22 ส.ค. 2020 เวลา 11:56 • ปรัชญา
ยาวหน่อย เพราะหนังสือจริงเกือบ 600 หน้าครับ แต่ใครได้อ่านแล้วเอาไปใช้ ชีวิตคุณเปลี่ยนแน่นอน ✌🏼
.
.
.
สรุปหนังสือ “Principles” ของ เรย์ ดาลิโอ หนึ่งในหนังสือพัฒนาตนเองที่ดีที่สุดในโลก โดย Bingobook
ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า Principles เป็นหนึ่งในหนังสือแนวพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุดในโลก ผมแนะนำกับทุกคนว่า ควรต้องซื้อหนังสือนี้ 3 เล่ม เล่มแรกเอาไว้ที่หัวเตียงไว้อ่านก่อนนอน เล่มที่สองวางไว้ที่โต๊ะทำงานและเล่มสุดท้ายมอบให้คนที่คุณคิดว่าเขาจำเป็นต้องอ่านมัน
ที่ผมกล้าพูดแบบนี้เพราะมีไม่บ่อยครั้งนักที่คนรวยที่สุดคนหนึ่งในโลกจะเขียนหนังสือสอนคุณ เขาไม่ได้เขียนเพื่อหาเงิน เพราะต่อให้เขาขายหนังสือได้หนึ่งล้านเล่มก็เป็นแค่เศษเงินสำหรับเขา ดังนั้นหนังสือเล่มนี้คือคัมภีร์การใช้ชีวิตจนประสบความสำเร็จของเขาอย่างแท้จริง
คนที่ผมพูดถึงก็คือ เรย์ ดาลิโอ
เรย์ ดาลิโอ คือเจ้าพ่อกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีทรัพย์สินรวมแล้วมากกว่า 17.4 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อหนังสือของเขาออกวางแผงได้เพียงอาทิตย์เดียว มันก็กลายเป็นหนังสือขายดีติดอันดับจาก New York Times ทันที
นี่คือบทสรุปที่ผมได้จากเรย์ ชายผู้สร้างตัวจากคนที่ไม่มีอะไรเลยจนมาถึงจุดนี้ได้
ก่อนที่คุณจะทำอะไรไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การทำอาหาร หรือการเตะฟุตบอล คุณต้องมีหลักในการทำมัน แล้วคุณจะทำได้ดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อคุณมีหลักในการทำสิ่งนั้นๆ มันหมายความว่าคุณจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้ดีกว่าใครๆ และบรรลุเป้าหมายง่ายกว่าการลงมือทำมั่วๆ แน่นอน
เรย์ยังย้ำอีกว่า “หลักในกาารใช้ชีวิตของคุณ” ต้องเกิดจากตัวคุณเองไม่ใช่ไปลอกคนอื่นมา ซึ่งวิธีสร้างหลักของคุณมีดังนี้
1. ไม่มีสูตรลัดตอนเริ่มต้น
ตอนที่คุณเริ่มทำอะไรสักอย่างนั้นไม่มีหลักการที่ถูกต้องหรอก คุณจะเดินสะเปะสะปะและคุณจะพลาด แต่คุณต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปคุณก็จะค่อยๆ สร้างหลักการที่เป็นรูปเป็นร่างของตัวเองขึ้นมา
2. คุณต้องมีความคิดของตัวเอง อย่าลอกคนอื่น
ต่อให้คุณเอาเทคนิคของคนที่เก่งที่สุดในโลกมาใช้ ก็ใช่ว่าคุณจะทำได้เหมือนเขา เพราะคุณกับเขาเป็นคนละคนกัน ย่อมมีความถนัดหรือสถานการณ์ต่างกัน คุณต้องสร้าง “หลักการของคุณ” ที่เหมาะกับคุณขึ้นมาเอง
3. เรียนรู้จากความผิดพลาด
ตอนที่เรย์ยังเป็นเด็ก เขาก็เหมือนพวกเราทุกคนที่ถูกขัดเกลาโดยสังคมรอบตัว ถูกปลูกฝังวัฒนธรรมและซึมซับวิธีคิดจากคนรอบข้าง แต่เขากลับพบว่าวิธีคิดเหล่านั้นดึงเขาไว้ไม่ให้ก้าวหน้า เมื่อเขาพบว่าเขาถูกสอนความเชื่อที่ผิด เขาก็เรียนรู้และปรับแต่งวิธีคิดของตัวเองให้ดีขึ้น
คนเราส่วนมากก็มีชีวิตที่ไม่ต่างจากเรย์ ทุกคนเริ่มต้นจากการดูสังคมรอบข้างเป็นตัวอย่าง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดตัวเรามากที่สุด แต่เรย์ได้ทำ 2 อย่างที่คนทั่วไปไม่ได้ทำคือ
ข้อแรก เขารู้ตัวว่าวิธีคิดแบบไหนผิด เขาไตร่ตรองอยู่เสมอว่าคิดแบบไหนได้ผลดี คิดแบบไหนได้ผลเสีย นั่นทำให้เขาไม่เชื่อสิ่งที่คนใกล้ตัวบอกแบบไม่ลืมหูลืมตา หลักในการใช้ชีวิตของเขามาจากสิ่งที่เขาสร้าง
ขึ้นด้วยตัวเอง ไม่ใช่ทำตามคนอื่นโดยไม่คิด
ข้อที่สอง เมื่อเขารู้ว่าตัวเองผิด เขาก็ปรับปรุงตัวเองทันที ทำให้เขาหลีกเลี่ยงความผิดพลาดแบบเดิมๆได้ และก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
4. ชีวิตไม่มีวันจบ
จากประสบการณ์ชีวิตและการทำงานที่ผ่านมาของเรย์ เราอาจคิดไปว่า เรย์มีหลักการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผิด ด้วยอายุเกือบ 70 ปีในปัจจุบัน พร้อมประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชน ทุกวันนี้มหาเศรษฐีอันดับต้นของโลกอย่างเรย์ก็ยังทำผิดพลาดอยู่เสมอ
ชีวิตคือการผจญภัย ทุกครั้งที่คนเราก้าวไป ก็จะพบการตัดสินใจครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งไม่มีทางที่เราจะทำได้ถูกต้องทั้งหมด เราทำได้แค่ตัดสินใจให้ดีที่สุดเท่าที่พอทำได้ในขณะนั้น แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเราอาจจะมองย้อนกลับมา เรียนรู้จากมัน และนำไปพัฒนาวิธีคิดเพื่อตัดสินใจครั้งถัดไปอีกในอนาคต
หลักการใช้ชีวิตของเรย์แม้จะถูกขัดเกลามาอย่างดี แต่มันก็ไม่สมบูรณ์แบบ และจะไม่มีทางสมบูรณ์แบบตราบใดที่ชีวิตยังเดินหน้า
ต่อไป
หลักการใช้ชีวิตของคุณเองก็เช่นกัน คุณจะพบการตัดสินใจอีกนับไม่ถ้วนในชีวิตของคุณเอง จะมีบางครั้งที่คุณทำผิด และคุณจะพัฒนาขึ้นถ้าคุณเรียนรู้จากมัน คุณจะพลาดน้อยลง แต่คุณก็จะมีเรื่องใหม่ๆ ให้พลาด
พลั้งได้อีกเสมอ ถ้าคุณไม่หยุดเรียนรู้ คุณจะหาหนทางไปสู่ความสำเร็จได้แน่นอน
มองโลกตามความเป็นจริง
เรย์ ดาลิโอ ฝันไกลตั้งแต่ยังเด็ก แต่ชีวิตจริงของเขามันโหดร้ายไม่เบา เขามาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย จึงต้องลำบากดิ้นรนเพื่อให้ได้สิ่งต้องการ กระนั้นแทบทุกอย่างที่เขาหวังก็ไม่ได้กลายเป็นจริง
ลองนึกดูสิว่าเรย์จะรู้สึกอย่างไร?
