16 ส.ค. 2020 เวลา 08:00 • การศึกษา
EP04....นรกมาเกิด
หน้าร้อนช่วงบ่ายของเมือง Teleco ในรัฐ Texas ไมเคิลกำลังย่ำเท้าอย่างเร่งรีบในป่ารกแถวถนนหลวง เขาต้องนำไม้บางส่วนจากป่าแห่งนี้กลับไปที่พักเพื่อเก็บไปเป็นเชื้อเพลิงในช่วงค่ำ ระหว่างที่กำลังเก็บไม้เขาเหลือบเห็นหุ่นสีขาวอยู่หลังพุ่มไม้กอหนึ่ง แวบแรกเขาคิดว่าใครเอาหุ่นเสื้อมาทิ้งไว้แถวนี้ มันทำให้ป่ารกและสกปรก...แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้หุ่นนั้นอีกนิดก็ต้องผงะออกมา
สภาพศพของเด็กหญิงวัยรุ่นที่พบ
มันเป็นร่างมนุษย์เปลือยกายแต่ไร้หัว ห่างกันไม่เกิน 200 ก้าวพบศพเด็กหนุ่มนอนหงายอยู่ใต้ใบไม้ ไมเคิลรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
1
เจ้าหน้าที่สืบสวนเข้ามาตรวจสอบป่าแห่งนี้ทันที ก็พบว่ามันเป็นร่างของเด็กผู้หญิงวัยรุ่น ถูกยิงจากด้านหลัง และโดนแทงไม่ต่ำกว่า 50 แผล บางแผลหลายแห่งมีขนาดค่อนข้างฉกรรจ์และกว้าง สภาพศพเปลือยกายไม่มีหัว หัวนมและมือทั้งสองข้างถูกตัดไปด้วยเช่นกัน...นอกจากนั้นยังโดนกรีดตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงท้องน้อยเกือบถึงอวัยวะสืบพันธุ์
อวัยวะภายในพวกลำไส้ถูกควักออกมากองอยู่ข้างลำตัว ไม่พบร่องรอยทางเพศ
1
ศพถูกตัดหัว หัวนมและมือทั้งสองข้าง
ส่วนอีกศพเป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายผิวขาว ถูกยิงที่หัวด้วยกระสุน 22 มม. จำนวนสองนัด เจ้าหน้าที่ค้นหาหลักฐานในตัวพบกระเป๋าสตางค์มีบัตรห้องสมุดเขียนชื่อว่า James Brian King แต่ไม่แน่ใจว่าใช่เจ้าตัวไหม เพราะบัตรมีแต่ชื่อ ใกล้ที่พบศพ เจ้าหน้าที่พบเส้นผมสีบลอนด์ยาวหลายเส้นพันติดอยู่ตรงรั้วหนาม นอกจากนั้นไม่มีอะไรเป็น หลักฐานให้ชัดเจนเลย เพราะสภาพศพทั้งคู่อยู่ในระยะขึ้นอืดและมีตัวหนอนตามร่าง
กายแล้ว บ่งบอกให้เห็นว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน
2
เกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่มสาววัยรุ่นคู่นี้ และทำไมถึงต้องถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ...
