16 ส.ค. 2020 เวลา 09:31 • ธุรกิจ
“อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
 
บริหารเงินได้ ต้องบริหารชีวิตด้วย
เมื่อเรื่องเงินเป็น อีกเรื่องใหญ่ในชีวิตของคนเราเสมอเมื่อ วันที่ 1 ถึงวันสิ้นเดือนจึงมีความหมายมากไม่ว่าจะเป็นการจัดการ การจัดสรร หรือการเอาตัวรอด
อิสรภาพทางการเงิน เป็นคำที่มีความหมายปัจเจก เพราะโจทย์ของอิสรภาพทางการเงินมันจะต้องไม่มีคำว่า “ต้อง” เช่น ต้องมีเท่านั้น ต้องมีเท่านี้ เพราะอิสรภาพทางการเงินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอยากจะใช้ชีวิตในต่างจังหวัด ขณะที่บางคนอยากใช้ชีวิตในเมือง มีความจำเป็นในการใช้เงินที่ต่างกัน จึงไม่จำเป็นต้องมีเงินถึงร้อยล้าน พันล้าน อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ฉะนั้น จุดเริ่มต้นของการมีอิสรภาพทางการเงิน คือต้องกำหนดรูปแบบชีวิตให้ชัดเจนก่อน ว่าชีวิตที่เราต้องการจริงๆ มันคืออะไร เพราะ “อิสรภาพทางความคิดต้องมาก่อน อิสรภาพทางการเงินถึงจะเกิดได้”
โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือพ่อรวยสอนลูก เคยให้นิยามอิสรภาพทางการเงินไว้ว่า รายได้จากทรัพย์สินมากกว่ารายจ่ายรวม คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าต้องสร้างรายได้มากๆ แต่โจทย์จริงๆ อยู่ที่รายจ่าย และทรัพย์สิน ถ้าตลอด 30 วันที่เราทำงาน นำเงินไปใช้จ่ายทั้งหมด ก็จะไม่มีทรัพย์สิน แต่ถ้านำเงินมาเก็บ ลงทุนหุ้น กองทุนรวม เก็บทองคำ ฯลฯ ก็จะสามารถสร้างทรัพย์สินที่มากกว่ารายจ่ายได้ และอาจะมีรายรับจากทรัพย์สินเพิ่มก็ได้
เราปฏิเสธความเป็นมนุษย์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ค่อยสอนให้คนหลีกเลี่ยงความเป็นมนุษย์ ถ้าเก็บเงินเยอะจนกระเบียดกระเสียนมันไม่เป็นมนุษย์ กลายเป็นแค่เครื่องจักรผลิตเงิน
ในเมื่อห้ามธรรมชาติของมนุษย์มีมักความสุขทุกครั้งที่ได้จับจ่าย หรือใช้เงินตอบโจทย์ชีวิตของตัวเองไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือใช้อย่างระมัดระวัง บนพื้นฐานของความรู้ทางการเงินเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินที่จะตามมา
การเก็บเงินอย่างมีวินัย เริ่มต้นง่ายๆ จากการตั้งระบบตัดเงินเก็บอัตโนมัติจากบัญชีอย่างน้อย 10% - 20% ทันทีที่ได้รับเงินเดือน หรือรายได้จากช่องทางต่างๆ ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายว่าในเดือนหนึ่งเราไม่ควรออมได้น้อยกว่านี้ โดยเงินที่ตัดไปแล้ว มีหน้าที่ใช้ต่อยอดอย่างไร เช่น การลงทุน และห้ามนำเงินส่วนนั้นกลับมาใช้เด็ดขาด เพราะหากดึงเงินในอนาคตกลับมา ชีวิตจะไม่เคลื่อนไปข้างหน้า
ส่วนที่เงินที่เหลือหลังจากออมอัตโนมัติเรียบร้อยแล้วจะถูกใช้ไปกับการกิน ใช้ ซื้อของที่เป็นหรืออยากได้ ภายใต้การบริหารแบบหลวมๆ ให้เกิดความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ สร้างสมดุลระหว่างการบริหารเงินและการใช้ชีวิต
ความสมดุลระหว่างทรัพย์สินนอกกาย และสุขสมในใจ เป็นเรื่องที่ สำคัญมาก
ทุกวันนี้ทุกคนรู้อยู่อย่างเดียวคือ เงินไม่พอใช้ เงินขาดเราก็หารายได้เพิ่ม รัฐบาลก็จะส่งเสริมว่าทำยังไงให้หารายได้เพิ่ม ทำยังไงให้ช่วยเรื่องค่าครองชีพ แต่เอาจริงๆ แล้วมันมีสองมิติ ซึ่งคนเราต้องดูแลตัวเองก็คือการออม และการลงทุน เพราะฉะนั้นพอมันไม่ครบมิติ ชีวิตประจำวันเราบริหารเงินไม่ดี ตอนแก่ตัวเราจะลำบาก
“ความรุ่งเรืองแห่งประชาชาติ ขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งทางการเงินของประชาชน” George S. Clason The Richest Man in Babylon”
เครดิต จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือหนุ่ม เดอะ มันนี่ โค้ช
บริหารเงินได้ ต้องบริหารชีวิตด้วย
โฆษณา