เขาตระหนักอยู่เสมอว่า
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ก็แค่ยอมรับมัน ลุกขึ้นใหม่ ปัดฝุ่น แล้วก็ก้าวต่อไป” เขาเรียนรู้ว่า ทำไมถึงไม่สมหวัง แล้วก็ล้มเหลวน้อยลง จนกระทั่งเขาเริ่มทำสำเร็จ
คนส่วนใหญ่ฟังเรื่องราวของเรย์แล้วสรุปว่า “การไม่ยอมแพ้” คือกุญแจสำคัญที่เขาประสบความสำเร็จ แต่เรย์เองไม่ได้คิดแบบนั้น กุญแจที่สำคัญจริงๆ คือ “การเข้าใจความเป็นจริง” ต่างหาก
เรย์เชื่อว่าทุกสิ่งในโลกล้วนมีหลักการและเหตุผลของมัน คนเราจะประสบความสำเร็จได้ถ้าเราเข้าใจความจริงเหล่านี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับการยอมแพ้หรือไม่ยอมแพ้ แต่เกี่ยวกับว่า คุณเข้าใจ “ความจริงของโลก” ดีพอหรือเปล่า
การไม่เพ้อฝันไม่ใช่การทิ้งความฝัน เรย์ ดาลิโอ คงมาไม่ถึงจุดนี้ถ้าเขาไม่มีความฝันและพยายามคว้ามัน แต่คุณต้องทำตามความฝันโดยใช้วิธีที่เป็นไปได้ด้วย
เช่น ถ้าคุณขายของราคา 40 บาท แต่ใช้ต้นทุน 45 บาท คุณจะไม่มีทางรวย ไม่ว่าคุณจะฝันอยากรวยแค่ไหนก็ตาม
ถ้าคุณฝันอยากจะรวย ก่อนอื่นคุณต้องถามตัวเองก่อนว่าถ้าสินค้ามีต้นทุน 45 บาทแล้วขายได้ 40 บาท มันมีโอกาสทำให้คุณรวยจริงไหม? ถ้าไม่ใช่ คุณก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วลองหาทางอื่น
ความจริง + ความฝัน + ความมุ่งมั่น = ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
ความสำเร็จคือการที่คุณทำพลาด แล้วเรียนรู้เพื่อเข้าใจความจริงมากขึ้น ยิ่งคุณเข้าใจ “ความจริง” มากเท่าไหร่ คุณก็จะผิดพลาดน้อยลงเท่านั้น
มาถึงตรงนี้ เรย์มีสูตรลัดสู่ความสำเร็จ 5 ข้อให้คุณ
สูตรลัดความสำเร็จ 5 ข้อของ เรย์ ดาลิโอ
ความสำเร็จเกิดจากการที่คุณคลานเข้าสู่เป้าหมาย และเรียนรู้ผ่านบทเรียนต่างๆ ระหว่างทาง คุณจะเอาแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าคุณมุ่งสู่เป้าหมายโดยไม่เรียนรู้อะไรระหว่างทาง คุณจะเดินผิดทิศและไม่มีวันถึงเป้าหมาย คนบางคนมีประสบการณ์ 30 ปี แต่บางคนมีประสบการณ์ 1 ปี 30 ครั้ง เพราะเขาไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเอาแต่เรียนรู้คุณก็จะไม่คืบหน้า คุณจะหยุดอยู่กับที่ไปตลอดกาล เป็นแค่เสือกระดาษที่รู้แต่ทฤษฎีแต่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เรย์ได้สรุปวิธีที่คุณจะเรียนรู้และก้าวหน้าไปพร้อมกัน เป็น 5 ขั้นตอนคือ
1. กำหนดเป้าหมายแล้วก้าวไปหามัน
2. เผชิญหน้ากับปัญหาระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมาย
ทุกปัญหาย่อมเจ็บปวด และถ้าคุณแก้ปัญหาเหล่านั้นผิดวิธี มันจะทำลายชีวิตของคุณด้วย แต่ถ้าคุณอยากก้าวหน้าคุณก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปเรื่อย
3. หาต้นเหตุของปัญหา
คนส่วนใหญ่เจอปัญหาแล้วก็แก้เลย แต่นั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มันจะไม่ยั่งยืน เพราะตราบใดที่คุณไม่กำจัดต้นตอปัญหา อีกไม่นานปัญหาเก่าก็จะกลับมาอีก
4. คิดหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้น
พอคุณรู้ต้นตอปัญหาแล้ว ค่อยคิดหาวิธีแก้ไขมัน
5. ลงมือทำ
พอคุณวางแผนแก้ปัญหาเสร็จแล้ว ที่เหลือก็คือการลงมือทำให้ไปถึงเป้าหมาย
เมื่อคุณทำตามสูตรลัดทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ซ้าไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง มันจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองและมุ่งสู่เป้าหมายได้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของคุณเอง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการบริหารองค์กร ความสำเร็จ
ย่อมเกิดขึ้นตามมาแน่นอน
การทำให้ครบ 5 ขั้นตอนนี้เพียง 1 ครั้งก็ลำบากมากแล้ว แต่ยิ่งคุณทำได้ครบ 5 ขั้นตอนนี้บ่อยเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งขึ้นไปได้สูงมากเท่านั้น ทุกครั้งที่คุณวนรอบใหม่ คุณจะเจอความท้าทายใหม่ที่ยากกว่าเดิม แต่คุณจะเก่งขึ้นและพร้อมต่อสู้กับอุปสรรคใหญ่ๆ ในอนาคต
ก้าวข้ามจุดตกต่าให้ได้
คุณจะมีช่วงตกต่ำสักครั้งในชีวิต มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เราทุกคนก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แต่ในที่สุดย่อมต้องมีอะไรแย่ๆ เข้ามาในชีวิต คุณจะสูญเสียสิ่งสำคัญ เสียคนที่คุณรักที่สุด เจ็บป่วยจากโรคร้าย หรือไม่ก็อาชีพการงานพังไปต่อหน้าต่อตา เรย์เองก็ผ่านประสบการณ์ร้ายๆ แบบนี้มาเหมือนกัน
ย้อนไปในปี 1982 เรย์มีอายุราว 33 ปี เขาคาดการณ์ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่แน่นอน เพราะในช่วงไม่กี่ปีมานั้นเศรษฐกิจโลกกำลังยับเยิน เมื่อคิดดังนั้นเขาจึงทุ่มเงินลงทุนหมดหน้าตัก เพื่อเดิมพันว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาลง แต่ไม่กี่เดือนถัดมา ตลาดหุ้นอเมริกาเติบโตพุ่งพรวดต่อเนื่องนาน 18 ปี นับเป็นการเติบโตครั้งใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นอเมริกาในประวัติศาสตร์
ในวงการเฮดจ์ฟันด์ ถ้าคุณลงทุนโดยเดิมพันว่าตลาดหุ้นจะลง แล้วมันลงจริงๆ คุณจะกำไรมหาศาล แต่ถ้ามันขึ้นสวนทางกับที่คุณทำนายเอาไว้ คุณย่อมขาดทุนมหาศาลเช่นกัน
การที่เรย์ทุ่มหมดหน้าตักแล้วตลาดหุ้นขึ้นสวนกับที่เขาคาด ทำให้เขาต้องขาดทุนหนักจนบริษัท Bridgewater ของเขาเหลือพนักงานคือเขาเพียงคนเดียว ไม่เหลือลูกน้องแม้แต่คนเดียวที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมา เขาจนตรอกถึงขนาดต้องขอยืมเงินพ่อมาจ่ายค่าไฟ
ในตอนนั้นเรย์รู้สึกท้อแท้หมดหวัง เขาแทบจะยอมทิ้งความฝันแล้วหันกลับไปทำงานประจำ เพราะเขาแทบมองไม่เห็นทางฟื้นกลับมาได้เลย
เราทุกคนจะเจอเหตุการณ์แบบนี้คล้ายๆ กันในชีวิตไม่ช้าก็เร็ว คุณจะมองเห็นทั้งชีวิตพังไปโดยไม่เหลือทางไปต่อ ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณพลาดเอง คนอื่นพลาด หรืออยู่ดีๆโชคชะตาก็มาตลกกับคุณ
ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เรย์เรียนรู้ว่าไม่ว่าเรื่องจะเลวร้ายแค่ไหน สุดท้ายมันก็จะผ่านไป
ไม่ว่าสถานการณ์จะย่าแย่ แต่ถ้าคุณคิดไตร่ตรองให้ดีพอ คุณจะพบทางออกในที่สุด คุณแค่ต้องมองโลกตาม
ความเป็นจริง ยอมรับว่าคุณล้มเหลวหรือพลาดไป และคิดหาทางตะกายกลับขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง
ทุกอย่างมีระบบของมันซ่อนอยู่ คุณแค่ต้องหาให้เจอ
ความสำเร็จของเรย์มาจากการที่เขามองทุกอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบสุริยะ ภูมิอากาศโลก เศรษฐกิจ ตลาดหุ้น หรือคนเราทุกคน เรย์คิดว่าถ้าเราเข้าใจระบบ เราจะทำนายอนาคตของมันได้
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจหรือชีวิตคนเรา ทุกสิ่งเป็นระบบที่จะทำเรื่องคล้ายเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางอย่างเกิดซ้าทุกวัน อย่างเช่นเราเริ่มต้นวันใหม่ทุก 24 ชั่วโมง แต่บางอย่างนานๆ เกิดที เช่น แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี
คนส่วนใหญ่มองออกว่าจะมีวันใหม่ทุก 24 ชั่วโมง แต่ลืมสังเกตไปว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อ 100 ปี, 200 ปี, 300 ปี, 400 ปีก่อน เช่นกัน และในอีก 100 ปีข้างหน้าก็จะเกิดอีก
กระทั่งการแต่งงานครั้งแรก การมีลูกคนแรก การทำสิ่งต่างๆ ที่คุณคิดว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญของชีวิตคุณ สิ่งเหล่านี้ก็เคยเกิดขึ้นซ้าไปซ้ามาตลอดประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องพิเศษที่เกิดกับคุณคนเดียว ถ้าคุณมองว่ามันเป็นระบบที่เคยเกิดมาก่อนแล้ว คุณก็จะเข้าใจว่าควรทำสิ่งเหล่านี้ยังไงให้ดีที่สุด
เรย์เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเขามองสิ่งต่างๆ เป็นระบบที่เกิดขึ้นซ้าๆ เขาจึงทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ
คนส่วนใหญ่คิดว่าปีหน้าจะคล้ายกับปีนี้ แต่ดีขึ้นหรือแย่ลงนิดหน่อย ซึ่งไม่จริงเสมอไป ปีหน้าอาจจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่มาทุก 50 ปี หรือเกิดน้ำท่วมที่มีประจำทุก 10 ปี สิ่งเหล่านี้เกิดซ้ำเรื่อยมาอยู่แล้วในประวัติศาสตร์ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเพราะมันอยู่ไกลจากปัจจุบัน
ระบบที่สำคัญที่สุดที่คุณควรรู้ก็คือ รางวัลมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ ยิ่งคุณฝันไกลหรืออยากไขว่คว้าสิ่งที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน คุณก็ต้องเสี่ยงเท่านั้น ดังนั้นคุณต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี จึงจะมีชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด
นึกภาพว่าคุณต้องเลือกระหว่างชีวิตปลอดภัยที่อยู่ไปวันๆ กับชีวิตอันสุดยอดที่คุณต้องฝ่าฟันอุปสรรคอันยากลำบากจึงจะได้มา คุณเองก็ต้องเลือกระหว่างชีวิตสองแบบนี้เช่นกัน
