20 ส.ค. 2020 เวลา 08:07 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Top 10 เป็นที่สุด ตอนที่ 14
ตอน เบอร์มิวดา สามเหลี่ยมมังกร แดนอาถรรพ์แห่งท้องทะเล Part 1
หากกล่าวถึงแดนอาถรรพ์ลี้ลับบนโลกใบนี้แล้ว คงมีอยู่หลากหลายสถานที่ บนโลก ทั้งบนพื้นดิน และพื้นน้ำ ซึ่งวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
แต่ถ้าพูดถึงแดนอาถรรพ์ลี้ลับที่มีผู้คนมาจบชีวิตเป็นจำนวนมาก คงหนีไม่พ้นความน่าลัวของท้องทะเล อย่างดินแดนน่านน้ำทางทิศตะวันตกของ
มหาสมุทรแอตแลนติก "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา"
และดินแดนน่านน้ำทางตะวันตกของมหาสมุทร
แปซิฟิก อย่าง "สามเหลี่ยมมังกร" แต่บทความใน Part 1 วันนี้ ผมขอนำเสนอ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา หรือ สามเหลี่ยมปีศาจแห่ง น่านน้ำแอตแลนติกตะวันตก เป็นอาณาบริเวณสมมติขึ้น เพราะเป็นดินแดนที่มี เรือเดินสมุทร เครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณนี้หลายต่อหลายครั้ง โดยมีการคาดคะเนพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมนั้น ครอบคลุมตั้ง รัฐฟลอริดา ของสหรัฐอเมริกา ลากไปทางตะวันออกถึงเกาะเบอร์มิวด้า และลงไปทางใต้จนถึงเมือง ซานฮวน ของ เปอร์โตริโก ในทะเลแคริบเบียน เป็นลักษณะรูปสามเหลี่ยมที่มีพื้นที่ประมาณ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร
แผนที่แสดงอาณาบริเวณของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
อะไรที่ทำให้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มีความลึกลับซับซ้อน ขนาดนี้ เรื่องราวความลึกลับเริ่มขึ้นในช่วงปี 1945 หลังสงครามโลก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1945 เครื่องบินรบแบบทิ้งระเบิดจำนวน 5 ลำ หรือฝูงบิน 19 ของฐานทัพฟอร์ดล็อคเคอร์ ของสหัฐอเมริกา ที่ออกบินฝึกรบ มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเหนือน่านน้ำ นอกชายฝั่งฟลอริด้า เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อ ฝูงบิน 19 ที่ติดต่อกลับมาโดย ร้อยเอกเทเลอร์ ข้อความว่า "ผมไม่ทราบตำแหน่งว่าเราอยู่ที่ไหนกัน เข้มทิศมันหมุนอย่างบ้าคลั่ง" สิ้นเสียงวิทยุนี่ก็ขาดการติดต่อไปนับตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ชะตาชีวิตของนักบินฝูงบิน 19 อีกเลย
ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นของนักบินอีกคนหนึ่งของฝูงบิน 19 ร้อยโทโรเบิร์ต คอส ได้รายงานมาที่วิทยุภาคพื้นว่า "ผมเห็นหมอกเป็นสีขาวเรืองแสง พื้นน้ำเป็นสีขาว มองไม่เห็นท้องฟ้า เข็มทิศหมุนจนไม่รู้ทิศทาง นี่เราอยู่ที่ไหนกัน หลังจากนั้นสัญญาณก็ขาดหายไป โดยไม่สามารถติดตามค้นหาได้อีกเลยจวบจนทุกวันนี้"
ฝูงบิน 19
หลังจากที่ฝูงบิน 19 หายไป เครื่องบินช่วยเหลือที่มีเจ้าหน้าที่ 13 นาย บินออกค้นหาเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต แต่เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงคือ เครื่องบินช่วยเหลือกลับหายไปอีก ไม่สามารถติดต่อได้ หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
จากนั่นต่อมา ในปี 1963 จนถึง ปี 1967 ถูกบันทึกสถิติว่าเรือเดินสมุทร ขนาดใหญ่ ที่เดินทางผ่านบริเวณสามเหลี่ยมปีศาจนี่กลับจมหายไปหลายลำ ทั้ง ๆ ที่เรือมีการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยมากขึ้น จำนวนที่จมไปนั่นมีมากถึง 60 ลำ นับได้ว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีเรือเดินสมุทร และเครื่องบินหายไปในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นจำนวนมากโดยไม่สามารถพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้
ในปัจจุบันนี้มีการหาสาเหตุ และทฤษฎีที่มาจะยืนยันสมมติฐานความลี้ลับ ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งก็มีการยกทฤษฎีขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทั้ง ทฤษฎีประตูมิติเวลา ทฤษฎีมนุษย์ต่างดาว ทฤษฎีสนามแม่เหล็กความเข้มข้นสูง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร
แต่มาถึงตรงนี้มีทฤษฏีเดียวที่ตัวผมคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด และก็เป็นที่ยอมรับในทั่วโลกขณะนี้ คือ ทฤษฎีก๊าซมีเทน
โดยทฤษฎีนี้ นายอลัน จัดด์ นักธรณีวิทยาของมหาวิทยาลัยซันเดอร์แลนด์ ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่อง ก๊าซมีเทนว่า ปกติเรือแล้วเรือจะถูกรับน้ำหนักด้วยน้ำ แต่ถ้าน้ำมาแก๊สเข้ามาแทรก จะทำให้น้ำเสียคุณสมบัติการรับน้ำหนักทันที โดยในการทดลองนั่นมีการใช้ หุ่นจำลอง วางบนน้ำ โดยมีแก๊สมีเทนเข้ามาแทรก ผลปรากฎว่าหุ่นจำลองนั่นจมลงน้ำ ไม่สามารถทำให้หุ่นจำลอง ลอยน้ำได้ ซึ่งข้อพิสูจน์นี้ได้มีการนำไปเปรียบเทียบการหายไปของ เรือ เครื่องบิน บนสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า โดยคาดคะเนว่าบริเวณสามเหลี่ยมอาจจะมีแก๊สมีเทนประทุขึ้นมาเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมาก จึงทำให้บรรยากาศบริเวณนั่นเกิดการแปรปรวน อย่างรุนแรง ทำให้ เครื่องบิน หรือ เรือที่เดินทางผ่านเข้าไปในเวลานั่น เกิดการเสียสมดุล และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สอดคล้องกับทฤษฎีที่กล่าวมา ในความคิดของผมเองนั่นผมมองว่า ก๊าซมีเทนนั่นอาจจะประทุขึ้นมาจากผิวโลก ซึ่งบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ลึกลงไปมีร่องลึกก้นสมุทรเปอร์โตริโก ที่ลึกที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นไปได้ว่าก๊าซมีเทนอาจจะก่อตัวขึ้นมาจากจุดนั่น ในระบบสุริยะดาวเคราะห์ที่มีก๊าซมีเทนเยอะที่สุด ก็คือ ดาวเนปจูน ซึ่งมีก๊าซมีเทนจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเมฆหมอกที่มีความหนาแน่นสูงบนดาวเนปจูน สภาวะอากาศที่แปรปรวนทำให้เกิดพายุสีน้ำเงิน
ขนาดใหญ่เท่าโลกบ่อยครั้ง นี่จึงมีความเป็นไปได้ว่า ยิ่งปริมาณก๊าซมีเทนมีมากเท่าไหร่ ก็ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในบริเวณโดยรอบมากเท่านั่น นี่อาจเป็นสาเหตุความผิดปกติเหนือน่านน้ำ
แอตแลนติกตะวันตก หรือ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ทั้งนี้ทั้งนั่น ถึงแม้จะเป็นทฤษฎีที่ถูกยอมรับกันแพร่หลาย แต่ถึงกระนั่น เครื่องบินหรือเรือที่หายสาบสูญไปก็ยังไม่สามารถค้นหาได้เจอจนถึงปัจจุบันนี้ ด้วยพื้นที่ของสามเหลี่ยมมีขนาดพื้นที่ถึง 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร จึงทำให้การค้นหามีความยากลำบาก บางทีเราอาจจะไม่ได้พบเจอ สิ่งที่สาบสูญไปในสามเหลี่ยมปีศาจแห่งนี้อีกเลยก็ได้....
ขอบคุณภาพประกอบ จาก
Top 10 เป็นที่สุด (มังกรเล่าเรื่อง)
เรียบเรียง
ติดตามต่อ Part 2
"สามเหลี่ยมมังกร"
โฆษณา