13 ส.ค. 2020 เวลา 11:27 • ปรัชญา
“อย่าให้ความเกรงใจทำลายชีวิตคุณ”
จงเป็นคนขี้เกรงใจแต่อย่าได้เกรงกลัว
คำว่า “เกรงใจ” ไม่มีอยู่ในวัฒนธรรมของฝรั่ง แต่ คนไทยกลับมีนิสัยขี้เกรงใจ ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าโต้แย้ง ยอมเสียเปรียบ และเออออห่อหมกให้จบเรื่องกันไป ทั้งๆที่ “ความขี้เกรงใจ” ถือเป็นโรคร้ายทำลายชีวิตสำหรับสังคมยุคใหม่ ยุคที่คนอ่อนแอต้องแพ้ไป คนขี้เกรงใจถูกผลักไสให้เป็นม้านอกสายตาที่ไร้น้ำยา
คนขี้เกรงใจมักขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นคนหัวอ่อน หวั่นไหวต่อคำพูดของคนอื่นง่าย คิดว่าตนเองมีปมด้อย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเพราะกลัวคนฟังจะว่าเอา สุดท้ายก็โดนเอาเปรียบ ต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ชอบไปทั้งปีทั้งชาติ
เพื่อจุดประกายให้คนขี้เกรงใจทั้งหลาย ได้เรียนรู้ที่จะเป็นตัวของตัวเอง กล้าปฏิเสธ ไม่ยอมถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนเห็นแก่ตัวที่ถือคติ “ด้านได้อายอด”
คนเหล่านี้เราควรเอาออกไปจากชีวิต หรือไม่ก็นำตัวเองออกมาเพราะไม่เช่นนั้นคนที่ทุกข์ใจก็คือตัวเราเอง
เราต้องกล้าที่จะปฏิเสธ ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจเขาไปซะทุกเรื่อง อย่าฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองลำบากใจ
ทุกอย่างต้องอยู่ในจุดที่เราสบายใจ
ถ้าเขาเยอะไป แต่เราไม่กล้าพูด ไม่กล้าปฏิเสธ
เป็นนิสัยของคนขี้ขลาด ที่ไม่เห็นใจตัวเอง
[ดังนั้นเราอย่าได้เกรงกลัวที่จะพูดคำว่า”ไม่”เพื่อที่จะไปรักษาน้ำใจของคนเห็นแก่ตัว]
โฆษณา