16 ส.ค. 2020 เวลา 16:02 • ปรัชญา
ระบบวรรณะ : การแบ่งชนชั้นในอินเดีย
ชาวพุทธทั่วโลกมีความเชื่อว่าเกิดมาชาตินี้ อยากจะได้บุญมาก ต้องได้มีโอกาสเดินทางไปนมัสการกราบไหว้สังเวชนียสถานทั้ง 4 อันเป็นสถานที่สำคัญเนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ สถานที่เป็นที่ประสูติ สวนลุมพินีวันซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศเนปาลมีชายแดนติดกับอินเดีย สถานที่เป็นที่ตรัสรู้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองพุทธคยา สถานที่แสดงพระปฐมเทศนา และสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน
การเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 นั้น ไปได้ทั้งในการจัดของคณะทัวร์และเดินทางไปส่วนตัว แต่ถ้าไปกับคณะทัวร์แล้วจะง่ายสะดวกสบายกว่าการไปส่วนตัวด้วยตนเองทีเดียว แต่ถ้าพวกชอบความอิสระเสรี ชอบในการศึกษาค้นคว้าสถานที่สำคัญๆหรือวิถีชีวิตสังคมอินเดียแล้ว การไปส่วนตัวโดยเที่ยวไปเรื่อยๆดูจะเป็นการดีกว่า แต่ต้องมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษพอสมควรและควรมีไกด์ที่ดีคอยช่วยเหลือในการเดินทางด้วย
1
ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 ที่ประเทศอินเดีย ด้วยการเดินทางทั้ง 2 แบบนั้น คือเดินทางไปกับคณะทัวร์ และครั้งที่ 2 เดินทางไปเป็นส่วนตัวเพื่อศึกษาวิถีชีวิตของสังคมอินเดียในส่วนที่สนใจเฉพาะ คือเรื่องวรรณะ 4 ซึ่งเป็นชนชั้นในสังคมอินเดียมาเป็นระยะเวลายาวนาน 2- 3 พันกว่าปีทีเดียว
ในสังคมชาวอินเดียที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีความเชื่อในเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่คือ "พระพรหม" ว่าเป็นผู้สร้างโลก มนุษย์เราเกิดจากการสร้างด้วยอวัยวะต่างๆของพระพรหม ก่อให้เกิดเรื่องชนชั้นวรรณะ 4 นี้ขึ้นมา
ชนชั้นที่ 1 คือกษัตริย์ ที่เกิดจากการสร้างด้วยอวัยวะคือแขนทั้ง 2 ข้างของพระพรหม จึงมีหน้าที่ในการเป็นผู้นำผู้ปกครอง ทำการสู้รบ
1
ชนชั้นที่ 2 คือพราหมณ์ ที่เกิดจากการสร้างด้วยอวัยวะคือปากของพระพรหม จึงมีหน้าที่ในการอบรมสั่งสอน ประกอบประเพณีพิธีกรรมอันเป็นมงคลต่างๆ
ชนชั้นที่ 3 คือแพทย์ ที่เกิดจากการสร้างด้วยอวัยวะคือท้องของพระพรหม จึงมีหน้าที่ในการค้าขายทำธุรกิจต่างๆให้บ้านเมืองมั่งคั่งร่ำรวย
ชนชั้นที่ 4 คือศูทร ที่เกิดจากการสร้างด้วยอวัยวะคือเท้าทั้ง 2 ข้างของพระพรหม จึงมีหน้าที่ในการทำกสิกรรมทำไร่ทำนา
และยังมีชนชั้นพิเศษ คือจัณฑาล ซึ่งถือเป็นวรรณะชนชั้นต่ำสุด ที่เกิดจากการแต่งงานของชนชั้นต่างวรรณะกัน ซึ่งเมื่อมีลูกออกมาจะเป็นวรรณะจัณฑาล เป็นที่ดูถูกและรังเกียจจากสังคมชาวอินเดียมาก
ในวรรณะกษัตริย์และวรรณะพราหมณ์ถือว่าเป็นวรรณะชนชั้นสูงในสังคมอินเดียมาแต่สมัยครั้งพุทธกาล วรรณะแพทย์พวกพ่อค้าแม่ค้าถือว่าเป็นพวกชนชั้นกลาง และวรรณะศูทรพวกชาวไร่ชาวนาทำกสิกรรมถือว่าเป็นพวกชนชั้นต่ำ ส่วนวรรณะจัณฑาลนั้นถือว่าเป็นชนชั้นต่ำสุดที่ไม่มีหน้าที่อะไร ได้เพียงทำหน้าที่ "ขอทาน" เท่านั้น
1
ถ้าไปศึกษาเรื่องวรรณะของชาวอินเดียตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันแล้ว ที่จะเห็นภาพการถือชนชั้นได้ชัดเจนที่สุดต้องไปดูที่ "ตโปทาราม" ที่เมืองราชเกียร์ ซึ่งในครั้งพุทธกาลเรียกว่ากรุงราชคฤห์ มีพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ปกครอง
ตโปทาราม เป็นธารน้ำร้อนที่ไหลออกมาจากภูเขา ชาวเมืองราชคฤห์ในอดีตได้สร้างเป็นสถานที่อาบน้ำร้อนของชนชั้นทั้ง 4 วรรณะ โดยสร้างเป็นบ่อพักน้ำตามลำดับ 4 ขั้น
ขั้นสูงสุดเป็นที่อาบน้ำของวรรณะกษัตริย์ ปัจจุบันนี้ไม่มีระบบกษัตริย์แล้วพวกที่อาบจึงเป็นพวกที่มีชื่อต่อท้ายด้วยคำว่า "ซิงห์" เชื่อว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากพวกวรรณะกษัตริย์
ขั้นที่ 2 ลดลงมาเป็นที่อาบน้ำของพวกวรรณะพราหมณ์ ซึ่งเป็นน้ำที่ปล่อยมาจากน้ำที่วรรณะกษัตริย์อาบแล้วนั่นเอง
ขั้นที่ 3 เป็นที่อาบน้ำของวรรณะแพทย์ชนชัั้น กลาง ซึ่งเป็นน้ำที่เหลือปล่อยลงจากชั้นที่ 2 ของพวกพราหมณ์อาบแล้ว
1
ชั้นที่ 4 เป็นที่อาบน้ำของวรรณะศูทรชนชั้นต่ำ พวกชาวไร่ขาวนา พวกกรรมกร เป็นน้ำที่เหลือจากวรรณะทั้ง 3 อาบแล้วปล่อยลงมา
และน้ำที่เหลือจากชนชั้นทั้ง 4 นั้นอาบแล้ว จะถูกปล่อยลงมาให้แก่พวกวรรณะจัณฑาลชนชั้นต่ำสุดได้อาบต่อไป ซึ่งเห็นแล้วถือว่าเป็นน้ำที่สกปรกจนมีสีออกดำคล้ำ แต่กระนั้น พวกวรรณะชั้นต่ำทั้งหลายก็อาบน้ำนั้นด้วยอาการอันไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจแต่ประการใด แต่ดูจะอาบด้วยอาการอันเต็มเปรี่ยมไปด้วยความสุขหรรษายิ่ง
สังเกตผู้คนชนชั้นวรรณะต่างๆที่ไปอาบน้ำทั้ง 4 วรรณะ และวรรณะพิเศษอีก 1 คือพวกจัณฑาลนั้น รู้ตัวเองเป็นวรรณะอะไรก็จะอาบน้ำตามสถานที่ของตนๆนั้น วรรณะต่ำจะไม่มีการแอบอ้างเป็นวรรณะสูงเพื่อไปอาบน้ำของพวกชนชั้นวรรณะสูงเด็ดขาด เพราะมีความเชื่อว่าถ้าใครทำเช่นนั้น เป็นการฝ่าฝืนโองการของพระเจ้า เป็นบาปตกนรก
1
ในระหว่างทางเข้าสถานที่อาบธารน้ำร้อนที่"ตโปทาราม" นั้น จะเห็นคนยากคนจนพวกขอทานมานั่งขอทานจำนวนมาก ชาวฮินดูผู้มาอาบน้ำที่ใจบุญก็จะเอาข้าวสารมาบริจาค ส่วนพวกนักท่องเที่ยวส่วนมากจะบริจาคด้วยเงินคนละประมาณ 10 รูปี
ถือได้ว่า ชนชั้นวรรณะในอินเดียเป็นการบริหารจัดการหน้าที่ของมนุษย์ตามศักยภาพความสามารถโดยโองการของพระเจ้าคือพระพรหม ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดที่ชาวอินเดียเคารพนับถือ ซึ่งทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติตามด้วยความศรัทธาและซื่อสัตย์ภักดีตลอดชีวิต
โฆษณา