21 ส.ค. 2020 เวลา 08:59 • ประวัติศาสตร์
“วัน V-J (V-J Day)” วันที่สหรัฐอเมริกามีชัยเหนือญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2
ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ญี่ปุ่นได้ยอมแพ้ต่อสหรัฐอเมริกา ภายหลังถูกทิ้งระเบิดปรมาณูลงยังเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ ไม่สามารถสู้ต่อไปได้
เมื่อข่าวความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นได้ถูกประกาศออกไป ผู้คนทั่วโลกต่างเฉลิมฉลอง เนื่องจากพวกเขารู้ว่า
“สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จบลงแล้ว”
สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่า 65 ล้านคน และมีคนอีกนับล้านที่ได้รับบาดเจ็บและต้องประสบกับความสูญเสีย
1
วันที่ญี่ปุ่นยอมแพ้นี้เอง ถูกเรียกว่า “วัน V-J (V-J Day)” โดย V-J ย่อมาจาก Victory over Japan หรือ “ชัยชนะเหนือญี่ปุ่น” นั่นเอง
มีการจัดงานเฉลิมฉลองชัยชนะนี้ไปทั่วโลก ผู้คนต่างตื่นเต้นดีใจ
หากย้อนกลับไปดูถึงที่มาของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น (ซึ่งผมเคยเล่าไว้ในซีรีส์หลายชุด เช่น เพิร์ล ฮาร์เบอร์, การทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า สามารถหาอ่านได้ครับ) เริ่มจากการโจมตีฐานทัพ Pearl Harbor ของสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐอเมริกาโมโห และประกาศเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร
ภายหลัง เยอรมนีประกาศยอมแพ้สงครามในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) หากแต่ญี่ปุ่นยังสู้ต่อไป
ระหว่างเดือนมีนาคม-กรกฎาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดกว่า 100,000 ตันลงยังเมืองต่างๆ กว่า 60 เมืองทั่วญี่ปุ่น
1
สหรัฐอเมริกาสั่งให้ญี่ปุ่นยอมแพ้ โดยรับรองว่าญี่ปุ่นจะมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมาบริหารประเทศ ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ
1
แต่หากไม่ยอมแพ้ ญี่ปุ่นก็เตรียม “เหลือแต่ซาก”
แต่ญี่ปุ่นยังคงปฏิเสธที่จะยอมแพ้ ดังนั้น วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สหรัฐอเมริกาจึงได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลงยังฮิโรชิม่า ทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายกว่า 90,000-146,000 คน ก่อนที่วันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สหรัฐอเมริกาจะทิ้งระเบิดลงยังนางาซากิ ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายระหว่าง 39,000-80,000 คน
1
ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกนอกจากประกาศยอมแพ้ ตามมาด้วยการเฉลิมฉลองชัยชนะของสหรัฐอเมริกาจนถึงยุโรป
สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ผู้คนกว่า 65 ล้านคนทั่วโลกเสียชีวิต และสังเวยชีวิตทหารอเมริกันกว่า 400,000 นาย ทหารอังกฤษอีก 71,000 นาย
นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญบทเรียนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก
โฆษณา