ทำไมถึงเรียกกางเกงลิง
กางเกงใน หรือที่เรียกกันเล่น ๆ รู้จักกันในชื่อ กางเกงลิง หมายถึงกางเกงชั้นในรัดแนบเนื้อ ไม่มีขาเป็นภาษาปาก หรือภาษาพูด เชื่อว่าน่าจะมาจากศัพท์ที่ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษใช้ด้วยกันคือคำว่า "ลิงเจอรี-lingerie" ที่แปลว่าชุดชั้นในสตรี
ในสมัยโบราณผู้หญิงไทยนุ่งโจงกระเบน เข้าใจว่าคงไม่มีการใส่กางเกงชั้นใน ต่อมาเมื่อรับกระโปรงแบบแหม่มมาสวมจึงเริ่มใช้ชุดชั้นในแบบแหม่มด้วย แต่นิสัยคนไทยชอบพูดย่อๆ จึงเรียกกางเกงชั้นในแบบแหม่มเพียงคำต้นของ "ลิงเจอรี" ว่า "กางเกงลิง"
ชุดชั้นในของสตรีในยุค 1940
ลองไปค้นดูประวัติของ lingerie ของฝรั่งอ้างว่า กางเกงชั้นใน lingerie นี้ กำเนิดขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ประมาณ ค.ศ. 1922 สาวๆ เริ่มใส่กระโปรงสั้น สวมหมวกตอนกลางคืนเพื่อออกไปเฉิดฉายในงานเต้นรำ
คำว่า lingerie นี้ มาจาก ภาฝรั่งเศส "lin" ที่หมายถึง linen(ลินิน) เริ่มต้นนั้นการใช้ชุดชั้นใน ก็เพื่อความอบอุ่น เพื่อสุขภาพอวัยวะภายในต่อมาเริ่มมีแฟชั่นพัฒนามากขึ้นอีกคำหนึ่งที่ใช้ คือ panties ก็หมายความถึง lingerie เช่นกันเพราะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ข้างใน ที่เรียกว่า under wear สำหรับผู้หญิง
panties เริ่มใช้ในยุคการปฏิวัติฝรั่งเศสโดย Catherine de Medici ซึ่งเกิดไอเดียที่ต้องการขี่ม้าโดยวิธีการขี่คร่อมเช่นเดียวกับผู้ชายจึงต้องมีเสื้อผ้าที่จะสามารถปกปิดร่างกายได้มิดชิดโดยไม่ต้องโชว์หวอสู่สายตาชาวโลก
กล่าวสั้น ๆ คือ ที่เรียกว่ากางเกงลิง เพราะเป็นกางเกงที่ไม่มีขา และทับศัพย์ของคำว่า "ลิงเจอรี-lingerie" โดยพูดสั้น ๆ ว่าลิง จึงกลายเป็นคำติดปากว่า กางเกงลิงนั่นเอง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลิงสักตัวเลย
ใส่กางเกงลิงตัวเก่า
ที่เหม็นเน่า กลิ่นแรงนี้
ใส่กางเกงขาดๆ สวมทับอีกที
และก็มีเสื้อเป็นรู ปิดกายา
เพลง กางเกงลิงลอยฟ้า
ขับร้องโดย joey boy
จากภาพยนตร์เรื่อง เก๋า เก๋า
zaba x2