13 ส.ค. 2020 เวลา 10:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปจากการบรรยายหัวข้อ Finding the winning theme and global market in snapshot โดย อ.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วันที่ 12/8/63 ของ CSI Society
- ปีนี้เป็นปีของ bitcoin โดยผลตอบแทนอยู่ที่ 93% ซึ่งตรงนี้ทำให้เห็นว่านักลงทุนกำลังหาสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ๆ
- หลังจากที่ทองคำได้ outperform ขึ้นมาอย่างโดดเด่นก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้โดนเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งเกิดจาก bond yield ของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้
- การที่ bond yield ฟื้นตัวเร็ว แสดงถึงนักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- ปีนี้ทองคำให้ผลตอบแทนที่ดี แต่อ.วิศิษฐ์ให้ลดน้ำหนักจาก 10% เป็น 5%
- ทองแดงเริ่มให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากขึ้น
- SET ยังให้ผลตอบแทนที่เป็นลบอยู่ตั้งแต่ต้นปี
- เงินเริ่มไหลเวียนไปที่กลุ่มท่องเที่ยวเพราะคิดว่าราคาก่อนหน้านี้ bottom out ไปแล้ว
- GDP q2 ของไทย -12% แต่คาดว่าไตรมาสต่อไปจะติดลบน้อยลง
- การ rebound ของหุ้นครั้งนี้ขึ้นมาเป็นเหมือนเครื่องหมายถูกหรือรูปไนกี้
- ถ้านักลงทุนจะหาหุ้น outperform ให้หาหุ้น technologyที่มี platform เช่น amazon facebook tencent aibaba ซึ่งเป็นราคาเคลื่อนที่แบบ sideway up
- Dollar ในระยะยาวจะเป็น downtrend
- ร่างกฏหมายใหม่ของสหรัฐจะให้มีการอัดฉีดให้ 400 เหรียญต่อสัปดาห์
- ค่า EUR/USD เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น บ่งบอกว่าเงินเริ่มไหลออกจากสหรัฐไปกลุ่มประเทศอื่นๆที่ underweight เช่น ตลาดยูโรกับ emerging market
- ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วค่อนข้างเยอะ
- MSCI all country market เริ่มกลับมาเหมือนเหมือนก่อนเกิดโควิต ซึ่งเป็น V-shape ซึ่งเกิดจากผลของข่าววัคซีน แต่อย่างไรก็ตามต้องรอ WHO เข้าไป verify ก่อน
- Bond yield เพิ่มขึ้น เงินเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น เป็น tactical asset allocation flow ซึ่งต้องจับตาดูว่า q3-4 เป็นอย่างไร ถ้ายังไม่ดี เงินอาจจะไหลกลับพันธบัตรได้
- Earning yield gap ของไทยตอนนี้อยู่ที่ 4.1%
- การเลือกหุ้นตอนนี้ต้องเป็น stock selection โดยเลือกหุ้นที่ vlauation ถูกๆ
- เวียดนามต้องมีการพัฒนาตลาดพันธบัตรเพื่อเอื้อให้ตลาดทุนแข็งแกร่งด้วย
- bitcoin market สูงสุดช่วงปี 2017 วึ่งตอนนี้ปรับตัวลดลงค่อนข้างติดกัน 4 ปี แต่การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต
- ถ้าจะดูว่าเศษฐกิจฟื้นหรือไม่ให้ดูจากราคาน้ำมัน ซึ่งขึ้นอยู่กับ 1) supply ว่าเยอะแค่ไหน 2) ตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ (GDP) โดยตอนนี้ spread ของราคา spot กับ future บ่งบอกว่าเริ่ม recovery ขึ้นมาแล้ว (เริ่มจาก contango เป็น backwardation)
- ปีนี้หุ้นขนาดเล็ก outperform ซึ่งเกิดจากกำไรบริษัทออกมาดี ส่วนหุ้น Big cap underperform
- อ.วิศิษฐ์แนะนำว่าให้จัด port ดังนี้ หุ้นไทย 20% หุ้นต่างประเทศ 15% ตราสารหนี้ 30% ทองคำ 5% เงินสด 25% สินทรัพย์ทางเลือก เช่น bitcoin 1%
- ปี2019 เป็นปีที่ถือว่าหุ้นไม่ดี แต่หุ้นที่เป็น monopoly, หุ้นที่กิน market share คนอื่นหรือหุ้นที่มีการตั้งสำรองจะพบว่า outperform
- ปี2020 หุ้นที่มีการตั้งสำรอง, หุ้นสินค้าเกษตร, หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโควิต-19, หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก 5G พบว่า outperform
สรุป
- ตอนนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องเงินฝืด แต่มีความหวังเรื่อง recovery จาก bond yield และราคาน้ำมันสูงขึ้นแต่ถ้า recoveryไม่ได้ และมี bond yield กับราคาน้ำมันสูงขึ้น จะเกิด stagflation ซึ่งหุ้นจะ rebound และเป็น sideway ขนาดใหญ่
- Central bank ได้อัดฉีดสิ่งที่เป็น unprecedented money เข้าไป โดยตอนนี้สหรัฐอัดฉีดเงินเข้า 400 เหรียญต่อสัปดาห์ ทำให้ Dept/GDP ของสหรัฐสูงขึ้น US dollar อ่อนค่า
- ตอนนี้เงินจะ allocation ไปยังกลุ่มที่ PE ต่ำและ valuation ยังต่ำอยู่
ขอขอบคุณคลิปการบรรยายจากเพจ CsiSociety ครับ
สามารถชมคลิปการบรรยายตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f3612cd3aca810caa8ea31f
โฆษณา