หลังเสร็จงานทริปนี้ วินดามีเวลาแค่ 1 วันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกเท่านั้นในการเที่ยวสงขลา🤗
มาเที่ยวสงขลาสไตล์วินดากันค่าาาาทุกคน🥰😘
“มาสงขลาเก็บประสบการณ์...สัมผัสความเป็นตัวตน”
การมาสงขลาครั้งนี้อยากเห็นทะเล และอยากเข้าเมืองไปเดินเล่นถนนนางงามเป็นหลักค่ะ
เริ่มประเดิมที่แรก ลานจอดรถสวนสาธารณะแห่งใหม่ ณ หาดสมิหลา
วินดาก็พาตัวเองลงจากรถมาแบบงงๆว่าเราอยากเห็นต้นไม้เขียวๆให้สดชื่นเพราะอากาศร้อนมากขนาดนี้เลยหรอ ที่นี่ที่ไหน??? แต่พี่โชเฟอร์แนะนำว่าใครๆเขาก็ถ่ายกันนะ😉📸
อ๋อ...หรอค่ะ โอเคค่ะ วินดาหามุมก๊อนนนน ฮัลโหล!!!ทุกคนเห็นวินดามั้ยค่ะ🙋🏻♀️
ไปต่อค่ะ ใกล้ๆกันนี้ไปที่ริมหาดเราจะได้เห็นเกาะหนูเกาะแมวอยู่กลางทะเล แล้วทุกคนรู้ถึงตำนานเรื่องนี้ไหมค่ะ มาค่ะมามามาเอียงหูมาใกล้ๆวินดาจะเล่าให้ฟังค่ะ คริคริ
เขาเล่ากันว่า...มีชาวจีนคนนึงเดินเรือค้าขายระหว่างสงขลาได้เดินทางไปๆมาๆแล้ววันนึงก็อยากจะเลี้ยงหมากับแมวบนเรือเลยเอาขึ้นเรือมาด้วย แต่ด้วยการเดินทางที่ยาวนานเจ้าหมากับแมวก็เกิดอาการเบื่อ พร้อมกับรู้ว่าตัวพ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่สามารถเดินบนน้ำได้ เลยคิดแผนการให้เจ้าหนูที่มารู้จักกันบนเรือไปขโมยดวงแก้วมาแล้วหนีไปพร้อมกัน
เมื่อเจ้าหนูได้ดวงแก้วมามันก็คาบดวงแก้วไว้ในปาก และทั้งสามก็กระโดดลงทะเลแล้วหนีเพื่อเข้าฝั่ง แต่ในระหว่างที่วิ่งกันมานั้นเจ้าหนูเกิดกังวลว่าเมื่อถึงฝั่งแล้วเจ้าหมากับแมวจะแย่งดวงแก้วไปมันจึงรีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุด ซึ่งในเวลานั้นเจ้าแมวก็คิดเช่นกันมันเลยวิ่งไล่เจ้าหนูมา ด้วยความไม่ระวังดวงแก้วที่เจ้าหนูคาบไว้ได้ทำหลุดจากปากทำให้เจ้าหนูและเจ้าแมวต้องว่ายน้ำแต่ในไม่ช้าด้วยความเพลียและเหนื่อยล้าทำให้มันจมทะเลและตายลง กลายเป็นเกาะหนูเกาะแมว ในขณะที่เจ้าหมาว่ายน้ำตะเกียกตะกายอย่างสุดกำลังแล้วมาเกยหาดตายกลายเป็นหินบริเวณเขาตังกวนอยู่ริมอ่าวสงขลา ดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูแตก ละเอียดกลายเป็นหาดทรายแก้วอยู่ทางด้านเหนือของแหลมสน
และที่เห็นว่าเกาะหนูดูใหญ่กว่าเกาะแมวก็เพราะมันวิ่งเข้ามาใกล้ฝั่งมากกว่าค่ะ
(ทุกคนสังเกตแดดมั้ยค่ะต้องแรงขนาดไหนถึงทำให้เงาของขนตาวินดายาวได้ขนาดนี้☀️🌊)
ไปต่อกันค่ะเดินไปอีกนิดเราก็จะเจอกับนางเงือกผู้โดดเดียว แต่ไม่เป็นไรน้าาาวินดามานั่งเป็นเพื่อนแล้ว
ไหนๆวิวสวยทุกมุมแล้วเราก็ถ่ายกวาดทุกสิ่งอย่างไปเลยละกันนะคะ อยู่ด้วยกันเยอะๆอบอุ่นดีค่ะ ทั้งเกาะหนูเกาะแมว ทะเล ผืนทราย ก้อนหิน นางเงือก และวินดา
เขาว่ากันว่าถ้ามาหาดสมิหลาแล้วไม่ได้ถ่ายกับนางเงือกถือว่ามาไม่ถึงค่ะ รูปนี้บอกเลยวินดานั่ง 3 วิแล้ววิ่งหลบแดดเลยค่ะ ถ้าเป็นไอติมคงละลายไปแล้ววววว☀️
เอาละค่ะเราได้กลิ่นไอของทะเลและเม็ดทรายแล้ว ถึงเวลาขึ้นรถเดินทางต่อเข้าย่านเมืองเก่าสงขลา ถนนนางงาม เพื่อไปศาลเจ้าพ่อกวนอู
ระหว่างทางเดินเท้าที่ถนนนางงาม เราก็จะได้ชมศิลปะชิคๆเก๋ๆตามกำแพง ถ่ายรูปได้ ภาพสวยด้วยค่ะ แสดงถึงความเป็นถิ่นเลย
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตรงไปก็จะเจอกับศาลเจ้าพ่อกวนอูละคะ
แต่ๆๆๆเดี๋ยวก่อนค่ะ ระหว่างทางเดินก่อนจะถึงศาลเจ้าพ่อกวนอูซ้ายมือแนะนำเลยนะคะร้านขนมโบราณ ชื่อร้านจงดี อร่อยมากค่ะ วินดาชอบขนมทองเอกกับขนมสัมปันนีร้านนี้มากกกกกกกกกค่ะนุ่มนิ่ม หนึบๆ รสชาติกำลังดีไม่หวานมาก
ขนมทองเอกที่นี่คล้ายๆภาคกลางแต่จะไม่มีแต้มทองคำเปลว ไม่ขึ้นพิมพ์ และจะห่อด้วยกระดาษสีๆค่ะ จะนิ่มๆหน่อยอร่อยดีแท้เชียว ถ้ามาต้องลองนะคะ
ซื้อขนมเสร็จแล้วเราก็ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆให้ชื่นใจกันดีไหมค่ะ ดีค่ะวินดากระหายน้ำเวอร์ๆ
สดชื่นคลายร้อนแล้ววินดาก็เดินต่อไปที่บ้านนครใน บนถนนนครใน ถนนสายวัฒนธรรมประจำจังหวัดสงขลา
ภายในจัดแสดงของเก่าเก็บสะสมที่ทรงคุณค่า เช่น เตียงโบราณแบบจีน ตู้โบราณ โต๊ะและม้านั่งแบบจีน ถ้วยชามจีน เป็นต้น
รับรองว่าถ่ายรูปกันสนุกเลยค่ะ น่าสนใจทุกมุม ยิ่งด้านบนที่เป็นกระจกด้วยแล้ว ตื่นเต้นดีจังค่ะ
อากาศร๊อนนนมากไม่ไหวแล้วค่ะ ทำให้เราเสียพลังงานไปเยอะเลย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องให้รางวัลแก่ร่างกายบ้าง นี่เลยค่ะไปต่อที่เกาะยอ กินบรรยากาศ สูดกลิ่นไอสงขลาไปด้วย จะร้านไหนก็แล้วแต่เราเลยค่ะ ความถูกปากของรสชาติอาหารคนเราต่างกัน
ปิดท้ายกันด้วยติ่มซำหาดใหญ่ และบักกุ๊ดเต๋ยั่วๆเลยค่าาา😋
อิ่มแล้วกลับบ้านได้😘...ถ้าทุกคนมีโอกาสวินดาขอเชิญชวนมาเที่ยวสงขลากันนะคะ
“ที่นี่เมืองมีเสน่ห์ ผู้คนน่ารัก ทักทายในความเป็นตัวตนค่ะ😄”
แล้วพบกันใหม่นะคะ👋🏻
...😊
#windasharing
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
