Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
NJZ Real History ✍🏻
•
ติดตาม
12 ส.ค. 2020 เวลา 00:11 • ดนตรี เพลง
Kurt Cobain
จากเด็กบ้านแตก เร่ร่อน สู่ตำนานนักร้องนำแห่งวง Nirvana !
แค่ท่าสูบบุหรี่ยังเท่ห์อ่ะ 😆
Kurt Donald Cobain (ชื่อจริง)
เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ 1967
ณ เมือง อเบอดีน รัฐวอชิงตัน เค้าเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้รวยและไม่ได้จนอยู่ฐานะกลางๆ มีแม่เป็นพนักงานเสิร์ฟ และพ่อเป็นช่างซ่อมรถ เคิร์ทนั้นมีเชื้อความเป็นศิลปินอยู่ เพราะมีลุงและป้าที่เป็นนักดนตรีอยู่
วัยเด็กของเคิร์ทนั้น เป็นวัยเด็กที่มีความสุข เป็นเด็กที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา มีญาติพี่น้องรายล้อม เพราะเคิร์ทคือหลานคนแรกของตระกูล ทั้งทางฝั่งของทางพ่อและของแม่
น่ารักนะเนี่ย 😍
แล้วอะไรคือกระบวนการเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้เด็กน้อยน่ารักโลกสดใส กลายมาเป็นสุดยอดตำนานอย่างเคิร์ท โคเบน มันคืออะไรบ้าง !?
เพียงแค่เคิร์ท อายุ 9 ขวบ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อแม่ของเค้าได้ หย่าร้างและแยกทางกัน เคิร์ทเริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไป กลายเป็นเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ชอบสุงสิงกับใคร เพราะเค้าไม่อยากตอบคำถามของคนเหล่านั้นที่ถามถึงเรื่องชีวิตครอบครัวของเค้า
รูปครอบครัวของเคิร์ท มีน้องสาวด้วยนะชื่อ คิมเบอร์ลีย์
หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน เคิร์ทก็อยู่กับพ่อ พ่อของเค้าดูแลเค้าอย่างดี จนมาถึงวันนึงพ่อของเค้าได้แต่งงานใหม่กับสาวสวยแม่ม้ายลูกติด นิสัยของเค้าก็แย่ลงไปอีกกลายเป็นคนที่ชอบหมกตัวอยู่ในห้อง ต่อต้านสังคม เริ่มมีปัญหาชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน และเค้ามีนิสัยแปลกๆที่พยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่าเค้าเป็นเกย์ ทั้งๆที่ตัวเค้าเองไม่ได้เป็น ยอมให้คนดูถูก เหยียดหยาม บูลลี่สารพัด ทำตัวให้เป็นที่รังเกียจของสังคม
เคิร์ทเริ่มมีปัญหากับพ่อของเค้า เค้ามักจะทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่พ่อเค้าบอกเสมอ มันคือการประชดชีวิต ประชดสังคม หรือเป็นวิธีการหลีกหนีจากความเจ็บปวดของเค้ากันแน่ !? พ่อของเคิร์ทและคนในบ้านเริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเค้า จึงให้เคิร์ทย้ายไปอยู่บ้านญาติๆ เผื่ออะไรๆมันดีขึ้น (🙄 จริงเหรอ )
