Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พ
พยายาม
•
ติดตาม
13 ส.ค. 2020 เวลา 15:20 • ประวัติศาสตร์
โลกยุคสงครามเย็น
สงครามเย็นคือการต่อสู้ระหว่างค่ายประชาธิปไตยกับค่ายคอมมิวนิสต์เป็นการทำสงครามกันโดยปราศจากเสียงปืนหรือการเข่นฆ่า แต่เป็นการขยายอิทธิพลทางด้านอุดมการณ์ทางการเมืองของสองค่ายต่างฝ่ายต่างก็แสวงหาพรรคพวกร่วมอุดมการณ์ทั้ง 2 ค่าย
ต่างก็งัดเอายุทธวิธีต่าง ๆ ที่จะดึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมาเป็นฝ่ายตนให้ได้ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจการเมืองหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ แก่ประเทศโลกที่สามถึงแม้จะมีประเทศเล็ก ๆ จะรวมตัวเป็นกลุ่ม“ ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ก็ตาม
ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศมหาอำนาจทั้งสองลดการแข่งขันกันหากเปรียบเทียบประเทศมหาอำนาจทั้งปวงจะเห็นได้ว่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกามีเศรษฐกิจที่ดีมากเพราะไม่ได้รับผลจากสงครามมากนักและสามารถขายอาวุธให้กับชาติพันธมิตรซึ่งต่างจากสหภาพโซเวียตที่มีอำนาจมาก แต่สภาพเศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากทำสงครามกับเยอรมัน. อย่างไรก็ตามสหภาพโซเวียตก็ยังมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ที่จะแพร่อิทธิพลทางคอมมิวนิสต์ให้กว้างขวาง เพื่อครองโลกโดยสหภาพโซเวียตมองว่าเมื่อยุโรปตะวันออกเป็นบริวารของตนแล้วแผนต่อไปคือการล้มล้างรัฐบาลต่าง ๆ ในประเทศยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันตกแผนการเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในปี ค.ศ. 1948 ฝ่ายคอมมิวนิสต์ในฝรั่งเศสและอิตาลีประสบความสำเร็จเมื่อเข้าไปมีอำนาจในประเทศเชคโกสโลวะเกีย
เมื่อคอมมิวนิสต์ขยายตัวเช่นนี้ เป็นประเทศที่มีดินแดนใกล้สหรัฐฯซึ่งมีฐานทัพสำคัญที่บริเวณเขตนั้นนอกจากนั้น ทางด้านสหรัฐฯเองก็ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้โดยประกาศใช้“ แผนมาร์เซล” (Mar shall Plan) และ“ ทรูแมน” (Tyeman Doctrine) ซึ่งเป็นการช่วยเหลือทางด้านทหารและเศรษฐกิจให้แก่กรีซและตุรกีที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของการขยายอำนาจของสหภาพโซเวียตและสหรัฐฯ ได้รวมตัวกับยุโรปตั้งองค์การโตหรือสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือขึ้น โดยมีเบลเยียมเดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
เพื่อรวมตัวช่วยเหลือกันและกันเมื่อถูกรุกราน พร้อมทั้งสหรัฐฯได้จัดตั้งอาวุธให้ยุโรปเพื่อเป็นแนวป้องกันคอมมิวนิสต์ทั่วโลก เช่นกรณีเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้สหรัฐฯก็ส่งกำลังเข้าช่วยเกาหลีใต้สงครามเย็นระหว่างทั้ง 2 มหาอำนาจ. เริ่มร้อนระอุขี้ระอุขึ้นเมื่อสหภาพโซเวียตตอบโต้สหรัฐฯโดยการจัดตั้งองค์การกติกาสัญญาวอซอร์ เป็นการรวมตัวของประเทศโลกฝ่ายคอมมิวนิสต์ และสหภาพโซเวียตได้ใช้ข้ออ้างในข้อตกลงของสัญญาฉบับนี้ส่งทหารเข้าไปประจำในยุโรปตะวันออก
ในขณะนั้นสตาลินผู้นำสหภาพโซเวียตได้ตระหนักว่าการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯนั้นเป็นวิธีการไม่สู้ดีนักถึงแม้สหภาพโซเวียตจะผลิตนิวเคลียร์ได้มากก็ตามเมื่อถึงปี ค.ศ. 1952 สงครามคลองสุเอซเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นการคุกคามของสหภาพโซเวียตต่ออังกฤษและฝรั่งเศส แต่เหตุการณ์ไม่รุนแรงนัก และเมื่อสหภาพโซเวียตเริ่มเข้ามีอิทธิพลในเลบานอนในปี ค.ศ. 1962 สหรัฐฯเองก็ส่งกองทัพทหารเข้าไปตามแนวชายแดนเบรุตเพื่อสกัดกั้นไม่ให้สหภาพโซเวียตรุกรานอีกและบีบคั้นให้สหภาพโซเวียตถอยทัพออกไป แต่สหภาพโซเวียตยังไม่ละความพยายาม ได้เริ่มขยายอิทธิพลไปยังคิวบาเพื่อติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ที่นั้นเพราะคิวบา เป็นประเทศที่มีดินแดนใกล้สหรัฐฯ ซึ่งมีฐานทัพสำคัญที่บริเวณเขตนั้น
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย