สรุปบทสัมภาษณ์ของคุณนิ้วโป้ง อธิป กีรติพิชญ์ในรายการ The Money Growth สัมภาษณ์โดยพี่หนุ่ม money coach และพี่โอม โอมสิริ
- อาชีพสุดท้ายที่ชนชั้นกลางหรือเหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเป็น คือ นักลงทุนหรือ investor
- ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนรุ่นพ่อแม่ อาชีพสุดท้ายอาจจะเป็นการเปิดร้านขายของเล็กๆน้อยๆ เปิดอพาร์ตเมนท์ให้เช่า แต่เดี๋ยวนี้มี 7-11 มาเปิดแทบจะทุกซอย การเปิดร้านขายของแทบจะยากมาก ส่วนการเอาที่ดินมาทำอพาร์ตเมนท์ให้เช่านั้นยิ่งยากกว่าเพราะมีคอนโดอยู่เต็มไปหมด ซึ่งค่าเช่าตอนนี้ก็ตัดราคากัน ราคาเช่าลดลงเพราะต้องแข่งขันเรื่องหาผู้เช่า
- คุณต้องฝึกการลงทุนในหุ้น/กองทุน ฝึกให้อยู่ครบทุกวัฏจักรของหุ้น, ฝึกการติดหุ้น, ฝึกการเฉียดรวยและฝึกการขายหมู
- ถ้าเปรียบหุ้นเหมือนอะไร อาจจะเปรียบเหมือนกล่องอาหารที่มีพลาสติกใสหุ้มอยู่ คือเรารู้ว่าหุ้นตัวนี้ทำธุรกิจอะไรอยู่ เช่น ซื้อหุ้น PTT เราก็้เห็นว่า PTT ทำธุรกิจอะไรบ้าง
- การลงทุนในหุ้นนั้น high risk high return อาจจะไม่ได้กระจายความเสี่ยงมากนัก
- ถ้าเปรียบกองทุนรวมเหมือนอะไร อาจจะเปรียบเหมือนเราซื้อกล่องอาหารเบนโตะแล้วปิดด้วยฝาสีดำ ซึ่งเปิดมาแล้วจะเห็นว่ามีหลายอย่างด้วยกัน โดยกองทุนรวมจะมี fund manager คอยควบคุมเงินที่มากองรวมกัน
- มีการกระจายความเสี่ยง
- เหมาะกับคนที่มีเงินน้อย
จิตวิทยาการลงทุนสำหรับมือใหม่
- ลอง DCA ซึ่งเหมือนกับการผ่อนส่ง โดยในยุคสมัยนี้ควรจะลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมหุ้น
- ถ้าเชื่อว่าหุ้นเป็นขาขึ้นในระยะยาว ควรจะมีหุ้นอยู่ใน position ด้วยซึ่งจะสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
- ระยายาวในความเห็นส่วนตัวของพี่นิ้วโป้ง คือ3-5 ปี
- เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีเงินสด+มีเวลาว่างเยอะ เช่น ตอนเกษียณ ต้องระวังว่าจะไม่ใช้เงินเพลิน โดยเฉพาะเงินที่ครบกำหนดการลงทุนแล้ว เช่น กองทุนรวม RMF เป็นต้น
- อัตราผลตอบแทนของหุ้นและกองทุนรวมอันไหนมากกว่า ต้องตอบว่าอยู่ที่ฝีมือของเราหรือผู้จัดการกองทุนว่าใครจะเก่งกว่า
- ถ้าเป็นหุ้น เราต้องเลือก good stock and good price ถึงจะได้ผลตอบแทนมหาศาล
- ถ้าเป็นกองทุนรวมอาจจะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าขึ้นอยู่กับชนิดกองทุนที่เราลงทุนด้วย
- จำนวนหุ้นที่ซื้อต้องเป็นจำนวนที่เราสามารถดูแลได้ทั่วถึง ในความเห็นของพี่นิ้วโป้งคิดว่าไม่เกิน 10 ตัว
- เราต้อง review port ทุก 6-12 เดือนเพื่อดูหุ้นใน port ว่าfundamental change หรือไม่ ถ้า change เราอาจจะต้อง switch เปลี่ยนตัว
ถ้าพูดเรื่องความเสี่ยง
- หุ้นเสี่ยงกว่ากองทุนรวม
- ข้อเสียของกองทุนรวม คือ มีค่า management fee ซึ่งต้องดูเทียบกับ performance ที่กองทุนทำได้ด้วย
- ในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนจะทำผลตอบแทนแพ้ตลาดหุ้น
การจะประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวอาศัย 3 อย่างดังนี้
1. Cash หรือเงินสด ถ้ามีเงินสดมากก็จะได้เปรียบกว่าคนที่มีเงินสดน้อย ซึ่งเราสามารถหาเพิ่มด้วยการทำงานหรือใช้ทักษะอื่นๆในการหารายได้อื่นๆ
2. Time ยิ่งลงทุนนานเท่าไหร่ จะได้เปรียบกว่าคนที่ลงทุนระยะสั้นๆ
3. Asset allocation ควรจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้ถูกสัดส่วนและถูกจังหวะ
ขอขอบคุณคลิปจากช่อง The Standard และรายการ The Money Growth ครับ
สามารถชมคลิปตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f36116be5013b0cbb97f6f0
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