แล้วเคิร์ทก็ถูกจับส่งไปบ้านญาติคนอื่น ย้ายไปบ้านคนนั้นที บ้านคนนี้ที วนๆไป เพราะไม่มีใครสามารถรับตัวตนของเด็กคนนี้ได้เลย จนถึงวันนีง พ่อของเค้าลากคอเคิร์ทขึ้นรถ เพื่อที่จะเอาเค้าไปส่งที่บ้านแม่
เมื่อเคิร์ทไปถึงที่บ้านแม่ ซึ่งแม่ของเค้าก็ไม่ได้อยากให้เคิร์ทอยู่ด้วยซักเท่าไหร่ เพราะแม่ของเค้าก็มีสามีใหม่ไปแล้ว แต่ก็ต้องจำยอม
หลังจากที่ย้ายมาอยู่กับแม่ เคิร์ทต้องทนดูแม่ของเค้าเองถูกสามีใหม่ทำร้าย ทุบตี แต่แม่ของเค้าก็ไม่ยอมเลิกกับผู้ชายคนนั้น เคิร์ทในตอนนั้นกลายเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น ขาดความสมดุลข้างในจิตใจ หัวใจผุๆ พังๆ ในช่วงนั้นเองที่เค้าเริ่มหันหายาเสพติด
แต่ถึงแม้ใครจะทอดทิ้งเค้ามากแค่ไหน แต่สิ่งที่เค้าไม่เคยทิ้งไปเลย คือความรักในด้านศิลปะ และด้านดนตรี
และในวันเกิดในวัย 14 ปี เค้าก็ได้ของขวัญจากลุงซึ่งลุงให้เค้าเลือก ระหว่าง รถจักรยาน และกีต้าร์ และเค้าก็เลือกกีตาร์ (เป็นผมคงเลือกจักยานอ่ะ 😅)
แหล่มเบย !
และความเปลี่ยนแปลงในตัวเค้าก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อเค้าได้รู้จักรุ่นพี่คนนึงที่ชื่อว่า Buzz Osborne หรือชื่อในวงการคือ King Buzzo
บัซเป็นคนเปิดโลกด้านเพลงร็อคให้กับเคิร์ท
King Buzzo
เคิร์ทได้รับเพลงจากบัซ หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มฟังเพลงพวกนั้นทุกวัน เค้าเข้าถึงท่วงทำนองของเพลงพวกนั้น เหมือนเพลงพวกนั้นมาเติมเต็มสิ่งที่เค้าขาดหายไป
หลังจากนั้น บัซได้ชักนำเค้าเข้าสู่วงการของนักดนตรี
เคิร์ทได้หยุดเรียน เค้าไม่อยากเรียนแล้ว เค้าเริ่มอยากทำงานเพลงมากกว่า ซึ่งพอแม่ของเคิร์ทได้รู้เรื่อง แม่ก็ยื่นคำขาดกับเคิร์ท ถ้าไม่หางานทำก็ออกไปจากบ้านของแม่ซะ
เวลาผ่านไปซักระยะ เคิร์ทยังหางานทำไม่ได้ แม่ของเค้าจึงได้แพ็คของและไล่เค้าออกจากบ้าน โดนแม่เชดหัวออกจากบ้านแหละ หลังจากนั้นเคิร์ทได้ร่อนเร่ พเนจร ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ค่ำไหนก็นอนนั้น นอนบ้านเพื่อนบ้าง นอนบ้านคนรู้จักบ้าง หรือที่ไหนก็ได้ที่ซุกหัวนอนได้
นอนไหนก็ได้โตแล้วโว้ย 😅
หลังจากนั้นเคิร์ทก็ยังทำเพลงมาเรื่อยๆ จนได้มีวง วงแรกชื่อวง Fecal-Matter เป็นวงที่ทำกันเองมีเพลงร้องเอง เล่นเอง อัดเสียงเอง
แปลเป็นไทยก็ เรื่องขี้ๆ 💩
แต่วงก็อยู่ได้ไม่นาน และหลังจากนั้นเคิร์ทก็ได้มาเจอกับ คริส โนโวเซลิซ (มือเบส)
Krist Anthony Novoselic
ทั้งคู่ได้มาเจอกันในเวลาที่เหมาะสม ทั้งคู่ตั้งใจจะทำใจวงร็อคเหมือนกัน เคิร์ทได้เอาเพลงจากที่เค้าร้องให้คริสฟัง ในตอนที่ทำวง Fecal - Matter หลังจากที่คริสได้ฟัง คริสก็ชอบในสไตล์การร้องของของเคิร์ท และหลังจากวินาทีนั้น คริสก็ตัดสินใจทำวงกับเคิร์ท
หลังจากนั้นทั้ง 2 คนก็ได้ตั้งใจออกอัลบั้มแรก แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ที่นักดนตรีจนๆ 2 คนจะออกอัลบั้มเอง จนมีคนหนึ่งคนได้เข้ามาในชีวิตเคิร์ท นั้นคือ เทรซี่ มาแลนเดอ เธอเป็นแฟนตัวยงของเคิร์ท ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน และเคิร์ทก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่อพาทเมนต์เดียวกัน กับเทรซี่ ตลอดช่วงชีวิตของเคิร์ทไม่ได้ทำมาหากินอะไรมากนัก ตื่นมา เล่นกีตาร์ แต่งเพลง เพราะเค้ามีความมุ่งมั่นในสิ่งที่เค้าทำ ส่วนเทรซี่มีหน้าที่ซัพพอร์ต คอยจ่ายค่ากินค่าอยู่
Kurt & Marander
และในที่สุด Nirvana ก็มีอัลบั้มแรก นั้นคืออัลบั้ม BLEACH โดยมีเทรซี่คอยช่วยอยู่เสมอ
มาแล้วอัลบั้มแรก เย้ ! เย้
หลังจากนั้นชีวิตรักของเคิร์ทก็จบลงเค้าได้เลิกลากับ มาแลนเดอร์
และได้พบกับผู้หญิงคนใหม่ ชื่อว่า โทบิ เวลล์ เธอเป็นมือกลองของวง Bikini Kill
Tobi Vail
Tobi & Kurt
เธอเข้ามาในชีวิตของเคิร์ท ในช่วงเวลาที่เค้ากำลังเตรียมงานชุดใหม่นั้นคืออัลบั้ม Nevermind ซึ่งเป็นเป็นที่แจ้งเกิดให้พวกเค้า และทำให้พวกเค้าเป็นตำนานในพริบตาเดียว
ได้มือกลองหลักแล้วนะหลังจากที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา Dave Grohl
NEVERMIND
ซึ่งเพลงที่สร้างชื่อให้เค้ามากที่สุดนั้นคือเพลง
Smells Like Teen Spirit
ซึ่งเพลงนี้ดันให้อัลบั้มของเค้าขึ้นไปเขี่ย เพลงของ
ไมเคิ้ล แจ็คสันน์ ตกลงจาก บิลบอร์ดชาร์ต
(อึ้งกันทั้งวงการ) 😳
โดนเขี่ยเรียบร้อยครับ 👅
หลังจากนั้น Nirvana ก็ได้มีโอกาสรับคำเชิญจากวง Guns N Roses ให้ไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกัน แต่เคิร์ทก็ตอบปฏิเสธไป และหลังจากนั้นเป็นเรื่องราวการขิงกันของทั้ง 2 วงนี้ ด่ากันไปมา ในคอนเสิร์ตของตัวเอง เจอกันหลังเวทีก็จะวางมวยกันเหมือนเด็กช่างกลบ้านเราเลย 😅🤣
AXL Rose vs Kurt Cobain
ซึ่งเหตุผลก็คือเคิร์ท ไม่ชอบนิสัยของ แอ็กเซิล โรส
เพราะแอ็กเซิล มีนิสัยของการเหยียดเพศเหยียดสีผิวอยู่ เคิร์ทเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้เอามากๆ ทั้งการเหยียดเพศหญิง หรือการเหยียดเพศสภาพที่สาม
หลังจากนั้นจนแล้วจนรอด เคิร์ทก็ได้เลิกกับโทบิ และได้มาแต่งงานกับ คอทนี่ เลิฟ ( Courtney Love) ซึ่งเป็นร็อคเกอร์สาวจากวง HOLE
Courtney & Kurt
ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คนคือ Frances Bean Cobain
ลูกน่าร๊ากกก
Nirvana ก็ได้มี อัลบั้มที่ 3 คืออัลบั้ม In Utero
เป็นอัลบั้มอันดับ 1 ในปี 1993 ทั้งในอังกฤษและอเมริกา
หลังจากอัลบั้มนี้ เคิร์ทได้มีข่าวอื้อฉาวอีกครั้ง เค้าเสพเฮโรอีนเกินขนาด คอร์ทนีย์ เรียกตำรวจไปที่บ้านในซีแอ๊ทเทิ่ล หลังจากเคิร์ทขังตัวเองในห้องน้ำและขู่จะฆ่าตัวตาย (เด็กๆดูไว้เป็นตัวอย่างนะจ๊ะเสพมากไปมันเป็นแบบนี้แหละ 😅)
บั้นปลายของชีวิตเคิร์ท เค้าพยายามฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ 1994 โดยการทานยาโรฟีนอล ซึ่งเป็นยานอนหลับ หลังจากอยู่โรงพยาบาล 1 สัปดาห์ เคิร์ทก็กลับซีแอ๊ทเทิ่ล สุขภาพจิตของเค้าแย่ลงเรื่อยๆ เค้าขังตัวเองไว้ในห้องและขู่จะฆ่าตัวตายอีกครั้ง คอร์ทนีย์และ ผู้จัดการวง ได้จัดการให้เค้าเข้ารับการบำบัด ที่ ลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 30 มีนาคม แต่เค้าก็หนีออกมา ในวันที่ 1 เมษายน และหนีกลับไปที่ ซีแอ๊ทเทิ่ล
เบื่อโลกมีอาการติดยาและเริ่มซึมเศร้า 😢
ระหว่างการเดินทางกลับไปที่ซีแอ๊ทเทิ่ล เคิร์ทได้บังเอิญพบกับ ดัฟฟ์ แมคคาแกน มือเบสของวง Guns N Roses 🌹 บนเครื่องบิน เคิร์ทได้เปิดเผยอาการติดยา และ ซึมเศร้า ให้ดัฟฟ์รู้ และได้บ่นถึงเรื่องที่กำลังจะได้กลับบ้านที่ ซีแอ๊ทเทิล ซึ่งดัฟฟ์ก็รู้สึกตะหงิดๆใจ จึงอาสาไปส่งเคิร์ทที่บ้าน แต่ในช่วงล่ะสายตา เคิร์ทก็หายไปแล้ว หลังจากนั้น แม่ของเคิร์ทได้ปจ้งความว่า เคิร์ทหายตัวไปในวันที่ 4 เมษายน 1994
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 1994
เป็นวันที่มีข่าวใหญ่ทำให้ทั้งโลกช็อกไปตามๆกัน เมื่อมีช่างไฟฟ้าที่มีนัดได้ไปติดตั้งสัญญาณเตือนที่บ้านของเค้า ช่างก็ได้เดินเข้าไปเจอกับร่างของเคิร์ท ซึ่งสภาพของเค้าโดนยิงด้วยปืนที่ศีรษะ ด้วยปืนของเค้าเอง หลังจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ได้ข้อสรุปว่าเคิร์ทได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยตายมาก่อนหน้าวันที่พบร่าง 2-3 วัน
R.I.P
จดหมายลาตาย
Suicide Note 📝
ซึ่งก็คาดเดากันว่าเป็นปมต่างๆ ที่สะสมมารวมถึงอาการซึมเศร้าจากการติดยา แต่ก็มีอีกทฤษฎีว่าเป็นการฆาตกรรม จากคนใกล้ตัว...
ถึงแม้ตัวเคิร์ทจะลาจากโลกนี้ไป แต่บทเพลงของเค้าก็ยังเป็นตำนานและเป็นที่จดจำไปอีกนานแสนนาน
ชอบบทความดีๆ ก็กดติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะครับ 😄 เดี้ยวจะทำออกมาเรื่อย ทั้งนักร้อง และดีเจ
2 บันทึก
19
9
6
2
19
9
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย