14 ส.ค. 2020 เวลา 13:41 • ธุรกิจ
สลับมาเจาะลึก 5 TECH Company ของฝั่ง China กันบ้าง?
Tencent Holding, Huawei Tech, Baidu, Alibaba Group, ByteDance
ถ้าเกิด จีน แตกหักกับอเมริกา ใครจะรอด ใครจะล้มกันก่อนละ ?
อันนี้เป็นบทความที่ต่อจาก 5 TECH Company ของฝั่ง U.S อันก่อนหน้านี้นะ
ซึ่งได้ไอเดียการค้นหาข้อมูลจากพี่ลงทุนแมนเหมือนเดิมในภาพที่อธิบายถึง สงครามเทคโนโลยี จีน vs อเมริกา
ในบทความนี้เรามาดูของพี่จีนกันนน
โดยบริษัทที่เป็น Big 5 Tech Company ของพี่จีนก็คือ
- Tencent Holding Ltd
- Huawei Technologies
- Baidu Inc.
- Alibaba Group
- ByteDance
มั่นใจว่าเพื่อนๆหลายคนคงคุ้นชื่อคุ้นหูกันอยู่ดีแล้วเนอะ
แต่บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจ ว่าพวกเค้าทำอะไร ขายอะไร ?
สิ่งที่น่าสนใจ CEO & Co-founder จาก Top 5 นี้ เช่น Ma Huateng จาก Tencent หรือ Jack ma ที่ติด 10 อันดับของ CEO ที่มีรายได้และกำไรมากที่สุดของโลกด้วย
และพวกเค้าบางคนยังมีอันดับที่อยู่สูงกว่า Top 5 Tech ของ U.S ด้วยอีกนะ
เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ประโยคเดิมๆคือ "ยิ่งตัวใหญ่ ยิ่งล้มดัง" เลยทำให้เราอยากศึกษาเพิ่มในเรื่องนี้ :)
1. Tencent Holding Ltd
- ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เล่นเกมส์ LOL หรือ ROV อาจจะคุ้นเคยกับชื่อของค่ายเกมส์ Garena และ Riot game ดี 2 บริษัทใหญ่ในค่ายเกมส์นี้ เป็นลูกๆของ Tencent Group นี่เอง
3
- นอกจากนั้นแล้ว Tencent Music ที่มีในส่วนของ Streaming musiv อย่าง QQ Music, Kugou, Kuwo แน่นอนว่าเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงของภาษาจีนจะเยอะสักหน่อย แต่เพลงฝรั่งเค้าก็มีเหมือนกัน นั้นเลยทพให้พวกเราอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อเนอะ
- กลยุทธ์การบริหาร Production portfolio ของ Tencent ที่เน้นความหลากหลายของโลก Online และ E-commerce แต่โดยส่วนมากก็จะอยู่ในหมวดของ Entertainment
ข้อมูลเพิ่มเติม
- รายได้หลักของ Tencent มาจากบริษัทกลุ่ม value-added services (VAS) ซึ่งคือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระเงินต่างๆ เช่น Wechat payment, Tenpay, QQChat รวมถึง Gaming service ต่างๆด้วยนะ (ก็ที่พวกเราเติมคูปองในเกมส์นี้ละ ซึ่งเพื่อนๆเชื่อไหมว่าพวกเค้าได้เงินจากผู้เล่นมหาศาลเลยละ)
- แค่เฉพาะ Tencent Games ก็มีรายได้เกือบ 40.8% ของ hare revenue ทั้งหมดแล้ว และอัตราการเติบโตของส่วน Gaming นี้มีการเติบโตสูงถึง +40% เลยละ
ตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ Tencent Holding
- Tencent รายงานผลประกอบการของ Q2/2020 อยู่ที่ +29.3% โดยที่ 40.8% มาจาก Tencent Games
- Tencent รายงานผลประกอบการของ Q1/2020 อยู่ที่ +26.00%
- รายได้จากปี 2019 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +20.00%
ธุรกิจอีกส่วนนึงของ Tencent ที่น่าสนใจคือ Tencent Entertainment Music (TME)
จากแผนผังการลงทุนด้านบน ก็จะทำให้เพื่อนๆเห็นเลยว่า
- TME ไม่ได้มีเพียงแค่ Streaming music ของตัวเอง
- แต่สิ่งที่น่าสนใจในผลกำไรของเค้ามากกว่านั้นคือ การลงทุนในหุ้นส่วนของ Streaming music สัญชาติอเมริกาขอ่าง Spotify, Universal Music, Warner Music
- เลยไม่แปลกใจที่ Game ของ Tencent อย่าง AOV (หรือROV) จะมีสุดยอดศิลปินอย่าง Hans Zimmer เข้ามาทำเพลง Theme หลักให้ เรียกได้ว่าใช้คุ้มเลยละ
Tencent เป็นกลุ่มบริษัทของคนจีนที่มีการเดินเกมส์ธุรกิจ และการบริหาร Port ของตัวเองได้ดีมากๆ พวกเค้ารู้ดีว่า Entertainment category คือค่าใช้จ่ายส่วนเกินของชีวิตมนุษย์เพียงแค่เสริมความสุข แต่ถ้าพวกเค้าสามารถเข้าไปถึงทุก Entertainment ที่คนเราเสพอยู่ได้ละ อย่างน้อยที่สุดก็ทุกสื่อที่คนจีนจะต้องใช้เพื่อความสุขของตัวเอง ... แล้วอย่างนี้มีเหรอที่จะไม่ได้กำไร ? :)
1
ส่วนตัวเรามองว่า Tencent Holding Ltd จะ "รอด" พ้นไปได้อย่างสบายๆ หาก จีนกับอเมริกาแตกหักกันเรียบร้อย
2. Baidu Inc.
- ฟังทางนี้ก่อนน เพื่อนๆหลายคนพอได้ยินชื่อบริษัทนี อาจจะยังมีความคิดที่ติดลบอยู่บ้าง เช่น นี่มันไวรัส ? บริษัทที่ผลิต Pop-up กวนใจเด้งมาตลอด ? หรืออะไรก็ตาม
- เราจะมาอธิบายให้เพื่อนๆเห็นภาพที่กว้างมากขึ้นของ Baidu
- แล้วถ้าเค้าไม่ดีจริงๆ ไม่มีทางได้ติด Top 5 Tech company ของพี่จีนอย่างแน่นอน
- ถ้าพูดถึง Baidu เราอยากให้เพื่อนๆนึกถึง Google จากฝั่งอเมริกา
- โดย Baidu product portfolio ก็จะเน้นไปที่ Search engine และ News คล้ายๆของ Google เลย
Product Line เยอะมากก
โดยแบรนด์หลักของ Baidu ที่สร้างกำไรในส่วนของ B2C ก็จะเป็นประมาณนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เพื่อนๆรู้ไม๊ว่า Search engine ของ Baidu เนี่ยมีขนาดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Google และยังมีแชร์เกือบ 75% ของ Search engine company ในประเทศจีนเลยด้วย
- Baidu เองยังเน้นการผลิต Innovation ต่างๆที่สามารถดำนวยความสะดวกของคนได้ (โดย base จากความต้องการของคนจีน)
- และปัจจุบัน Baidu เองก็กำลังพัฒนาในเรื่องของ AI ซึ่งไม่ต่างอะไรจากเกมส์ธุรกิจที่ Google กำลังไปก้าวต่อไปเลยละ !
ตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ Baidu Inc.
- Baidu รายงานผลประกอบการของ Q2/2020 ลดลงอยู่ที่ -1.00%
- Baidu รายงานผลประกอบการของ Q1/2020 ลดลงอยู่ที่ -11.14%
- Baidu รายงานผลประกอบการของ 12 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ -1.07%
- รายได้จากปี 2019 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +3.72%
- รายได้จากปี 2018 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +14.13%
Baidu นั้นมีบริการหลายอย่างก็จริงๆ แต่ถ้าพูดถึง B2C ส่วนใหญ่จะมีแค่ Search engine ซึ่งที่เหลือก็จะไปลงในส่วนของธุรกิจ B2B หมดเลย และด้วย Covid ที่ทำให้ธุรกิจส่วน B2B ในจีนต้องชะงักตัวลงไปเยอะ และนั้นก็กระทบกับ Baidu เช่นกัน
1
อย่างไรก็ดี Baidu ได้สร้างบ่อแห่งความหวังไว้หลายอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่อง AI Technology เช่น
- Baidu AI healthcare solutions ที่ใช้ในโรงพยาบาลแล้วเกือบ 2,000 แห่ง
- Apollo robotaxi ที่ปักกิ่ง
- Baidu Cloud และ Baidu AI Platform ที่เปิดออกมาพร้อมๆกัน
ส่วนตัวเรามองว่า Baidu น่าจะ "รอด" หากจีนและอเมริกาตัดขาดกัน
ถ้า Baidu สามารถพัฒนา Cloud, และ AI ได้ดีเพียงพอที่จะเป็นผู้นำในจีนได้ แต่คงต้องระวัง Huawei ให้ดีละ
3. Huawei Technologies
- นี่คือ Apple แห่งเมืองจีนเลยก็ว่าได้นะ
- แต่ Huawei นั้นมี Product ที่หลากหลายกว่า Apple
- Huawei ไม่ได้เพียงแค่ขายมือถือและอุปกรณ์ Hardware แต่เค้ายังขายของที่เกี่ยวกับ ICT เช่น Router, Server, Solar Cell solution, Network solution
ขออนุญาตนำสัดส่วนแชร์ของปี 2019 มาให้ดู https://www.huawei.com/en/annual-report/2019
จากกราฟด้านบนขอนำข้อมูลที่เป็นสัดส่วนแชร์สิ้นปี 2019 มาให้ดู เพราะสามารถบอกสัดส่วนที่ชัดเจนได้ (ตอนนี้ในปี 2020 Huawei ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดเป็น Share)
- โดยอันดับ 1 ก็คือ B2C product อย่างมือถือนี่เอง
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับปี 2020
- รายได้หลักของ Huawei ยังคงมาจาก B2C segment อย่าง Smartphone ที่มียอดแชร์ในตลาดเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งมีแชร์เท่ากับ Samsung เลยละ
- โดยตลาดหลักของ Huawei Smartphone ก็ไม่พ้นประเทศจีน ที่มีผู้ใช้งานเกือบ 71% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 31% share ของ revenue ทั้งหมด และนอกประเทศจีนก็จะมีในโซนยุโรปอย่างเช่น Russia, Ukraine
- Apple ที่ครองตลาดอเมริกาเป็นหลัก และด้วยราคาที่สูงเกินกว่า Huawei มากอาจจะไม่ได้เน้นที่ตัว Volume แต่เน้นที่กำไร เลยทำให้ Apple iphone ไม่ได้อันดับ 1 ไป (เผื่อเพื่อนๆมีคำถามในใจ)
ตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ Huawei Technologies
- Huawei รายงานผลประกอบการของ Q2/2020 ลดลงอยู่ที่ -24.00%
- Huawei รายงานผลประกอบการของ Q1/2020 ลดลงอยู่ที่ -1.40%
- Huawei รายงานผลประกอบการของ 6 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ +13.10%
- รายได้จากปี 2019 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +19.10%
- รายได้จากปี 2018 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +19.50%
ส่วนตัวมองว่า Huawei นี่มีลุ้น แต่คิดว่า "รอด" ได้อย่างแน่นอน
ต้องมาดูกันว่า Huawei สามารถพัฒนาเทคโนโลยี 5G กับมือถือได้ดีกว่าเจ้าอื่นยังไงบ้าง นาทีนี้ Huawei คงต้องพึ่ง First mover competitive advantage ของ Technology & Innovation มากๆเลยละ
4. Alibaba Group
- นี่คือคู่แข่งที่เรียกได้ว่าสูสีกับ Amazon มากที่สุดจากฝั่ง เอเชีย
- โดยที่ Business model ของ Alibaba นั้นเหมือนกับ Amazon มากๆคือ เป็นsupply hubs และมีการใช้ Technology และดำเนินการทุกอย่างบน Cloud
- Alibaba ไม่ได้แค่ขายของ Online หรือเป็น Wholesale B2B เท่านั้น แต่ Alibaba ยังเปิดเข้าไปในส่วนของธุรกิจอื่นๆ เช่น ท่องเที่ยว (Fliggy) Financial (Alipay) หรือ Logistic อย่าง Cainiao
- ไปดู Portfolio ของ Alibaba กัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ฐานลูกค้าหลักที่ก่อให้เกิดรายได้คือคนจีน
- Core commerce มีสัดส่วนแชร์ถึง 85% ของ Alibaba group revenue หรือ ก็คือมาจากส่วนของ Marketplaces นั้นเอง
- ในธุรกิจส่วนของ Cloud computing มีแชร์อยู่ที่ 7.8% แต่ที่น่าสนใจคืออัตราการเติบโตที่สูงถึง +64% !!
ตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ Alibaba Group
- Alibaba รายงานผลประกอบการของ Q2/2020 อยู่ที่ +18.40%
- Alibaba รายงานผลประกอบการของ Q1/2020 อยู่ที่ +6.45%
- Alibaba รายงานผลประกอบการของ 12 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ +28.20%
- รายได้จากปี 2019 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +40.74%
- รายได้จากปี 2018 เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน +73.51%
โดยคู่แข่งของ Alibaba นอกจาก Amazon ในเรื่องของ marketplace แล้ว
ยังมีคู่แข่งร่วมชาติอย่าง Tencent Holding ที่มี Portfolio ในบริษัทที่เมือนกันเช่น
ธุรกิจท่องเที่ยวอย่าง Fliggy vs Qunar
ส่วนตัวเราคิดว่า Alibaba ที่มีฐานธุรกิจที่ดีจาก e-commerce, shipping และมีตลาดหลักเป็นคนจีนเองด้วย ยังไงก็ "รอด" ไปได้สบายๆ
5. ByteDance
- หรือที่เพื่อนๆรู้จักในนามขอ TikTok นี้เอง ที่ตอนนี้กำลังเป็รที่จับตามองของ Microsoft เนอะ เดี๋ยวเสนอซื้อ เดี๋ยวเล่นตัว เอ่า ไปๆมาๆ
- โดย ByteDance มีลักษณะของธุรกิจที่คล้ายกับ Facebook มากๆ ก็คือเป็น Pure Social media เลยย
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เกือบ 67% ของรายได้ทั้งหมด ได้ผ่านมาจาก Ads ใน TikTok โดยเฉพาะในแอพ Douyin (หรือ Tiktok เวอร์ชั่นจีน)
- และรายได้ที่ตกอยู่ในประเภทของ Advertising ของทั้ง Group อยู่ที่ 71%
- อย่างไรก็ตาม Sheng Fu, Chairman ของ ByteDance ก็ได้ออกมายอมรับว่าพวกเค้ากำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ลำบาก เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของพวกเค้าพึ่งพิงกับ Mobile marketing มากเกินไป
ตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ ByteDance
- ByteDance รายงานผลประกอบการของ Q2/2020 - ยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน แต่คาดการณ์ว่าจะ ตกอยู่ที่ราวๆ - 49 ถึง -55% (ณ วันที่เขียน)
- ByteDance รายงานผลประกอบการของ Q1/2020 ตกอยู่ที่ -56.00%
- แต่ใน Q1/2020 ByteDance เองก็ลดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 16.00%
- ByteDance รายงานผลประกอบการของ Q4/2019 อยู่ที่ +25.00%
ส่วนตัวเราคิดว่าถ้า ByteDance ยังคงอยู่ที่จีนต่อ ก็อาจจะลำบาก แต่ต่อให้โดน Acquire ไปทางฝั่งอเมริกา ก็ต้องลุ้นอยู่ดีว่าจะถูกดองเก็บไว้รึเปล่าเอ่ย..... ถ้าจากความคิดเรา เราขอโหวตว่า "ไม่รอด" แล้วกัน
ถ้า ByteDance ยังคงต้องพึ่งพาแต่ Ads หรือการทำรายได้เฉพาะแค่ Mobile platform เกือบ 3/4 ของ portfolio เนี่ย... ยากหน่อยละ
จบแล้วจ้าเพื่อนๆ
เป็นไงกันบ้าง ? อ่านแล้วรู้สึกว่าแตกต่างจากฝั่ง U.S ไหมเอ่ย ?
ส่วนตัวรู้สึกว่าทางฝั่ง U.S จะเห็นผลประกอบการในแง่ positive มากกว่า
แต่เราว่า China Tech company มีอัตรา growth ที่มากกว่า
ดีและไม่ดี ต่างกันไป
โฆษณา