เจ้าหน้าที่ค้นที่อยู่ตามนามบัตรจากห้องสมุดที่พบ พวกเขาพบกับ James King ซึ่งเป็นพ่อของ Brian King อายุ 14 ปี เมื่อทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ เขาถึงกับเข่าทรุด James เล่าให้ตำรวจฟังว่าก่อนเกิดเหตุ Brian นอนหน้าบ้านด้วยเปลญวน เขาได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาและหยุดใกล้ๆ กับเปล ซึ่งเป็นช่วงเวลาตีหนึ่ง เขาลุกขึ้นไปดูพบว่าเป็นรถสีแทนญี่ปุ่น จอดรถคุยกับ Brian จากนั้นเขาไปห้องน้ำ เมื่อกลับมาอีกทีก็พบว่าทั้งรถและ Brian หายไปแล้ว เขารออีกครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็น Brian กลับมา จึงคิดว่าเดี๋ยวคงกลับจากนั้นจึงเข้านอนปกติ
3
รุ่งเช้าถัดมา Brian ก็ยังไม่กลับมาและเขาก็พบว่าลูกเลี้ยงของเขาที่ชื่อ Christina วัย 13 ปี ก็ไม่ได้อยู่ในบ้านเช่นเดียวกัน เขาและภรรยาจึงรีบแจ้งความเพื่อรายงานเหตุคนหาย เจ้าหน้าที่ลองนำเส้นผมจากที่เกิดเหตุเทียบกับเส้นผมจากแปรงของ Christina ดู....มันไม่ตรงกัน ....
1
Christina หายไปไหน...
James ลองนำฟิลม์เอ็กซเรย์ของ Christina ที่เธอบาดเจ็บที่ขาให้ตำรวจดูอีกครั้ง
คราวนี้มันตรงกับฟิลม์ที่มาจากต้นขาของศพที่เจอ James และภรรยาสูญเสียลูกไปอีกครั้ง
James Brian King และ Christina Benjamin
เจ้าหน้าที่พบเส้นใยผ้าบาง ๆหนึ่งเส้น ที่เกือบจะมองไม่เห็นจากรองเท้าสปอร์ตของ Brian มันเป็นใยผ้าที่ทำจากเบาะรถญี่ปุ่น แต่นอกจากใยผ้า เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบหลักฐานอะไรอีกเลย
เส้นผมสีบรอนด์ในที่เกิดเหตุและเส้นใยจากรองเท้าของ Brain
นักจิตวิทยาด้านอาชญากรรมจาก FBI วิเคราะห์คนร้ายว่าน่าเป็นคนวิตปลาสที่ชอบและสนุกกับการฆ่าคน และไม่ใช่ฆาตรกรข่มขืน เจ้าหน้าที่ลองนำคดีที่มีความคล้ายคลึงกันมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบพบว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ชอบฆ่าสัตว์ตั้งแต่เด็ก จากบาดแผลบนร่างของ Christina บ่งบอกให้เห็นว่าฆาตกรมีความป่าเถื่อนอยู่มากทีเดียว ที่สำคัญมันต้องรู้จักกับทั้ง Christina และ Brian อย่างแน่นอน
ในคืนที่ Brian และ Christina หายตัวไป นายอำเภอได้รับโทรศัพท์แปลกๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนามบอกว่าให้ตรวจสอบชายหนุ่มชื่อ Jason Messey เพราะเด็กทั้งสองคนมีความสนิทสนมกับนายคนนี้ไม่ใช่น้อย
Jason Messey
Jason Messey เป็นชายหนุ่มผิวขาวอายุ 20 ปี ประวัติของเขาไม่ธรรมดา เขาเรียนไม่จบตั้งแต่ชั้นมัธยม และอยู่กับพ่อแม่ที่ติดสุราและยาเสพติด ในวัยเด็กครอบครัวของ Jason ต้องร่อนเร่เปลี่ยนบ้านเช่าไปเรื่อย ๆ เพราะหางานทำไม่ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจประวัติของ Jason ลึกลงไปอีกก็ทำให้รู้ว่าเขามีพฤติกรรมที่ค่อนข้างเป็นอันตราย ชอบความรุนแรง เขาเคยถูกจับจากข้อหาลักขโมยและย่องเบา แต่ที่ดูออกจากผิดปกติคือ การฆ่าและทรมานสัตว์โดยเฉพาะหมาและแมว และเก็บสะสมหัวของสัตว์ในกล่องเย็น
1
ก่อนเกิดเหตุไม่กี่สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขตายอย่างสยดสยองหน้าร้านแม็คโดนัลล์ เมื่อไปถึง พบกับรถสีแทน ส่วน Jason รีบหนีไปก่อนแล้ว เพื่อนของเขาให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า Jason มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทุกครั้งเขาจะหาโอกาสฆ่าสุนัขและตัดหัวและอวัยวะของมัน แล้วป่าวประกาศกับเพื่อนเขาว่านี่คือรางวัลสะสมของเขา เพื่อนของเขายังบอกอีกว่า Jason เคยบอกว่า เขาชอบ Christina มากและอยากจะออกเดทกับเธอ
2
แต่ประโยคที่ทำเอาตำรวจตาถลน เมื่อเพื่อนเขาบอกว่า Jason อยากจะมีเซ็กส์กับเธอและฆ่าเธอซะ แต่เขากลับคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติมากนักกับ Jason เพราะเขา
ชอบพร่ำบ่นเกี่ยวกับการฆ่าผู้หญิงอยู่ตลอดเวลาจนเป็นเรื่องคุ้นชิน
1
ทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่ Jason เจ้าหน้าที่รู้แล้วว่าพวกเขาเจอ
ฆาตรกรแล้ว
แต่ไม่มีหลักฐานอะไรเชื่อมโยงไปหาเขาเลย เจ้าหน้าที่เชิญ Jason ไปโรงพัก ซักถามรายละเอียด แน่นอนเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องกลับมาพึ่งเส้นใยผ้าและเส้นผมที่พบจากที่เกิดเหตุอีกครั้ง
เขาลองนำเส้นผมของ Jason ไปตรวจวิเคราะห์พร้อมกับนำพรมจากรถซูบารุ สีแทนของเขาไปตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่ามันมีคราบเลือดติดอยู่ และเจอเทปสีเทาที่มีเลือดติดอยู่ แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่จะเชื่อมโยงไปถึงปืน 22 มม.ได้เลย แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เบาะแสเพิ่มเติมมาบ้าง เช่น พบใบเสร็จซื้อลูกกระสุนปืน 22 มม. กุญแจมือ และมีดที่ใช้ในป่า
คราบเลือดที่เจอจากเทปกาว มีดและขวานที่เจอจากรถของ Jason
อีกหนึ่งเบาะแสจากพลเมืองดี บอกว่าพวกเขาเจอ Jason มาล้างรถที่ร้าน เจ้าหน้าที่นำเครื่องจับฝุ่นที่ Jason ล้างมาตรวจทำให้เจอเส้นผมยาวสีบรอนด์ มันคล้ายกับเส้นผมของ Christina มากทีเดียว แต่ยังไม่เด่นชัดนัก เลือดจากเทปก็ไม่สามารถยืนยันกับศพที่เจอได้เนื่องจากสภาพศพค่อนข้างแย่ ทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบหลักฐานให้ชัดเจนได้ ส่วนใยผ้าสรุปได้ว่ามาจากรถซูบารุญี่ปุ่น ตรงกับรถของ Jason แต่มันก็ยังไม่เป็นหลักฐานชิ้นเด็ดที่เจ้าหน้าที่จะจับกุม Jason ได้อีกเช่นกัน
3
คราวนี้เจ้าหน้าที่ลองตรวจ DNA จากแม่ของ Christina และจากพ่อของ Brain แทน มันใกล้เคียงกันมากทีเดียว แต่นั่นก็ยังไม่พอที่จะจับ Jason ได้ ที่นี่พวกเขาได้ลองนำหนอนจากร่าง Christina มาเพื่อตรวจสอบระยะวันและเวลา ด้วยการจับอุณหภูมิความร้อนและชื้นที่มีความคล้ายคลึงกับสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม ทั้ง Christina และBrain ถูกฆ่าสองวันก่อนที่จะพบศพ ซึ่งตรงกับวันและเวลาที่ Jason ขับรถไปพบ
Brain พอดิบพอดี
2
การตรวจหาวันและเวลาที่ถูกฆาตกรรมจากการเติบโตและอุณภูมิจากตัวหนอนที่พบบนศพ
Jason ถูกจับกุมในทันที อัยการให้การกับศาลว่า Jason ได้วางแผนการในการฆ่าคนทั้งสองมาสักพักแล้ว
เขาขับรถไปหา Brain ในเที่ยงคืนของวันที่ 27 กรกฎาคม
ด้วยรถซูบารุสีแทน Jason ให้ Brain เรียก Christina ออกมาแล้วชวนทั้งสองนั่งรถเล่น เมื่อถึงใกล้ที่เกิดเหตุ เขาหยุดรถและ ยิงไปที่หัวของ Brain สองนัด
1
Brain เสียชีวิตทันที เขาถีบร่างของ Brain ลงข้างทาง
Christine เปิดประตูวิ่งออกมาจากทางเบาะหลัง เธอวิ่งหนีเข้าป่า แต่ไม่ทัน Jason ยิงเธอที่หลังสองนัด Christina ล้มลง Jason ตามมาแทงเธออีกภายหลัง
อัยการคาดการณ์ว่าชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกตัดตอนเกิดขึ้นหลังจากการตายของเธอ หลักฐานอีกชิ้นที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของ Jason คือกล่องโลหะที่สะสมหัวกระดูกสุนัขถึง 31
ชิ้นด้วยกัน
2
กล่องเย็นใส่หัวของสัตว์ที่ Jason ฆ่า
และยังพบสมุดจดที่ Jason เรียกว่า “The Journal of Jason Messey” ในนั้นได้เขียนว่าเขาหมกมุ่นในการที่จะฆ่าทั้งสัตว์และหญิงสาว เขาเพลิดเพลินที่จะข่มขืนหญิงสาวและตัดอวัยวะชิ้นส่วนเธอ เขาลิสต์รายชื่อผู้หญิงที่ต้องการจะฆ่ามากมาย ในสมุดโน้ตเขาได้จดจำนวนที่ได้ฆ่าสัตว์และตัดหัวพวกมันเอาไว้ ซึ่งมีวัว 8 ตัว สุนัข 30 ตัว และแมวอีก 39 ตัว มันเป็นความภูมิใจของเขาและได้เก็บหัวของพวกมันไว้เป็นถ้วยรางวัลต่างหน้าอีกด้วย
1
สมุดโน๊ตของ Jason ที่เขียนถึงแผนการฆาตกรรมของเขา
เขายังได้เขียนถึง Christina อีกว่าเขาหลงใหลในตัวเธอและอยากฆ่าเธอมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่
จบท้ายด้วยว่าเขาอยากจะทำสถิติในการฆ่าเพื่อให้
กลายมาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ดังที่สุดในสหรัฐอเมริกา เขาชื่นชมฆาตรกรต่อเนื่อง Charles Manson ที่โด่งดังจากการให้สาวกของเขาฆ่าผู้หญิงท้องเจ็ดเดือนอย่างโหดเหี้ยม
โชคดีที่ Jason ไม่สมหวังในสิ่งที่เขาต้องการ ...
Jason ในวันที่เขารับโทษประหารชีวิต
ลูกขุนใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการตัดสินให้ Jason โดนประหารชีวิตด้วยยาพิษ ผู้พิพากษากล่าวกับเขาว่าการตายของเขาด้วยาพิษนั้นยังมีมนุษยธรรมมากกว่าเหยื่อที่เขาฆ่าเสียอีก
Jason ถูกประหารในวันที่ 3 เมษายน 2001
เครดิตภาพ: google/ forensic files
*ติดตามคดีที่สืบจากนิติวิทยาศาสตร์ได้ทุกวันอาทิตย์ค่ะ****
***ถ้าชอบฝากกดไล์ค กดติดตามและแชร์ด้วยนะคร่า****
โฆษณา