Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
NINETE9N
•
ติดตาม
17 ส.ค. 2020 เวลา 02:33 • ประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่ 0!!หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ สงคราม7ปี เหล่านักประวัติสาสของยุโรปต่างยกให้เป็นสงครามโลกครั้งที่ 0 เพราะส่งผลกระทบไปถึง 5 ทวีปทั่วโลก ตั้งแต่อเมริกาเหนือ ใต้ ยุโรปแอฟริกา และอินเดียร์ ส่วนเซาท์อีสของเรามีเพียงฟิลิปปินส์เท่านั้นที่เข้าร่วมเพราะตกเป็นอาณานิแคม แฮร่!! ของสเปนตั้งแต่ช่วง1560
ชนวนของสงคราม
เกิดขึ้นเมื่อเมื่อปรัชเซีย ภายใต้การนำของพระเจ้าฟรีเดอร์ริคที่2(Frederck II) ได้ยึด”ไซลีเซีย” (โปแล
นด์,เช็ก,เยอรมันในปัจจุบัน) คืนจากออสเตรียทำให้จักพรรดินี มาเรีย เทเรซ่า มเหสีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์(The holy Roman empire) พร้อมควบอาร์คดัสเซสแห่งออสเตรีย ได้จำยอมเซ็นต์สนธิสัญญา Aix-la-chapelle เพื่อยุติสงครามและยื้อเวลาเพื่อหาพันธมิตรใหม่คือฝรั่งเศสและนาวว์(รัฐนึงในสเปน)โดยเชื่อว่า2หน่อนี้จะช่วยเอาไซลีเซียคืนจากปรัสเซียได้โดยมีการทำสนธิสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับใจความว่า จะรับรองการเอาไซลีเซียคืนจากปรัสเซียพร้อมเงินสนับสนุนทางสงครามจากฝรั่งเศส เมื่อปรัสเซียได้ไซลีเซียคืนก็เหมือนเป็นการกระตุ้น รัฐเซียให้กังวลเกี่ยวกับอิทธิพลทางทหารที่เพิ่มขึ้นของปรัสเซียเพราะเจ้าฟรีเดอร์ริคที่2 (นิสัยชอบทำสงครามขยายดินแดน)
จักรพรรดินี มาเรีย เทเรซ่า ในวัย 17 ปี และสนธิสัญญา Aix-la-chapelle
ส่วนทางปรัสเซียก็มีพันธมิตรที่เด่นๆเลยคือบริเตนใหญ่ซึ่งในตอนนั้นได้ครองแคว้นฮันโนเฟอร์อยู่(1ในรัฐของโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) ก็กลัวว่าฝรั่งเศสจะบุกแคว้นฮันโนเฟอร์(Hannover)(ช่วงนั้นฝรั่งเศสขยายดินแดนไว)สุดท้ายฝรั่งเศสก็ยึดได้สำเร็จ แต่แค่ช่วงเวลาหนึ่ง และรัฐเซียก็เห็นว่าปรัสเซียเริ่มจะมีอำนาจมากเกินเลยมาเป็นพันธมิตรกับออสเตรียและฝรั่งเศสโดยหวังจะยึดดินแดนปรัสเซียทางตะวันออก
จุดเริ่มต้น ในยุโรป
… ในปี ปี1754 บริเตนใหญ่เข้าตีที่มั่นของฝรั่งเศสในอเมริกาเหนือ และยึดเรือสินค้าของฝรั่งเศสไปดื้อๆ100กว่าลำ โดยที่ในขณะเดียวกันนั้นเพื่อนพันธมิตรอย่างปรัสเซียเองก็ทำสงครามอยู่กับ ออสเตรียภายใต้การนำของราชวงศ์ฮาว์ฟบวก เพื่อแย่งดินแดนทั้งในและนอกของจักวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในนั้นคือ โบฮีเมียร์(Bohemia) ต่อมาในปี1756 พระจักพรรดิฟรานส์แห่งออสเตรีย ได้ส่งกองทหารชุดdivision2 ไปยังโบฮีเมียร์ เพื่อเตรียมแมทต์กระชับมิตรกับปรัสเซีย ทางฝรั่งพระเจ้าฟรีเดอร์ริคที่2เมื่อทราบข่าวก็เลยยกมาเป็นข้ออ้างว่าจะโดนออสเตรียจะยกทัพมากระชับมิตร จึงได้ส่งทูตไปสอบถามแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากออสเตรียที่ท่านเรียก….
พระเจ้าฟรีเดอร์ริคจึงได้ประกาศสงครามกับออสเตรียอย่างชอบธรรม โดยพระเจ้าฟรีเดอร์ริคได้ยกทัพไปที่แซกโซนี่ประเทศที่วางตัวเป็นกลางในขณะนั้นเพื่อเปิดทางไปยังโบฮีเมียร์ แตโชคชะตาอาจเข้าข้างปรัสเซียในขณะนั้น ทำให้พระเจ้าฟรีเดอร์ริคพบจดหมายที่แซคโซนี่ติดต่อกับทางออสเตรีย จึงได้เข้ายึดแซกโซนี่และล้อมทหารไว้เพื่อให้อดอาหารและยอมจำนน ในระหว่างที่ปิดล้อมนั้น กองทัพปรัสเซียก็ได้กระชับมิตรสมใจอยากกับทางออสเตรีย ที่เมืองโลโบสิตส์ (Battle of Lobositz) บังเอิญใชช่วงเช้าของวันนั้นมีหมอกปกคลุมหนาทำให้พระเจ้าฟรีเดอร์ริค เห็นกองทัพของออสเตรียแค่เพียงเล็กน้อย เลยพาลคิดว่า ก็คงจะมากระชับมิตรจริงๆนั่นแหละไม่น่าจะมาเอาแต้ม แต่กองทัพของออสเตรียในวันนั้นือทัพหลักของจอมพลบราวน์ (Maximilian Browne) พระเจ้าฟรีเดอริคสั่งทัพม้าควบเข้าไปเพื่อหวังเอาชัยแบบ แต่ดันทะลึ่งควบไปดุ่มๆก็เลย ตู้ม!!! เข้าให้นายพล บราวส์จัดลูกปืนใหญ่มาให้เป็นตับ เลยทำให้ทัพม้าต้องถอยร่นกลับไปไม่เป็นท่า แต่ถึงอย่างนั้นผลก็จบลงโดยที่ชัยชนะยังเป็นของปรัสเซียอยู่ดี
โบฮีเมียร์ 1st Map
ทางแซกโซนี่เห็นว่าออสเตรียมาช่วยไม่ได้แล้วจีงยอมจำนน พระเจ้าฟรีเดอร์ริคจึงได้รวมทหารเข้าด้วยกันและไปตีเมืองพาไลซิกซ์กับเดรสเดรน ผลทำให้ทั่วยุโรปต้องระแวงกันไปหมดว่า เมื่อไรจะเป็นตาของตนเอง ถัดมาในเดือนมกรา 1757 รัฐเซียก็เคลื่อนพลเข้าปรัสเซีย ส่วนสวีเด็นเห็นดังนั้นก็เคลื่อนทัพของตัวเองไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อแย่งดินแดนเดิมของตนเอง
จากความตั้งในเดิมของพระเจ้าฟรีเดอร์ริคที่จะไปบุกโบฮีเมียร์ เกิดล้มเหลวขึ้นในเดือน พฤษาปีเดียวกันนั่นเอง ผลทำให้รัฐเล็กๆหลายร้อยรัฐของจักวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ไปเข้าร่วมกับทางออสเตรียมากกว่า(สมัยนั้นออสเตรียและปรัสเซียเป็นรัฐภายใต้การปกครองของจักวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์)
Map of Dresden in 1521
วันที่ 5พฤจิกา 1757 ทหาร 22000 นายภายใต้การนำของพระเจ้าฟรีเดอร์ริคที่2 ได้เข้าบดขยี้กองทัพฝรั่งเศสผสมออสเตรีย 45000 นายที่เมืองรอสบาร์ก(ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเบอร์ลิน) จนเป็นที่มาของ “สมรภมูิ รอสบาร์ก(Rossbach)” ถัดมาในเดือนธันวาคมของปีเดียวกันนั้นหลังจากที่แกเพิ่งจบศึกรอสบาร์กไปหมาดๆก็ต้องนำทัพ มาต้านออสเตรียที่กำลังรุกเข้ามาในไซลีเซียโดยเรารู้จักกันในชื่อ
“สรภมูมิลิวเธน(Leuthen)” ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สุดของพระเจ้าฟรีเดอร์ริค เพราะว่าในตอนนั้นพระเจ้าฟรีเดอร์ริคมีหทารแค่ 36000 ต้องเจอกับทางออสเตรียที่มีถึง 80000 แต่ผลของการรบจบลงที่ปรัสเซียสามารถเอาชนะได้ภายใน 3 ชม และเสียทหารไปเพียง6000กว่านายแต่ทางออสเตรียเสียไป22000นาย หลังจากนั้นก็ได้นำทัพไปตีสวีเดนและสามารถขับไล่สวีเด็นออกไปจากคาบสมุทรบอลติกได้ก่อนขึ้นปีใหม่
“สมรภมูิ รอสบาร์ก(Rossbach)” และ “สรภมูมิลิวเธน(Leuthen)”
1758 ออสเตรียเกือบยึดแซกโซนี่คืนได้ในสงคราม ฮอตส์กริตส์(Hochkirch)โดยนายพล มาแชล ดอว์น(Marshal Daun’s)นำทหารเข้ามาบุกเซอไพรซ์ถึงที่ตั้งกองกำลังหลักของปรัสเซียในแซกโซนี่ ถึงชัยชนะจะเป็นของออสเตรียแต่ออสเตรียก็ไม่ได้เข้าบุกแซกโซนี่ต่อ ส่วนรัฐเซียก็ยิ่งพยายามที่จะคุกคามปรัสเซียมากขึ้น และได้ร่วมมือกับออสเตรียในสงครามที่คิวเนอร์สดอฟ(Battle of Kunersdorf) เข้าโจมตีพระเจ้าฟรีเดอร์ริคจนพ่ายแพ้และหลบหนีไปได้พร้อมทหารจำนวนหนึ่ง
พระเจ้าฟรีเดอร์ริคพ่ายแพ้ในสงคราม ฮอตส์กริตส์(Hochkirch)
1759 หลังจากปรัสเซียเริมแพ้เป็นจำนวนมากขึ้น ฝรั่งเศสจึงเริ่มมองว่าศัตรูที่แท้ทรูหาใช่ปรัสเซียไม่แต่เป็นบริเตนใหญ่ จึงได้ทำสัญญาฉบับใหม่กับออสเตรีย โดยมีสาระสำคัญว่า ไม่รับรองการได้คืนของไซลีเซียพร้อมทั้งลดเงินในการช่วยเหลือทางทหารลง เมื่อทำสัญญาเสร็จฝรั่งเศสก็ไปตีบริเตนใหญ่แต่ผลก็กลายเป็นแพ้2-0พูลสวัสดิ์ไป
1760 ปรัสเซียชนะ ออสเตรียในไซลีเซียและดันรัฐเซียให้ออกไปจากดินแดนได้
1761 ออสเตรียกลับมายึดไซลีเซียและแซกโซนี่ได้ และรัฐเซียก็ยกทัพมาเพื่ออยากกระชับมิตรด้วยอีกเพราะเริ่มกลัวปรัสเซียบุกเครือ สหภัฒน์ แหลมฉบัง แฮร่ เครือจักภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย ที่มีดินแดนติดกับรัฐเซีย ถึงแม้จะพ่ายแพ้มาหลายครั้งแต่ในนยุคนั้นทหารราบปรัสเซียถือได้ว่าสุดในรุ่น และบริเตนใหญ่ก็ส่งความช่วยเหลือมาได้ไม่เต็มที่เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลง ปธน (โดนรุมกิ๊วๆ)
coat of arms of polish-lithuanian commonwealth
ในปี 1762 ฝรั่งเศส แกงค์ๆก็เลือกเป้าหมายไปที่จักรวรรดิโปรตุเกส(ตอนนั้นเป็นพันธมิตรกับบริเตนใหญ่) แต่ก็ไม่สำเร็จตีไม่บ้านไม่แตก ทางฝั่งรัฐเซียที่กำลังปะทะกับปรัสเซียอยู่ จักพรรดินีเอลิซาเบธของรัฐเซีย(Elizabeth of russia) เกิดสวรรคตและได้พระเจ้า ซาร์ ปีเตอร์ที่ 3(Charles Peter III) ขึ้นครองราชย์ เมื่อขึ้นครองราชย์ก็สั่งให้ยกทัพกลับทั้งๆที่กำลังบุกปรัสเซียอยู่ แถมยังมาทำสัญญาสงบศึกด้วย ทำให้ปรัสเซียได้ดินแดนที่รัฐเซียยึดไปคืนทั้งหมด การกระทำที่ดูไม่มีเหตุผลของพระเจ้าซาร์ที่3 สร้างความไม่พอใจให้หลายๆฝ่ายในประเทศของตน จนเกิด กบฏ โค่นล้มพระเจ้าซาร์ และให้มเหสี ขึ้นครองราชย์แทน ในช่วงเดือน กรกฏาคม 1762 แต่พระนางก็ไม่ต้องการทำสงครามต่อ ทำให้รัฐเซียถอนตัวจากสงครามครั้งนี้ไป ทำให้เหลืออสเตรียหน่อเดียวในสงคราม และก็พ่ายแพ้ในที่สุด
พระเจ้า ซาร์ ปีเตอร์ที่ 3(Charles Peter III)
จนในปีถัดมาในเดือนกุมภาพันธุ์ 1763 ก็ได้เกิดสนธิสัญญา Hubertusburg ถือเป็นการยุติสงครามในยุโรป โดยให้ไซลีเซียยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของปรัสเซียเช่นเดิม
สนธิสัญญา Hubertusburg
สำหรับจุดเริ่มต้นในอเมริกาและลามไปทวีปอื่นขอรวบไว้ที่บทความหน้านะครับ (*´-`*)
Ref :
https://en.wikipedia.org/wiki/Seven_Years%27_War
https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Kunersdorf
http://www.theartofbattle.com/battle-of-rossbach-1757/
บันทึก
2
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย