16 ส.ค. 2020 เวลา 10:39 • ธุรกิจ
ขาขึ้น และขาลงของ “Luckin Coffee” สตาร์ทอัพกาแฟระดับ
ยูนิคอร์นแห่งแรกของจีน
บริษัท Kopi Kenangan ของอินโดนีเซีย สตาร์ทอัพกาแฟระดับ
ยูนิคอร์นในเอเชียรายต่อไป ?
Top Thinker Times
Luckin Coffee ทำธุรกิจร้านกาแฟโดยเน้นการมีสาขาให้ทั่วถึงมากที่สุด ในรูปแบบ “Mass-store Model” ทั้งนี้ Luckin Coffee ใช้เทคโนโลยีในการช่วยขยาย เเละบริการ ถือว่าเป็นสตาร์ทอัพนยูนิคอร์นกาแฟแห่งแรกในจีนที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
กลยุทธ์ของ Luckin Coffee
1. กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก
-ราคากาแฟถูกกว่าสตาร์บัคส์ประมาณ 25% และมีคูปองให้เลือกมากมายเช่นส่วนลด 50% สำหรับลูกค้าใหม่และซื้อ 1 แถม 1 สำหรับลูกค้าประจำ เพื่อที่จะขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว
2. ให้ลูกค้าทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแอพของ Luckin
-ร้านส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นจุดส่งกาแฟสำหรับออเดอร์เดลิเวอรี และจุดรับสินค้า โดยจะไม่ค่อยมีพื้นที่นั่ง ร้านกาแฟจะอยู่ในทำเลที่มีชื่อเสียงน้อยกว่าสตาร์บัคส์
-ข้อมูลที่รวบรวมผ่านแอพทําให้ Luckin Coffee สามารถจัดตั้งทําเลร้านให้สะดวกสำหรับลูกค้า ใกล้พื้นที่ที่ลูกค้าสั่งออเดอร์บ่อยๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดร้านในทำเลหรูๆ
-Luckin Coffee ยังได้กล่าวว่าใช้ข้อมูล เช่นประเภทกาแฟที่ถูกสั่งบ่อยๆ และเวลาของวันที่ลูกค้าสั่งเพื่อที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงการบริการ
3. จับตลาดกลุ่มชนชั้นกลางกว่า 400 ล้านคนด้วยความสะดวก และกาแฟที่ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
Top Thinker Times
เหตุการณ์สำคัญ และการประเมินมูลค่าบริษัทของ Luckin Coffee
-มกราคม พ.ศ. 2561: Luckin Coffee ได้เปิดตัวร้านกาแฟในกรุงปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้
-ธันวาคม พ.ศ. 2561: หลังจากการระดมทุน Series A และ B ครั้งละ 200 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนหน้านี้ทำให้ปลายปี พ.ศ. 2561 บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าในปี พ.ศ. 2561 บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 241.3 ล้านเหรียญสหรัฐจากการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
-พฤษภาคม 2562: หลังจากได้เม็ดเงินลงทุนอีก 150 ล้านเหรียญสหรัฐจากนักลงทุนรวมถึงบริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทบริหารกองทุนระดับโลก Luckin Coffee ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เเละมีมูลค่าอยู่ที่ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
-มกราคม พ.ศ. 2563: Luckin Coffee ระดมทุนเพิ่มอีก 865 ล้านเหรียญสหรัฐ เวลานี้ Luckin Coffee มีมูลค่าสูงถึง 12 พันล้านเหรียญสหรัฐ และร้านกาเเฟมากกว่า 4,500 แห่งในจีนซึ่งมากกว่า Starbucks ที่มีอยู่ 3,600 ร้าน
-กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563: Hedge Fund Muddy Waters เริ่มชอร์ตหุ้น Luckin Coffee โดยกล่าวหาว่ามียอดขายที่สูงเกินความเป็นจริง ทําให้มูลค่าบริษัทลดลงเหลือประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
-พฤษภาคม พ.ศ 2563: Luckin Coffee ได้ประกาศสอบสวนการโกงทางด้านบัญชีภายในบริษัท หลังจากนั้นได้ไล่ CEO และ COO ออกซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้หุ้นของ Luckin Coffee ร่วงเกิน 80% มูลค่าของบริษัทเหลือแค่ประมาณ 0.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ
-ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ 2563 บริษัทยอมรับว่ามีการโกงรายได้ประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 190 ล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ 2562 ในที่สุดหุ้นก็ถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ
สัญญาณเตือนว่าบริษัท Luckin Coffee มีปัญหา
1. มีกลยุทธ์การตลาดที่เชิงรุกมากเกินไป ใช้เงินในการแจกคูปอง และเครื่องดื่มฟรีในจำนวนมาก
2. ใช้เวลาไม่ถึง2 ปี ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ หลังจากการจัดตั้งบริษัท ซึ่งถือว่ารีบมาก
3. จํานวนถ้วยกาเเฟที่นำออกจากสินค้าคงคลังไม่ตรงกับจํานวนถ้วยที่ขาย
ข้อคิด: เหตุการณ์นี้ได้ส่งเสริมความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯเตรียมดำเนินการกับบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อที่จะปกป้องนักลงทุน
Top Thinker Times
บริษัท Kopi Kenangan ของอินโดนีเซีย สตาร์ทอัพกาแฟระดับ
ยูนิคอร์นในเอเชียรายต่อไป ?
