Blockdit Logo (Mobile)
NJZ Real History ✍🏻
•
18 ส.ค. 2020 เวลา 02:00 • ดนตรี เพลง
ประวัติของ DJ Hardwell The World’s Number 1 DJ 🌏 ดีเจสุดหล่อแห่งยุค ชายผู้พลิกวงการเพลงอีเล็กทรอส์นิกให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🎵🎶
Hardwell
Hardwell หรือชื่อจริงคือ Robbert van de Corput ( DJ & Producer )
เค้าเกิดในวันที่ 7 มกราคม 1988 เค้าเกิดและเติบโต ที่เมืองเบรดา ตอนใต้ประเทศ เนเธอร์แลนด์
เมื่อเค้าอายุได้ 6 ขวบ โรเบิร์ตก็ได้หัดเล่นเปียนโนและมีความหลงไหลในด้านดนตรีอย่างมาก
เค้าฝึกซ้อมและพัฒนาทักษะตัวเองมาเรื่อยๆ จนอายุ ได้ 12 ปี เค้าได้ดูปาร์ตี้ของงาน MTV ทางโทรทัศน์ และได้ดูสารคดีเรื่อง Dutch Dance Music ที่ร่วมแสดงโดย Armin Van Burren, Tiesto และ Ferry Corsten และนั้นเองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เค้าอยากจะเป็น DJ
และเมื่อเข้ามาสู่ในช่วงอายุ 13 ปี เค้าก็ได้เริ่มเรียนรู้ทักษะทางด้าน DJ และได้เริ่มแสดงความสามารถในด้านการเป็นดีเจให้กับคนนับร้อยได้เห็นในงานวันเกิดของเพื่อนเขา
หลังจบงานเลี้ยงดังกล่าวของของ DJ Hardwell ก็ได้มีความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อเรียกของเขาที่ตอนต้นเขาเรียกตัวเองว่า Robbert เป็น Hardwell ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อที่ได้มาจากการแปลความหมายในนามสกุลของเขาว่า Van De Corput จากภาษาละตินและภาษาดัตช์เป็นภาษาอังกฤษ
เดินสายการเป็นดีเจตามไนท์คลับต่างๆ ทั่วเนเธอร์แลนด์
Hardwell ได้มีคนดูแลและสอนเขาในหลายๆ ด้านนั่นคือ DJ Chuckie ซึ่งในช่วงอายุของเขาจำเป็นต้องมีผู้ปกครองไปด้วยทุกครั้งเพราะว่าเขายังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าไปยังผับบาร์เหล่านั้นเพียงคนเดียว
DJ Chuckie & Hardwell
ณ ตอนนั้นตัวของ Hardwell ได้ปล่อย Track Remix ออกมาจนได้กระแสตอบรับดีมาก จึงถูกเชิญไปสัมภาษณ์ในรายการของโทรทัศน์ท้องถิ่นของในประเทศ เนเธอร์แลนด์
และการสัมภาษณ์สดในครั้งนั้น พิธิกรได้ถามเค้ากลางรายการว่า ความฝันของคุณในอนาคตคืออะไร ?
Hardwell ในวัย 16 ปี ซึ่ง ณ ตอนนั้นเค้ามี Tiesto เป็นไอด้อล
DJ Tiësto
เขาตอบกลับไปด้วยความไร้เดียงสา แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยใจที่มุ่งมั่นว่า...
ซักวันนึงในอนาคต ผมจะเป็น DJ อันดับ 1 ของโลก !!
พิธีกรและผู้คนในห้องส่ง ต่างพากันหัวเราะกับสิ่งที่พวกเค้าได้ยิน !?
DJ อันดับ 1 ของโลก ?
ในปี ค.ศ.2011 เขาถูกจัดให้เป็นดีเจอันดับที่ 24 จากการจัดอันดับโดยDJ Mag’s Top 100 DJและเขายังได้ก่อกำเนิดรายการ Hardwell On Air ใน Podcast อีกด้วย ปัจจุบันรายการนี้ได้ถูกจัดแสดงมากกว่า 65 สถานีวิทยุทั่วโลก และเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรกของเขากับTiestoออกมาชื่อว่า Zero 76
หลังจากนั้นเค้าก็มุ่งมั่นทำเพลงและออกทัวร์ตามไนท์คลับต่างๆ และก็เริ่มที่จะปล่อยเพลงพร้อมกับได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2012 เขาได้มีโอกาสไปแสดงยังงาน Tomorrow Land พร้อมกับปล่อยเพลงคือ Spaceman ซึ่ง Track นี้เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เค้ามีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้รับโอกาสให้ไปร่วมแสดงในเทศกาลเพลงอีเล็กทรอส์นิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างงาน Tomorrow Land
ในปี 2012 นี้เองที่เค้าได้ไต่อันดับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 ของ TOP 100 DJ
และในที่สุดปี ค.ศ.2013 สิ่งที่เค้าใฝ่ฝันจะเป็นมาตลอดชีวิตก็เป็นความจริง เขาก็สามารถขึ้นเป็นดีเจอันดับ 1 ของโลก เขาสร้างคอนเสิร์ต I am Hardwell World Tour ขึ้นมาได้ผลตอบรับที่ดีมากจากแฟนๆของเขา และในปีนี้เขาก็ได้ไปแสดงในงาน Ultra Music Festival ที่ Miami สหรัฐอเมริกาด้วย แถมเขาก็ยังได้รับรางวัลต่างๆมากมาย
หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2014-2015 เขาก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลออกมามากมาย แสดงตามงาน Music Festival หลายๆแห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเราด้วยนะ ( ผมมีโอกาสได้ไปดูมา บอกเลยว่าสนุกม๊ากกกกก)
และยังรักษาตำแหน่งมาได้อีก 2 ปี และออกแสดงทัวร์พร้อมกับปล่อยเพลงฮิตๆออกมาเรื่อย
และปีปลายปี 2018 ก็มีเรื่องที่ทำให้แฟนของ Hardwell ต้องช็อกไปตามๆกัน
เมื่อเค้าก็ได้ประกาศเลิกออกงานทัวร์ และ งานทำเพลงทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการมีเวลา ให้กับครอบครัว
ส่วนตัวผมเองถือว่านี้เป็น DJ ที่ผมชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ผมเคารพการตัดสินใจของเค้านะ แต่ผมก็แอบหวังให้เค้ากลับมาซักที
"Go Hardwell Or Go Home"
โฆษณา