สองสิ่งที่จำกัดอนาคตของคุณไว้
หลังจากที่เรย์เกือบหมดตัวจากการลงทุนที่ผิดพลาด เขาได้เรียนรู้ที่จะบริหารรางวัลและความเสี่ยง เขาเรียนรู้ที่จะ “กลัวความผิดพลาด” แต่เขายังคงมุ่งไปข้างหน้าตามความฝันของเขาที่อยากเป็นคนยิ่งใหญ่ ไม่นานเขาจึงได้เข้าใจว่า มีสองสิ่งที่ฉุดรั้งเขาอยู่ นั่นคือ อีโก้ และ จุดบอด
อีโก้ คือ ความภาคภูมิใจที่บอกคนเราให้ “ต้องถูกเสมอ” แม้ว่าคุณอาจจะไม่ถูกจริงก็ได้ มันคือ การที่คุณลืมมองไปว่าคุณเองก็ผิดพลาดได้ มันคือ การที่คุณมองข้ามจุดอ่อนของตัวเองว่าคุณอาจผิด สิ่งเหล่านี้จะย้อนกลับมาทำลายคุณเอง
อีกข้อคือ จุดบอด มันคือ การที่คุณคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครรู้จริงทุกเรื่อง กระทั่งเรื่องเดียวคุณก็ไม่มีทางเข้าใจมันได้ทั้งหมด บางคนถนัดภาพใหญ่ บางคนมองรายละเอียดลึกกว่า กระทั่งเรื่องที่คุณชำนาญที่สุด ก็ยังมีบางมุมที่คุณอาจมองไม่ทั่วได้
ถ้าคุณอยากไปได้ไกล คุณต้องกำจัดอีโก้ของตัวเอง และยอมรับว่า คุณก็มีจุดบอด
สองสิ่งนี้ทำให้มหาเศรษฐีระดับโลกอย่างเรย์เคยเกือบหมดตัว และถ้าคุณปล่อยเอาไว้ สักวันมันก็อาจทำแบบเดียวกับคุณได้
แสวงหาคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ
เรย์สอนให้คุณเรียนรู้จากความผิดพลาด หลายคนจึงเข้าใจว่าความผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องดี แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด
สำหรับเรย์ ถ้าเขาทำอะไร เขาต้องการลดโอกาสผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด เขาจะลงทุนโดยมองหาโอกาสกำไรสูงที่ความเสี่ยงต่ำ นั่นเป็นสาเหตุให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักลงทุนแนวหน้าของโลกได้
ทว่า “กำไรสูงความเสี่ยงต่า” เป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งที่นักลงทุนชั้นนำและคนอีกหลายล้านคนทั่วโลกมองหาแต่ไม่เจอ แล้วทำไมเรย์ถึงหาโอกาสงามๆ แบบนี้ได้อย่างต่อเนื่อง? เคล็ดลับก็คือ “ให้แสวงหาคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ”
ถ้าคุณคุยกับคนที่คิดเหมือนคุณหมด คนที่คุณพูดอะไรก็พยักหน้าเห็นด้วย คุณจะมีแค่ไอเดียเดียวเหมือนมองไปที่ภาพสะท้อนของตัวเอง คุณจะไม่มีทางมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ที่หลากหลาย
เรย์ ดาลิโอ เชื่อว่าทุกคนรวมทั้งตัวเขาย่อมมี “จุดบอด” เพราะคนหนึ่งคนย่อมมีมุมมองเพียงด้านเดียว เขาจึงคอยแสวงหาคนที่มีมุมมองต่างจากเขา เพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหรือทำไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น สูตรลัดความสำเร็จ 5 ข้อของเรย์ ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนคนเดียวจะทำเองได้ครบทั้ง 5 ข้อ คุณต้องหาคนอื่นที่มีความถนัดต่างจากคุณมาช่วย เขาคือ คนที่มองโลกไม่เหมือนคุณและแนะนำสิ่งที่คุณขาดไปได้
ยิ่งคุณมีความคิดที่เปิดกว้าง คุณก็จะยิ่งเห็นโอกาสและความเสี่ยงที่คุณคนเดียวอาจมองไม่เห็น สิ่งนี้เองที่ทำให้เรย์ได้เปรียบนักลงทุนคนอื่นและประสบความสำเร็จได้
เรย์นำความเชื่อนี้มาใช้ในการบริหารบริษัทลงทุนของเขาอย่างจริงจัง ในบริษัท Bridgewater ของเขา ไอเดียเป็นใหญ่เสมอ คนในบริษัทสามารถแสดงไอเดียของตัวเองได้อย่างอิสระเต็มที่ และไอเดียที่ดีที่สุดก็จะได้รับการยกย่องไม่ว่าตำแหน่งคุณจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คุณต้องวิเคราะห์ความคิดเห็นของแต่ละคนให้ออก เพราะไม่ใช่ว่าทุกความคิดเห็นจะดีเท่ากัน คุณเองก็ต้องหัดแยกแยะความคิดเห็นที่ดีและไม่ดี เพื่อที่จะตัดสินใจได้ดีที่สุดด้วย
ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือในอนาคต มีโอกาสดีๆ รวมทั้งความเสี่ยงที่คุณมองไม่เห็นอยู่รอบตัวคุณ ยิ่งคุณเปิดใจให้ความคิดเห็นของคนอื่นมากเท่าไร คุณก็จะมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงเหล่านั้นได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
เตรียมลำบาก
คนที่ประสบความสำเร็จย่อมพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกัน พวกเขาย่อมรับรู้ได้ว่าใครเคยผ่านอะไรมาก่อนจะมาถึงวันนี้ เรย์พบว่าความสำเร็จมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ ความยากลำบากและการพึ่งพาผู้อื่น
เรย์พบว่าทั้งตัวเขาเองและคนประสบความสำเร็จที่เขาเคยพบมา ล้วนไม่ได้สำเร็จได้ตั้งแต่วันแรก เพราะทุกคนมีจุดอ่อนอยู่เสมอ และยิ่งใครฝันสูงก็ยิ่งต้องเคยล้มแรงมาก่อน มันเป็นของที่มาคู่กัน
ความล้มเหลวคือบททดสอบ บางคนจะครุ่นคิดอย่างหนักว่า พวกเขาล้มเหลวได้ยังไง เรียนรู้ แล้วก็ก้าวต่อไป
ส่วนบางคนจะคิดว่ามันยาก แล้วก็ล้มเลิก ในที่สุดจะมีแต่คนประเภทแรกที่อยู่ต่อจนประสบความสำเร็จ
ความสำเร็จไม่ใช่การที่คุณบรรลุเป้าหมายหนึ่งแล้วจบ เพราะไม่ว่าคุณจะบรรลุกี่เป้าหมาย มันก็จะยังไม่พอ
ความสำเร็จคือการที่คุณพบเป้าหมายถัดไป แล้วฟันฝ่ามันไปเรื่อยๆ มันคือการที่คุณพัฒนาตัวเองอย่างสม่าเสมอเพื่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆ
นั่นหมายความว่าคุณจะลำบากตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ
เรย์ ดาลิโอ เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่อยากจะเป็นคนยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสำเร็จแบบทุกวันนี้ไม่ใช่การมุ่งไปหาเป้าหมายนั้นโดยตรง มันคือการที่เขาอยากเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งแต่ละความท้าทายนั้นช่วยหล่อหลอมให้เขาเป็นคนที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม คนคนเดียวย่อมไม่สามารถจัดการกับทุกปัญหาหรือความท้าทายที่ถาโถมเข้ามา เขาจึงต้องพึ่งพาทีมงานและผู้คนเพื่อร่วมเดินทางไปกับเขาด้วย ก่อนที่เรย์จะประสบความสำเร็จได้ เขาจึงต้องช่วยให้ผู้คนรอบข้างสำเร็จก่อน
Source: Bingobook
Ref:MONEYLAND
โฆษณา