24 ส.ค. 2020 เวลา 05:00 • ดนตรี เพลง
8-track tapes (เรียกอย่างเป็นทางการคือ stereo 8) แต่โดยทั่วไปมักเรียกว่าตลับ 8 track หรือ เทป 8 track เป็นเทคโนโลยีบันทึกเสียงแบบเทปแม่เหล็กเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1960-1980 และเสื่อมความนิยมตั้งแต่กลางยุค70s แต่เมื่อเทปแบบ Compact Cassette เริ่มเข้ามามีบทบาทและได้รับความนิยมมากกว่า
Ford Motor Company เป็นเจ้าแรกที่ผลิตเครื่องเล่น 8 track ขึ้นให้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในรถยนต์ที่ผลิตออกขายในสหรัฐอเมริกา โดย Ford Mustang เป็นรถรุ่นแรกที่ออกมาพร้อมกับเครื่องเล่น 8-track tapes ในห้องโดยสาร
ในวันที่ 15 กันยายน 1965 เป็นวันแรกที่ 8-track tapes ออกสู่ตลาดครั้งแรก และมีขายเฉพาะในร้านขายอะไหล่รถยนต์เท่านั้น ทุกคนคาดหวังว่ามันจะไประสบความสำเร็จ แต่สถานการณ์กลับไม่ใช่อย่างที่คาดหวัง เพราะมันทำประโยชน์ได้น้อยมาก เกะกะ ดูแลทำความสะอาดยาก และมีปัญหาจุกจิกขณะฟังเพลง แต่เทป 8-track ก็ได้รับรางวัลหลายสาขา มันถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นในปี 1964 โดย Bill Lear เจ้าของ Lear Jet Corporation ร่วมกับบริษัท Ampex, Ford, Motorola และบริษัทแผ่นเสียง RCA Victor เหล่านี้เป็นหลักประกันได้ว่า 8-track จะต้องก้าวขึ้นมาแข่งขันกับแผ่นเสียงได้
แต่จุดอ่อนของตัวมันเอง ในตลับ 8 track มีแกนสำหรับเก็บเทปอยู่แกนเดียว (ส่วน Cassette มี 2 แกนเพื่อเก็บ/ส่ง) ตัวเส้นเทปถูกแบ่งออกเป็น 8 ร่องหรือ track (จึงเรียกว่า 8 track ) เวลาเล่นหัวอ่านจะกดลงบนเส้นเทปเพียง 2 track เพื่ออ่านสัญญาณออกมาเป็นระบบ stereo โดยสายเทปมีลักษณะต่อเนื่องกัน จึงทำให้เล่นได้ไม่มีสุด เว้นแต่เราจะกดหยุดเล่นเอง ซึ่งต่างจาก Cassette ที่เป็นแบบมีหัวและท้ายเชื่อมติดกับแกน หากเล่นสุดก็หยุดเอง หรือกลับด้านเพื่อเล่นใหม่
จุดอ่อนของ 8 track ที่ทำให้คนฟังเพลงเบื่อหน่ายและทำให้ Cassette มาแรงแทนที่มัน เนื่องจากตัวตลับที่ค่อนข้างใหญ่ มีขนาดใหญ่เท่ากับตลับ Cassette
สองตลับรวมกัน ไม่สามารถกรอเร็ว ถอยหลังหรือเดินหน้าแบบ Cassette ได้ หากเล่นไปถึงเพลงที่ไม่ต้องการ ต้องทนฟังไปจากกว่าจะจบ กรอข้ามไม่ได้ ส่วนใหญ่ 8 track จะเป็นเพลงแบบทั้ง album ประมาณ 30 นาทีถึง 40 นาที
8-track tapes ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ ตั้งแต่กลางยุค 60 - 70 เลิกผลิตอย่างเป็นทางการราวปี 1988 ซึ่งเทปม้วนสุดท้ายที่ผลิตออกจำหน่ายคือ Greatest Hits ของ Fleetwood Mac ส่วนในบ้านเราเริ่มเสื่อมความนิยมตั้งแต่กลางยุค70s เพราะมี Cassette ออกมาตีตลาด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา