13 ส.ค. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
อดีตที่โหดร้าย! เปิดเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของผู้คนในคริสต์ศตวรรษที่ 19 บอกเลยว่าลำบากกว่าปัจจุบันเยอะ
1
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ผู้คนมักโหยหาอดีตเพราะพวกเขาคิดว่าวันเก่าๆ นั้นสวยงามกว่าอนาคตที่จะมาถึง แต่อาจจะไม่ใช่ผู้คนที่ใช้ชีวิตในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เพราะคุณภาพชีวิตของผู้คนนั้นย่ำแย่ดั่งเรื่องราวต่อไปนี้
1. หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ทำให้โลกได้ใช้เครื่องจักรในการทำงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและช่วยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่เครื่องจักรในยุคนั้นไม่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและความปลอดภัยของแรงงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญกัน จึงทำให้มีข่าวมีผู้ที่เสียชีวิตจากเครื่องจักรตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ร่างกายถูกเครื่องจักรบดขยี้จนแหลกเหลว หรืออวัยวะถูกตัดขาดจากเครื่องจักรที่มีใบมีดมีคม
WIKIPEDIA PD
2. เพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับตัวเองมากขึ้นคนขายเบียร์บางรายจะใส่น้ำเพิ่มในเบียร์เพื่อเพิ่มปริมาณ แต่แน่นอนว่ามันก็ทำให้รสขมที่เป็นเอกลักษณ์ของเบียร์จืดจางลง พวกเขาจึงแก้ปัญหาด้วยการเติมยาเบื่อหนูลงไป ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อปี ค.ศ. 1880 ชายสองคนได้สั่งเบียร์ดื่มที่ผับมาดื่มและเมื่อเทลงแก้วก็พบว่ามันมีรสขมเกินกว่าที่จะดื่มต่อไปได้และหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจทั้งสองคนก็มีอาการป่วยพร้อมอาการที่ได้รับพิษจากยาเบื่อจึงได้รีบไปโรงพยาบาล โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต และผู้ขายเบียร์รายนั้นถูกฟ้องร้องจากเหตุการณ์นี้และต้องนำเบียร์ที่ผลิตทั้งหมดไปทำลายเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นอีก
แต่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีเสมอไป เมื่อปี ค.ศ. 1892 แคทเธอรีน วัดเดลล์ สุภาพสตรีที่อาศัยอยู่ยังเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ดื่มเบียร์ที่มีรสขมจัดไปในปริมาณเล็กน้อย เธอมีอาการตื่นตกใจ และเธอเชื่อว่าเธอได้รับพิษยาเบื่อและเสียชีวิตหลังจากนั้นภายในเวลาไม่นาน เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานก็พบว่าเธอนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกไปเองเพราะที่ขวดเบียร์นั้นมียาเบื่ออยู่และขวดเบียร์ก็ไม่ได้ถูกล้างอย่างดีทำให้มีสารพิษตกค้างอยู่อีกด้วย
3. แพทย์บางคนในสมัยนั้นยังไม่เชื่อว่าโรคพิษสุนัขบ้านั้นมีอยู่จริง แม้ว่าจะมีการค้นพบโรคนี้มาตั้งแต่ 2,300 ปีก่อนคริสตกาล ดังนั้นจึงมีผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าและไม่ได้มีการป้องกันอันตรายจากโรคนี้อีกด้วย
WIKIPEDIA PD
4. บทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วิสคอนซินเมื่อปี ค.ศ. 1876 ให้ความหมายของเด็กชายที่สมบูรณ์ตามธรรมชาติว่าต้องมีจิตใจเข้มแข็งไร้ความปราณีพอที่จะจับสุนัขหรือแมวกดน้ำ แขวนคอพวกมันกับต้นไม้หรือทรมานพวกสัตว์ตัวเล็กๆ ได้ และความคิดแบบนี้ทำให้การที่ผู้คนจับสัตว์เลี้ยงกดน้ำเพื่อที่จะทิ้งมันเป็นเรื่องปกติ
คนทำหน้าที่จับสุนัขของรัฐมินเนสโซตาเลิกใช้วิธีการรมควันสุนัขที่ไม่มีใบอนุญาตให้ตาย แต่ไปใช้วิธีการจับกดน้ำแทน แต่สหรัฐอเมริกาก็ไม่ใช่ที่เดียวที่ใช้วิธีการนี้ เพราะมีรายงานว่ามีการกำจัดสุนัขจรจัดด้วยวิธีการจับกดน้ำให้ตายที่บริสเบนใต้ ประเทศอังกฤษเช่นกัน
5. การฆ่าทารกพบได้มากในช่วงเวลานั้น ผู้คนที่ไปตกปลาในบึงเคยตกได้กล่องที่มีโซ่พันไว้ เมื่อเปิดออกดูก็พบร่างของเด็กทารกที่เสียชีวิตอยู่ในนั้น หรือเมื่อปี ค.ศ. 1887 มีการพบเด็กที่ถูกทิ้งถึง 3 คนในวันเดียว คนแรกเป็นเด็กทารกอายุไม่เกินสัปดาห์ถูกห่อด้วยเสื้อแล้วทิ้งไว้ที่ถนน เด็กคนที่สองเป็นผู้หญิงน่าจะมีอายุราว 5 วันถูกทิ้งไว้ที่คอกม้า และเด็กคนที่สามถูกทิ้งไว้ที่รกร้างว่างเปล่า เด็กทั้งสามคนนี้คอถูกพันด้วยเชือกหรือเทปเพื่อให้ขาดอากาศหายใจ แต่เด็กคนที่สามที่ถูกพบนั้นยังไม่เสียชีวิตและถูกนำส่งโรงพยาบาล
1
เรื่องนี้หนักหนาสาหัสขนาดที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในเมลเบิร์นตีพิมพ์บทความในปี ค.ศ. 1897 เพื่อถามรัฐบาลว่าจะทำอะไรได้บ้างในกรณีการพุ่งขึ้นสูงของเหตุการณ์ฆ่าทารกที่พบได้ทั่วไปนี้
1
6. โรคบาดทะยักไม่ใช่เรื่องที่สามารถป้องกันได้จนกระทั่งช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก่อนที่จะมีวัคซีน ผู้คนเสียชีวิตด้วยโรคนี้เป็นจำนวนมาก การระบาดของโรคบาดทะยักได้ถูกรายงานเมื่อฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1899 ที่นิวยอร์ก เพียงแค่วันที่ 4-22 กรกฏาคม มีผู้เสียชีวิตถึง 83 คน จากเหตุความไม่ระมัดระวังในการถือดอกไม้ไฟและปืนของเล่น โรคบาดทะยักในขณะนั้นมีอัตราการเสียชีวิตถึง 85-90% เลยทีเดียว
123RF
7. ซากสัตว์ถูกโยนทิ้งน้ำกันเป็นว่าเล่นจนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วจนทางนิวยอร์กต้องจ้างบริษัทที่มาเก็บกู้ซากเหล่านั้นขึ้นจากน้ำ หรืออย่างในอังกฤษก็เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Great Stink จนทำให้ต้องมีการรื้อระบบท่อประปาเสียใหม่ทั้งเมือง
WIKIPEDIA PD
8. มีการทดลองที่น่าสยดสยองเกิดขึ้นกับคนและสัตว์ โดยไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตามเพราะจริยธรรมทางการแพทย์นั้นเทียบไม่ได้เลยกับมาตรฐานในปัจจุบันนี้
ในปี ค.ศ. 1893 ที่ฝรั่งเศส สุภาพสตรีวัย 45 ปีทุกข์ทรมานจากเนื้องอกที่กระดูกหน้าผาก คุณหมอของเธอได้ทำการผ่าตัดเปิดกระโหลกและนำเนื้องอกออกไปแต่ก็ต้องเจอปัญหาที่ว่าจะใช้อะไรในการปิดกระดูกหน้าผากดี คุณหมอได้มีไอเดียสุดล้ำในการนำกะโหลกศีรษะบางส่วนจากสุนัขมาทำการฆ่าเชื้อและใส่เพื่อปิดกะโหลกของเธอให้สมบูรณ์
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา