19 ส.ค. 2020 เวลา 07:25 • ปรัชญา
ที่พึ่งทางใจ ศรัทธา หรือ งมงาย ?
สวัสดีครับทุกคน ก็หลังจากที่ผมไม่ได้เขียนบทความมาสักพักนึงแล้ว เพราะว่ายังไม่มีแรงบันดาลใจหรือว่านึกเรื่องที่จะเขียนออก แต่วันนี้ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งจิบชาอย่างเพลิดเพลินใจอยู่ในร้านโปรดผมก็ได้นึกเรื่องที่จะเขียนออกวันนี้จึงมีบางอย่างที่อยากจะเขียนให้ทุกคนได้อ่านกันครับ
หลายคนที่ติดตามผมมาก็คงรู้แล้วว่าตัวผมเองมีอาชีพก็คือเป็นนักอ่านไพ่ทาโรต์ ซึ่งในสายอาชีพของผมนั้นก็มีนักอ่านไพ่มากมายหลากหลายสไตล์ แต่ละคนก็มีแนวทางที่แตกต่างกันไป
หลายคนมองว่านี่คือสิ่งที่เป็นที่พึ่งทางใจในยามที่เราหาทางออกด้วยหลักการและเหตุผลบางอย่างไม่ได้ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเพราะฉะนั้นแล้วในบางครั้งศาสนา ความเชื่อหรืออะไรบางอย่างที่มีผลต่อจิตใจก็จึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับมนุษย์อย่างพวกเรา
แต่หลายคนก็ยังมองว่าหมอดูนักพยากรณ์นักอ่านไพ่ คือสิ่งที่เป็นความงมงายไร้สาระ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านแนวคิดของผมดูนะครับว่าสิ่งนี้มันงมงายในตัวมันเองจริงๆหรือไม่หรือว่าความงมงายนั้นเกิดขึ้นที่ตัวมนุษย์เอง
สำหรับผมแล้ว ไพ่ทาโรต์ ก็เปรียบเสมือนเครื่องมือที่เต็มไปด้วยศิลปะจิตวิญญาณภาพวาดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่จะสื่อสารคำพูดบางอย่างออกมา ไม่ได้มีแรงจูงใจในตัวเองที่จะชักนำพาผู้คนไปสู่ความงมงายในๆ เครื่องมือก็เปรียบเสมือนเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงาน
เมื่อเรามองว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานของเรา เราจึงมองว่าถ้าจะมองว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่งมงายความงมงายคงไม่ได้เกิดจากเครื่องมือ แต่คงจะเกิดจากผู้ที่แปลสารที่สื่อออกมาจากสิ่งนี้เสียมากกว่า
จุดประสงค์หลักของไพ่ทาโรต์ ถ้าเรารู้จักใช้มันในทางที่ถูกต้องอย่างแรกเลยทุกคนรู้ดีว่าเวลาที่เราเลือกที่จะเข้าหาหนทางนี้ที่จะให้ไพ่เป็นตัวนำทางเรา มันก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่เราอับจนหนทางและจิตใจเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและความทุกข์
เพราะฉะนั้นแล้ว ลองมองสิ่งนี้ให้เป็นเหมือนงานศิลปะในยามที่เราเต็มไปด้วยความเจ็บปวดในจิตใจมองไปที่ภาพเหล่านั้นแล้วลองถามกลับมาที่ตัวเองดูว่าภาพที่แสดงให้เราเห็นตรงหน้ามันได้สอนหลักการอะไรในชีวิตของเราบ้างมันได้บอกอะไรเรา จุดประกายความคิดอะไรเราให้เห็นถึงทางออกหรือทางที่ควรจะไปได้ด้วยตัวเองไหม
เมื่อผู้ใช้เครื่องมือใช้เครื่องมือในทางที่ถูกต้องมันจะเกิดประโยชน์อย่างมากเลยครับไม่ว่าจะกลับตัวเองหรือกับผู้อื่น อย่างเช่นตัวผมเอง ในเวลาที่ผมเต็มไปด้วยความไม่สบายใจแต่ยังพอที่จะมีสมาธิและสติที่จะเปิดไพ่เองอยู่บ้าง ผมก็จะขอคำแนะนำจากไพ่ แล้วลองมองดูภาพที่แสดงออกมาว่าเหมือนใครสักคนนึงที่กำลังสื่อสารกับเราทางภาษากายอยู่ในภาพนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังกังวลใจอยู่ เมื่อเรามองและคิดตาม เราก็จะได้คำตอบและแน่นอนครับว่าคำตอบที่เราได้ไม่ใช่สิ่งที่ไพ่บอกให้เราทำ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดจากข้างในใจของเราเอง ไพ่เป็นเพียงตัวจุดประกายให้เราคิดถึงตัวเองมากขึ้นและประมวลความคิดและหาทางออกได้ด้วยตัวเองได้ดีขึ้นครับ
ผมจึงบอกกับทุกคนเสมอว่าอย่าคาดหวังว่าไพ่ทาโรต์ จะเป็นเสมือนสิ่งวิเศษที่ตอบในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้ได้เพราะนั่นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันก็เหมือนกับการที่เรามีความทุกข์ในใจแล้วเราได้ไปขอคำปรึกษากับใครสักคนนึงเขาคนนั้นก็จะรับฟังเราแล้วแสดงความคิดเห็นออกมา หรือบางครั้งก็อาจจะเสนอแนวทางหรือทางออกบางอย่างให้กับเรา แล้วเราก็รับฟังในสิ่งที่เขาพูดสิ่งที่เขาบอกแต่เมื่อฟังแล้วสุดท้ายเราจะก้าวเดินไปตามทางที่เขาแนะนำหรือไม่เขาไม่ได้บังคับเราแต่มันอยู่ที่เราเอง หรือหากเขาไม่ได้บอกเราว่าเราควรทำอย่างไรหรือควรก้าวเดินไปอย่างไรแต่รับฟังและเสนอแนวคิดบางอย่างหรือพูดบางสิ่งบางอย่างกับเราออกมา บางครั้งความคิดนั้นคำพูดนั้นก็อาจเป็นจุดประกายอะไรบางอย่างในใจของเราและทำให้เราเกิดทางออกได้ด้วยตัวเองก็เป็นได้ครับ
เพราะฉะนั้นแล้วไพ่ทาโรต์ ก็เหมือนใครสักคนนึงที่มีเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ชีวิตในแบบของตัวเขาเองไม่ใช่ผู้ที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้และตอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ใครสักคนนึงต้องการได้ เพราะเขาไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรแต่เขาเป็นใครสักคนนึงเป็นอะไรบางอย่าง ที่ช่วยให้เราได้มองเห็นทางออกได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเองครับ
สำหรับเรื่องนี้ผมว่ามันกำลังสอนเราว่าอย่าพยายามที่จะวอนขอทางออกทุกอย่างทุกสิ่งจากผู้อื่น แต่บางครั้งเราจงรับฟังตั้งใจฟังตั้งใจดูแล้วคิดตามเพื่อให้เราเกิดคำตอบได้ด้วยตัวเองจงจำเอาไว้ว่าคนเราต้องยืนได้ด้วยขาของตัวเองต้องเดินได้ด้วยขาของตัวเอง เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองครับ
โฆษณา