14 ส.ค. 2020 เวลา 15:35 • ประวัติศาสตร์
ต่อ โลกยุคสงครามเย็น
นอกจากนั้น สหภาพโซเวียตได้ส่งจรวดสปุตนิกขึ้นไปในอวกาศ เพื่อจับหาเรดาร์และพยายามจะทำลายอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯให้หมดสหรัฐฯ ได้ยื่นคำขาดให้สหภาพโซเวียตถอนทัพและน้ำจรวดออกไปจากคิวบาสหภาพโซเวียตจึงจำเป็นต้องถอนตัวออกไปเพราะยังเกรงแสนยานุภาพของสหรัฐฯอยู่ ความกดดันของโลกเริ่มมีมากขึ้นสหภาพโซเวียตเปลี่ยนแผนการใหม่โดยได้แอบสร้างกองทัพเรือและผลิตอาวุธร้ายแรงไว้จำนวนมากและส่งอาวุธเงิน กำลังทหาร ให้แก่สมาชิกในประเทศคอมมิวนิสต์ตลอดเวลา.
ทางด้านเอเชียสหภาพโซเวียตได้เปิดทำสงครามอีกที่เวียดนามโดยให้การช่วยเหลือเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเงินตั้งแต่เริ่มสงครามจนสิ้นสุดสงครามสหรัฐฯเองก็พยายามส่งกองทัพไปช่วยเวียดนามใต้ แต่ด้วยเหตุหลายประการจึงทำให้สหรัฐฯพ่ายแพ้สงครามครั้งนั้นเป็นการสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้สหรัฐฯมากหลังจากสหรัฐฯพบกับความล้มเหลวในสงครามเวียดนาม.
สหรัฐฯเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดกับสหภาพโซเวียตเพราะสหรัฐฯทุ่มเทกับการทำสงครามครั้งนี้มากจนเกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจในประเทศยิ่งไปกว่านั้นยุโรปเองก็ต้องการหลุดพ้นจากการครอบงำทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ จึงทำให้ภาวะทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯถดถอยสูงและขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตก็มีกองทัพทหารที่แข็งแกร่งพร้อมทั้งจีนคอมมิวนิสต์ก็สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้เองจีนจึงเป็นคู่แข่งขันที่น่ากลัวของสหรัฐฯ ทางด้านอินเดียก็สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ประเทศต่าง ๆ เริ่มสะสมอาวุธที่ร้ายแรงไว้ ทำให้โลกอยู่ในภาวะอันตรายและเริ่มวิตกว่าสงครามครั้งต่อไปคงเป็นสงครามที่น่ากลัวอันจะล้มล้างมนุษยชาติทั้งมวลเมื่อปี ค.ศ. 1972 มีแนวโน้มว่าเหตุการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการเจรจาตกลงใน“ การเจรจา จำกัด อาวุธทางยุทธศาสตร์” (Strategic Arms Lini tation Talk หรือ SALT) ทำให้โลกมีความเชื่อว่าสงครามเย็นของโลกจะยุติลงได้
แต่การบุกกัมพูชาของเวียดนามในต้นปี ค.ศ. 1979 และการบุกอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียตในปีเดียวกันตลอดจนการปฏิเสธที่จะให้สัตยาบันของสหรัฐฯต่อการลงนามในข้อตกลง จำกัด อาวุธทางยุทธศาสตร์ครั้งที่ 2 ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐฯเพิ่มขึ้นและมีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางและปานกลางในยุโรปมากขึ้นจะถือว่าเป็นสงครามเย็นครั้งที่ 2 ก็ได้แม้หลายฝ่ายจะถือว่าสงครามนิวเคลียร์เป็นเรื่องของการไร้เหตุผลก็ตาม
แต่จะทำอย่างไรจึงจะทำให้การแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์หมดไปเพราะอาวุธดังกล่าวคงจำเป็นในทางยุทธศาสตร์อยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำรงสถานภาพความเป็นมหาอำนาจเอาไว้ นอกจากนี้การลดอาวุธเหล่านี้ทันที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งของกลุ่มอนุรักษ์และกลุ่มทหารภายในประเทศของตนเองก็ได้
เมื่อแต่ละประเทศประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจประเทศแต่ละประเทศต่างมุ่งผลประโยชน์และปกป้องผลประโยชน์ในประเทศของตน การแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจเริ่มทวีเพิ่มมากขึ้นความสำคัญทางด้านการทหารดูเหมือนจะลดบทบาทลง ไม่ว่าจะเป็นนาโตเองประเทศที่อยู่ภายใต้ของแต่ละค่ายต่างเริ่มจะมีอิสระในการดำเนินนโยบายตนเองมากขึ้น ระบบอุดมการณ์ทางการเมืองถูกลดบทบาทลง ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจมีบทบาทขึ้นมาแทนเพื่อให้สอดคล้องกับโลกที่มีการพัฒนามากขึ้น จากจุดเดิมที่เป็นค่ายทางการเมืองเปลี่ยนมาเป็นค่ายทางด้านเศรษฐกิจจนกระทั่งสหภาพโซเวียตถึงกาลล่มสลาย ภาวะสงครามเย็นจึงสิ้นสุดลงโลกก็เข้าสู่ยุคใหม่คือยุคโลกใหม่
โฆษณา