” ให้แก่ลูกทุกคน ซึ่งสิ่งต่างๆ จะมีคุณค่ามากเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าได้ต้นแบบมาจากอะไร
เปรียบกับดินเหนียวในท้องนา ถ้าเรานำไปโยนทิ้งไว้กลางบ้านมันก็สกปรก ต้องมานั่งปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาด แล้วนำดินเหนียวนั้นไปโยนทิ้งเสีย แต่ถ้าเรานำดินเหนียวไปปั้นเป็นถ้วยโถโอชาม ดินเหนียวนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งของที่มีคุณค่า มีราคาและใช้งานได้
แล้วถ้าเรานำดินเหนียวก้อนเดียวกันนั้นมาปั้นเป็นพระพุทธรูป มีผู้คนกราบไหว้บูชา ดินเหนียวเหมือนกัน แต่มีรูปแบบแตกต่างกัน ภาพที่เห็นจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน ชีวิตคนก็เช่นเดียวกัน เราได้ความเป็นมนุษย์ที่เป็นโครงสร้างที่เหมาะกับการทำความดีมากที่สุดเพราะอาศัยแม่ ถ้าไม่มีแม่เราก็เกิดมาเป็นคนไม่ได้
ถ้าเราไปเกิดในท้องลิง หรือไปเกิดในท้องหมู หมา กา ไก่ ลืมตามาได้แต่ร้องเจี๊ยก ๆ เอ๋ง ๆ แล้วล่ะก็ ต่อให้เราตั้งใจทำความดีมากเท่าใดก็ทำได้จำกัด
หรือเราอาจจะมีกำลังมากเพราะได้เกิดเป็นช้าง แต่ถ้าถามว่าเป็นช้างแล้วทำความดีได้เหมือนคนหรือไม่ ก็ทำได้ไม่สะดวกเท่ากับคน คนเป็นรูปแบบที่เหมาะกับการทำความดีมากที่สุด และประเสริฐที่สุดแล้ว คนเป็นสัตว์ประเสริฐ เราได้อัตภาพความเป็นมนุษย์เพราะอาศัยแม่ ถึงแม้ท่านอาจจะไมได้ส่งเสียเลี้ยงดูเราเลย คลอดออกมาก็มีเหตุพลัดพรากจากกันไป จะด้วยเหตุใดก็ตาม พระคุณของแม่ก็ยังล้นฟ้าล้นมหาสมุทรนั่นเอง
“อนันตริยกรรม” คือ กรรมหนักที่สุด (ครุกรรม) ซึ่งให้ผลทันที มี 5 ข้อ ได้แก่
(1) “มาตุฆาต” ฆ่ามารดา
(2) “ปิตุฆาต” ฆ่าบิดา
(3) “อรหันตฆาต” ฆ่าพระอรหันต์
(4) “โลหิตุปบาท” ทำร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต
(5) “สังฆเภท” ยังสงฆ์ให้แตกกัน
“อนันตริยกรรม” 2 ใน 5 ข้อ คือ ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ใครเผลอไปทำอนันตริยกรรมเข้า แม้ภายหลังจะสร้างบุญกุศลมากเพียงใดก็ตามชาตินั้น เมื่อตายก็ยังต้องตกนรก 100% อย่างดีก็ได้ไปลงนรกขุมตื้นๆ แม้จะกลับตัวกลับใจได้ก่อนตาย แล้วทำความดีมากเท่าไรก็ยังต้องตกนรก ปิดสวรรค์ปิดนิพพานทันทีในชาตินั้นไม่มีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์ และไม่มีโอกาสบรรลุธรรมเข้าถึงพระนิพพาน
ยกตัวอย่างเช่น ต่อให้ลูกฆ่าพ่อแม่ที่เกิดมาไม่เคยเจอกันเลย ไม่รู้ว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันมาก่อนพอลูกโตแล้วไปเป็นทหาร พลัดพรากกันไปอยู่คนละเมือง มีเหตุให้ต้องรบราฆ่าฟันกันเอง ลูกเอาหอกแทงพ่อตาย ลูกก็ได้ทำอนันตริยกรรมแล้ว เกิดเป็นวิบากกรรมทันที
ตรงนี้ทำให้เราเข้าใจได้ชัดเจนว่า พ่อแม่แม้ไม่ได้เลี้ยงดูเรามาแต่ท่านก็มีพระคุณล้นฟ้าล้นมหาสมุทร ยิ่งถ้าท่านได้เลี้ยงดูเราด้วยแล้วท่านยิ่งมีพระคุณกับเรามากมายมหาศาล
ลูกที่ทำให้แม่เจ็บช้ำน้ำใจมีผลกรรมอย่างไร
ลูกที่ทำให้แม่เจ็บช้ำน้ำใจมีผลกรรมน่ากลัวมาก ถ้าเราทำให้ท่านเสียชีวิตนั่นคืออนันตริยกรรม ปิดสวรรค์ปิดนิพพานในชาตินั้นๆ แต่ถ้ากรรมส่งผลให้ไปตกนรก พอพ้นกรรมจากนรกแล้วกลับตัวกลับใจได้ ก็ยังมีโอกาสทำความดี ขึ้นสวรรค์บรรลุธรรมเข้านิพพานได้ ปิดสวรรค์ตัดนิพพานเฉพาะในชาตินั้น ๆ
ถึงแม้ไม่ถึงขนาดทำให้แม่เสียชีวิต แต่เราดื้อกับท่าน ลงมือตีท่านให้ได้รับบาดแผล หรือได้รับความลำบากทางกาย ก็ถือว่าเป็นกรรมที่หนักมาก
ยกตัวอย่าง
พระมหาโมคคัลลานะ ภพในอดีตเคยได้ภรรยาไม่ดี ถูกภรรยายุแหย่ให้ฆ่าบุพการีตาบอดทั้งสองคนเสีย จึงได้พาบิดามารดาขึ้นเกวียนเข้าไปในป่า แล้วทุบตีบิดามารดาจนถึงแก่ความตาย โดยโยนบาปว่าเป็นการกระทำของพวกโจร
ผลกรรมตามมาส่งผล แม้กระทั่งพระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์แล้วก็ยังหนีไม่พ้น ถูกโจรทุบตาย เพราะฉะนั้น การทำไม่ดีกับบุพการีนั้นถือว่าเป็นกรรมหนักมาก ใครพลาดทำกรรมอย่างนี้จะได้รับผลกรรมที่น่ากลัวที่สุด
บางคนบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโตทำให้แม่เจ็บช้ำน้ำใจ ทำให้ท่านผิดหวังน้ำตาตกมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วจะทำอย่างไรต่อไปจากนี้ดี
ก็ให้เรายึดหลักว่า “อดีตที่ผิดพลาดลืมให้หมด แต่บาปกรรมอกุศลใหม่ ๆ ไม่ทำอีกอย่างเด็ดขาด” จากนี้ไปไม่ทำให้แม่เสียใจ ดูแลปรนนิบัติท่านให้ดีทุกอย่าง ให้ท่านมีแต่ความชื่นใจในตัวเรา
และหากแม่ยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ให้เราหาวิธีการชักนำให้ท่านมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทำให้ท่านได้ ให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะสิ่งนี้จะเป็นบุญกุศลติดตัวท่าน เป็นที่พึ่งของท่านข้ามภพข้ามชาติ ถ้าทำอย่างนี้ได้แล้ว ถือว่าเราตอบแทนพระคุณท่านได้เป็นอย่างดี
เจริญพร
โฆษณา