26 ส.ค. 2020 เวลา 10:30 • ปรัชญา
ความเป็นเรา คือ ขันธ์ 5 อย่างไร
ก่อนอื่นเรามารู้จักความหมายของคำว่า"ขันธ์" แปลว่า ตัว, หมู่, กอง, พวก, หมวด
ฉะนั้นจะว่า ขันธ์ 5 คือ ความเป็นตัวตนอันประกอบด้วย 5 อย่าง
ในเรื่องขันธ์ 5 นั้น มันมีความละเอียกมากๆ แต่ผู้เขียนจะเขียนคร่าวๆให้พอได้มองออกกันนะครับ ขันธ์ 5 มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
-รูป คือ ตัวรูปร่าง ที่ประกอบขึ้นมาจาก มหาภูตะธาติทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบกันเป็นตัวรูป ซึ่ง ในร่างกายเรานั้น ก็มี ธาตุ 4 ครบ กันเลยทีเดียว เช่น ธาตุดินในร่างกายเราประกอบด้วย ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื้อในกระดูก ฯลฯ
-เวทนา คือ ความรู้สึก สุข ทกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์หรือที่เรียกว่าเฉยๆ (อุเบกขา)เพราะรู้สึกสิ่งเหล่านี้จึงเรียก เวทนา
-สัญญา คือ ความจำได้ หมายรู้
-สังขาร คือ การปรุงแต่งของจิต นึกคิดในใจ ให้ดี ชั่ว เป็นกลาง ง่ายคือเครื่องปรุงแต่งจิต ศรัทธา เมตตา โมหะ โทสะ เป็นต้น มีเจตนาเป็นตัวนำ
-วิญญาณ คือ การรู้แจ้ง อาศัย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในการรู้แจ้งจากการสัมผัสของอวัยวะ 6 อย่างดังกล่าว ตัวอย่าง เสียงกระทบ หู เราก็ได้ยิน เพราะเรามีวิญญาณทางหู จึงรู้แจ้งว่ามีเสียง
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะนำเสนอคือ ระบบขันธ์5จะอาศัยกันและกันอย่างกลมเกลียวเหนียวแน่นมากในการเกิดขึ้นและในส่วนของวิญาณขันธ์นั้นสามารถไปรับรู้ ตั้งอยู่เพื่อรู้แจ้งในขันธ์ที่เหลือได้ด้วย จริงๆแล้วสิ่งที่เรารู้นั้น ว่า นี้คือรูปบ้าง เวทนาบ้าง สัญญาบ้าง สังขารบ้าง คือวิญญาณขันธ์เข้ามารับรู้นี้แหละ และมันสามารถรู้ได้แค่ทีละอย่างเท่านั้น ไม่สามารถมารู้สองสิ่งพร้อมกัน เช่น เรากำลังคิดเรื่องอะไรเพลินๆ นั่นคือ สังขารปรุงแต่งขึ้นมา แล้วเกิดวิญญาณมารู้แจ้ง เกิด เวทนา คือความสุข
แต่ทันใดนั้นเราก็ได้ยินแม่เราเรียกเราอยู่ ขณะนี้ วิญญาณมารู้แจ้งทางหูแล้วว่ามีเสียงมากระทบ แล้วเกิดจำได้หมายรู้คือ สัญญา วิญญาณก็วิ่งไปรู้แจ้งสัญญาอีกว่าเสียงแม่เรา แม่ได้พูดขึ้นว่าเรียกเราสองสามรอบแล้วทำไมไม่ได้ยินเหม่อลอยอะไรอยู่ นั่นแปลว่าอะไรครับท่านผู้อ่าน แปลว่ามีช่วงที่เรากำลังคิดเพลินๆใช่ไหมครับ ที่เราไม่ได้ยินเสียงแม่ ทั้งๆที่เสียงมากระทบหู นั่นแปลว่าวิญญาณไปรู้แจ้งสังขารที่ทำให้เราพอใจมีความสุขกับมัน ทำให้วิญญาณไม่ได้มารู้แจ้งทางหู ทำให้เราเหมือนหูบอดชั่วคราว กรณีนี้จะเกิดจากเราตั้งใจ หรือมีความพอใจในอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้แม้เสียงรอบข้างเราก็ไม่ได้ยินนั่นเองครับ เพราะวิญญาณรับรู้ได้เพียง 1 อย่าง เท่านั้น แต่ถ้าเราเข้าใจว่ารับรู้ได้สองอย่างพร้อมกันล่ะ ก็เพราะวิญญาณวิ่งไปรู้แจ้งขันธ์เร็วมากๆครับเร็วพอๆกับแสงเลย จนเราเข้าใจว่ามันรับรู้ได้สองอย่างพร้อมกัน
และนี้คือระบบขันธ์ 5 ระบบตัวตนของเรา ต้นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งหลาย นั่นเองครับ
ต่อไปเมื่อเราเข้าใจระบบมันแล้วเราก็ต้องอยู่กับมันแบบไม่ยึดติดค่อยๆถอนความยึดมั่นถือมั่น ว่าขันธ์5 เป็นเราของเราออก รู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของขันธ์5 ท้ายที่สุดเหมือนโดนหักหลังคิดว่าขันธ์5เป็นเรา แท้จริงพระองค์ก็บอกว่า มันไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย เพราะขันธ์5คือทุกข์ที่แท้จริง เป็นของหนักที่ควรวาง
สุดท้ายนี้ก็ลองให้ผู้อ่านลองสำรวจได้นะครับ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการนั่งสมาธิเอาจิตมาอยู่กับกายรับรู้ลมหายใจเข้าลมออกแล้วลองสังเกตจิตตัวเอง จิตจะรับรู้ได้ไม่เกิน ขันธ์5นี้ แน่นอนครับ
และเชิญชวนให้ทุกท่านมาศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้าเพิ่มเติมจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากๆเลยครับ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ท่านทั้งหลายชั่วกาลนาน
โฆษณา