Kopi Kenangan เป็นสตาร์ทอัพที่ทำร้านกาแฟ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2560 ปัจจุบันมีร้านกาแฟ 324 สาขาในอินโดนีเซีย และมีแผนจะขยายถึง 500 สาขาภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563
รูปแบบธุรกิจ:
-โมเดล “Grab & Go” และใช้แอปจัดส่งเพื่อลดพื้นที่นั่งในร้านกาแฟ และค่าใช้จ่ายภายในร้าน
-ใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจ เช่นดูว่าสถานที่ตรงใหนมีการจัดส่งออเดอร์ออนไลน์เยอะก็ไปขยายเปิดสาขาที่นั่น ส่วนมากจะเป็นร้านข้างถนน เเละปั๊มน้ำมันเป็นต้น ซึ่งดีต่อบริษัทเพราะค่าเช่าไม่แพงมาก
-การขยายสาขาไปทำเลที่มีการสั่งออนไลน์เยอะช่วยบรรเทาพิษของโควิด-19
-รายได้จากการส่งกาแฟแบบไร้สัมผัสเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปจากร้านที่มีไว้ให้คนนั่ง
การระดมทุน
1. Series A: 20 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562
2. Series B: 109 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563
-การลงทุนทั้งสองครั้งถูกนำโดย Sequoia Capital ซึ่งเป็น Venture Capital ที่รู้จักกันในการวงการสตาร์ทอัพว่าเป็นผู้นำด้านการลงทุนในยูนิคอร์น หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
-ปัจจุบันมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 477 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดของร้านกาแฟ Kopi Kenangan
-Kopi Kenangan มุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงตลาดผู้ขายกาแฟข้างถนนเช่นบนจักรยานไปยัง Starbucks ด้วยกาแฟที่มีคุณภาพสูง แต่ราคาย่อมเยา โดยเฉลี่ยประมาณ 1.3 เหรียญสหรัฐ / แก้ว (~ 40 บาท / แก้ว)
-เนื่องจากชาวอินโดนีเซียมีรายได้โดยเฉลี่ยประมาณ 15 เหรียญสหรัฐ / วัน (~ 480 บาท / วัน) ร้านกาแฟเเพงระดับสตาร์บัคส์ซึ่งตกอยู่ประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ / แก้ว (~130 บาท / แก้ว) จึงไม่สามารถเข้าถึงตลาดกลุ่มคนอินโดนีเซียส่วนใหญ่ได้
-เป้าหมายของ Kopi Kenangan คือจะพยายามเจาะตลาดผู้ที่ซื้อกาแฟข้างถนน ราคาประมาณ ครึ่งเหรียญสหรัฐ / แก้ว (~ 15 บาท / แก้ว) ให้หันมาซื้อกาแฟคุณภาพสูงของ Kopi Kenangan ในราคาที่ไม่แพงมาก
-นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะล่อใจลูกค้าด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น Boba ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาว SEA และกาแฟโตนดซึ่งเป็นที่ชี่นชอบของชาวอินโดนีเซีย
แผนการขยายตัวในอนาคตของ Kopi Kenangan
-ขยายธุรกิจ Cloud Kitchen ซึ่งจะทำเป็นครัวกลางให้ร้านอาหารที่มีแต่เดลิเวอรีมาเช่า
-นำอาหารที่หลากหลายจากผู้ค้าในชุมชนมาขายในร้าน
-ขยายธุรกิจไปยังไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียหลัง โควิด-19
ขอบคุณที่มาอ่านค่า ฝากติดตามสองพี่น้องนักวิเคราะห์ใน FB เเละ IG ด้วยนะคะ
เป็นกําลังใจให้พวกเราเขียนสิ่งดีๆต่อไปค่า
โฆษณา